ได้แต่เดินผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เข้าไปนั่งชิล จิบกาแฟ ทานอาหารเช้าที่ “Porcupine Café” เสียที เชื่อว่าใครก็ตามที่ชอบไปแฮงเอาท์แถวๆซอยอารีย์บ่อยๆจะต้องเคยเห็น หรือเคยเข้าไปนั่งที่คาเฟ่แห่งนี้มาแล้วแน่นอน เพราะบอกได้เลยว่า ใครบ้างที่เดินผ่านร้านนี้แล้วจะไม่รู้สึกดึงดูดอยากเข้าไปข้างในบ้าง? โอเค…ฟังดูแล้วอาจเว่อร์ไปนิด แต่การตกแต่งร้านของที่นี่เขาทำออกมาได้สวยและแปลกตาดีจริงๆ โดยเฉพาะผนังปูนปั้นสีขาวเท็กซ์เจอร์เหมือนถ้ำนั่น ไอ้เราก็เป็นคนแพ้คาเฟ่ที่มีธีมหรือการตกแต่งสวยๆเสียด้วย เห็นคาเฟ่แห่งนี้ครั้งแรก เลยอดอยากรู้ไม่ได้ว่า ทางเจ้าของร้านเขาได้แรงบันดาลใจมากจากไหนกันนะ ดังนั้นสำหรับคอลัมน์ Chillax ในครั้งนี้ เราเลยถือโอกาสเข้าไปหาคำตอบ และไปสัมผัสกับคาเฟ่ที่เราอยากจะเข้าไปแต่ก็ไม่มีโอกาสเสียที กับ Porcupine Café แห่งนี้
สิ่งแรกที่สะดุดตามากที่สุดเกี่ยวกับร้านนี้ ก็คือการตกแต่งร้าน ตัวร้านดูโดดเด่นตั้งแต่ทางเข้าร้านที่เป็นสีขาวโพลนของผนังปูนปั้นดังกล่าว ตัดกับสีไม้ของเก้าอี้ โต๊ะ และขอบหน้าต่าง มีกระถางต้นไม้จัดวางอยู่ด้วยเป็นบางจุดพอให้ดูร่มรื่น แถมยังมีจักรยานสไตล์วินเทจวางเอาไว้เท่ๆเก๋ๆอยู่หน้าร้านด้วย พอเปิดประตูเข้าร้านไป สไตล์การตกแต่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของผนังสีขาวสะอาดตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อน แลดูปลอดโปร่งสบายๆ ภายในร้านจะมีสองโซน โซนแรกจะเป็นบริเวณตรงกลางของร้านที่มีทั้งโต๊ะยาว และโต๊ะเล็กให้เลือกนั่ง ส่วนโซนที่สองก็จะเป็นห้องกระจกเล็กยกระดับขึ้นมาหน่อย มีโต๊ะยาวส่วนกลาง แล้วก็โต๊ะยาวหันหน้าเข้าหน้าต่างสำหรับใครที่ชอบกิน ดื่ม และชมวิวด้านนอกไปด้วย เราได้ถามคุณ อ๋อง เจ้าของร้านว่าแรงบันดาลใจในการตกแต่งร้าน Porcupine Café คืออะไร เขาได้อธิบายว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจากงานปั้น และแบบฟอร์มของถ้ำ ดังนั้นโครงสร้างและการตกแต่งโดยรวมจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ำหรือในบ้านดิน นอกจากนี้คุณอ๋องเองยังเป็นดีไซเนอร์และช่างฝีมือ (craftsman) ดังนั้นเราจะเห็นพวกพร็อปส์ตกแต่งร้านจำพวกงานคราฟต์ ได้แก่พวกเครื่องจักสาน กิ่งไม้แห้ง และหนังสัตว์ ซึ่งแทนที่จะตกแต่งแล้วออกมาดูดิบๆดาร์กๆ แต่ผลที่ออกมาแลดูโมเดิร์นและเก๋ไก๋ไม่เบาเลย เชื่อว่าใครที่มาร้านนี้จะต้องชอบไม่มากก็น้อย
สำหรับเมนูอาหารร้านนี้ มีทั้งของคาวและของหวาน เริ่มต้นที่ “Seafood (Thai Style)” (188 บาท) ซึ่งมีส่วนผสมของสปาเก็ตตี้เส้นดำเหนียวนุ่ม กุ้งสด ปลาหมึก ใบมะกรูด ใบโหรพา พริกหยวก และพริกไทยอ่อน รสชาติเหมือนสปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล ออกไปทางอ่อนๆเผ็ดไม่มาก ส่วน “Beef Burger Bacon” (268 บาท) ที่ได้ลองทานนั้น ต้องบอกว่าขนาดดูจุ๋มจิ๋มกว่าที่คิดไว้มาก เป็นเบอร์เกอร์เนื้อ มีส่วนผสมของเบคอน ผักกาดหอม รสชาติถือว่าใช้ได้ ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก แต่เฟรนช์ฟรายส์ถือว่าทอดกรอบเป็นสีเหลืองทองกำลังดีเลย เมนูนี้จึงเป็นเมนูที่สั่งมากินแบบเพลินๆ พอดีท้องพอเป็นพิธี แต่ถ้าพูดถึงเมนูของหวาน ต้องบอกว่าประทับใจกว่ามาก อย่าง “Choco Raspberry Flourless Cake” (168 บาท) เค้กราสเบอร์รีผสมช็อกโกแลตไร้แป้ง รสชาติเข้มข้น ตรงกลางเป็นครีม ตัวผลไม้ก็สดมาก อร่อยลงตัวดี ไม่หวานมากด้วย ส่วน “Lime Tart” (138 บาท) นั้นถูกใจเรายิ่งกว่า ตัวฐานของทาร์ตทำมาจากแครกเกอร์กรอบๆบดหยาบๆคลุกเคล้ากับเนย ราดด้วยครีมมะนาว ท็อปด้วยวิปครีมสดสีขาว ตกแต่งด้วยใบมิ้นต์ดูน่ารักเก๋ไก๋ รสชาติของตัวฐานที่กรุบกรอบนั้นเข้ากันกับครีมและวิปครีมเป็นอย่างดี ออกเค็มนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ ครีมมี่ๆ กินกันเพลิน ส่วนเครื่องดื่มที่เราประทับใจมากสุดคือ “Sparkling Honey Americano” (138 บาท) ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเราเลยทีเดียว เพราะเป็นการผสมกาแฟเข้ากับน้ำโซดา รสชาติจึงออกขมๆหวานๆปนซ่านิดๆ เหมือนได้ดื่มกาแฟเย็นผสมโซดา แต่ก็อร่อยสดชื่นดี ต่อด้วยน้ำ “Strawberry Italian Soda” (78 บาท) ที่มีส่วนผสมของโซดาและไซรัปรสสตรอว์เบอร์รี และน้ำเสาวรส รสชาติออกเปรี้ยวปะแล่มๆ ใครที่เดินมาเหนื่อยๆร้อนอบอ้าวมาจากข้างนอก สั่งเครื่องดื่มสองอย่างนี้รับรองได้ดับกระหายสมใจ
โดยรวมแล้ว Porcupine Café เป็นร้านที่มีบรรยากาศดีมาก เข้ามาปุ๊ปจะรู้สึกผ่อนคลายทันที นอกจากจะมีความใส่ใจในรายละเอียดการตกแต่งร้านที่ดีมากแล้ว (บางมุมยังแอบให้ความรู้สึกเหมือนคาเฟ่ญี่ปุ่น) ร้านนี้ยังเปิดเพลงได้ดีอีกด้วย (ใครที่ชอบแนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟ-อินดี้ เป็นต้องกรี๊ด) แถมยังมี Wi-Fi มีปลั๊ก เหมาะแก่การมานั่งทำงาน หรือจะมานั่งอ่านหนังสือเงียบๆคนเดียวก็ไม่มีใครว่า ลูกค้าที่นั่งร้านนี้มีทั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่จะมานั่งทำงานหรือไม่ก็มานั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือกันเงียบๆ แต่แนะนำว่าถ้าคุณอยากมาร้านนี้ ให้มาช่วงก่อนเที่ยงนิดๆ เพราะตกบ่ายจนถึงเย็น ลูกค้ามักนั่งกันเต็มร้านแล้วล่ะ
ถือเป็นอีกหนึ่งร้านในซอยอารีย์ที่เหมาะแก่การจิบชา กาแฟ ขนม หามุมสงบนั่งทำงาน หรือแฮงเอาท์กับกลุ่มเพื่อนได้เป็นอย่างดี ในถ้ำเม่นสีขาวสงบแห่งนี้ “Porcupine Café”
ตั้งอยู่ที่: 111/1 ซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์ ติดร้าน Salt)
เปิดบริการวันอังคาร–อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา: 11.00 น. – 22.00 น.
Facebook: https://www.facebook.com/porcupineari
Writer: Thip S. Selley
Photographer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
ROKU (โร-คุ) คืออีกหนึ่งคอลเล็กชั่นที่ร่วมงานกับนักออกแบบระดับโลกอย่าง คอนสแตนติน เกอร์ชิค (Konstantin Grcic) โปรดักซ์ดีไซเนอร์ที่มีผลงานร่วมกับแบรนด์มากมาย อย่าง Muji และ Vitra และยังชนะรางวัลงานออกแบบมาแล้วนับไม่ถ้วน