fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

Damien Hirst at Tate Modern, London
date : 14.สิงหาคม.2012 tag :

 

      

 

       หลังจากห่างหายกันไปนานนะคะกับงานภาคสนามของเรา m.littlelalunta เนื่องจากช่วงเวลาปรับเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แต่เราก็ยังคงตามหาสาระและความบันเทิงมาให้ทุกๆคนได้ชมกันค่ะ  เนื่องจากได้มีโอกาสมาศึกษาต่อข้ามทวีปถึงสหราชอาณาจักร ซึ่งตอนนี้อังกฤษกลายเป็นประเทศที่ทั่วทุกมุมโลกจับตามองมาเป็นพิเศษ เพราะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค (London 2012 Olympic)  ซึ่งถึงแม้ว่าจะปิดฉากลงไปแล้วในวันที่ 12 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมาและยังเป็นวันแม่แห่งชาติของประเทศไทยอีกด้วย 

 

   


วันนี้เราจะแนะนำศิลปินท่านหนึ่ง เขาเป็นคนออกแบบพื้นสนามลายธงชาติอังกฤษกลางพิธีปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่ผ่านมา แต่ประเด็นเราไม่ได้อยู่ที่โอลิมปิกเท่านั้น เพียงแต่เราได้มีโอกาสไปดูและสัมผัสงานของเขามา  เขาคือศิลปิน conceptual art หนึ่งในปรมจารย์ระดับโลก และยังเป็นที่รู้จักของใครหลายๆคนที่ศึกษางานศิลปินเป็นอย่างดี “Damien Hirst” ศิลปินสัญชาติอังกฤษ เกิดที่ Bristol ในปี คศ.1965 และเติบโตที่ Leeds และเป็นที่ที่เขาได้เริ่มเข้าไปศึกษาด้านศิลปะที่ Jacob Kramer College ในปีคศ.1989 และจบการศึกษาระดับปริญญาจากมหาวิทยาลัยอันดับต้นของอังกฤษ อย่าง Goldsmiths College  

Damien โด่งดังมากในด้านของงานinstallation art ที่ใครได้เห็นแล้วคงมีทั้งตกใจ ประทับใจ และอึดอัดใจ ณ Tate Modern, ตึกรูปทรงประหลาดเหมือนโรงงานเก่าขนาดยักษ์ตั้งตระหย่านอยุ่ริมแม่น้ำเทมส์ ใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นสถานที่จัด exhitbition art ทุกแขนง  เช่นเดียวกันกับงานของ Damien Hirst ได้จัดแสดงไว้ให้ประชาชนที่มาเยี่ยมเยียน ได้แวะเข้าชมตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ถึง วันที่ 9 กันยายน 2555

 

 

ภายในห้องจัดงานชั้น 2 ได้แบ่งไว้เป็นส่วนๆ ทั้งหมด 14 ห้อง แต่ละห้องก็มีงานแตกต่างกันออกไป ทั้งงาน photography, painting, mixmedia และ installation art  ผลงานชิ้นเอกที่ทุกคนอาจเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างเช่น

 

A Thousand Years 1990    :
(ซึ่งเป็นการนำเอาหัววัวที่ตายแล้วมาตั้งไว้ในตู้กระจกซึ่งยังคงทิ้งคราบทั้งเลือด และแมลงที่ยังคงบินตอมอยู่)

 


The Physical Impossibility of Death in the Mind of Someone Living 1991 :
(ถือว่าเป็นงานที่โด่งดังมาก เนื่องจากเป็นการน้ำฉลามยักษ์มาสต๊าฟไว้ในตู้กระจก ให้เราได้เห็นโครงสร้างของฉลามตัวมหึมานี้ได้อย่างใกล้ชิด)

With Dead Head 1991
( ซึ่งเป็นภาพขาวดำของ Damien ถ่ายกับศรีษะมนุษย์ ตอนอายุ16 ปี) 

Lullaby, The Seasons 2002
(เป็นยาแต่ละชนิดมาตั้งเรียงกันในตู้อลูมิเนียม โดยแบ่งยาไว้เป็นชั้นๆ เรียงเม็ดสวยงาม ติดกระจกทางด้านหลังให้เห็นภาพสะท้อนของยาแต่ละชนิด) 

Symparthy in White Major – Absolution II 2006 Private Collection
(นำผีเสื้อที่ตายแล้วมาเรียงกันบนผ้าใบที่ลงสีขาว เกิดเป็นลวดลายที่สวยงาม จากจัดวางแบบสลับซับซ้อนกันไปในแบบที่เรียกว่า triptych การแบ่งเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม เป็นศิลปะที่นิยมสร้างกันในศิลปะยุคโกธิคของศิลปะตะวันตก และมักจะใช้เป็นฉากแท่นบูชาในวัดคริสต์ศาสนา)

For the Love of God 2007 (งานระดับ 1000 ล้าน เนื่องจากเดเมี่ยน นำเอาเพรชน้ำงามเม็ดเล็กๆทั้งหมด 1,106.18 กะรัต มาจัดเรียงบนหัวกะโหลกแพลทตินั่มที่ทำขึ้นมา แต่เหงือกและฟันเป็นของจริงที่ติดมากับส่วนของหัวกะโหลกนี้) 

และสุดท้าย Mother and Child (Divided), Exhibition Copy 2007 (original 1993)

(นี่เป็นอีกงานศิลปะแบบจัดวางที่ดังมากๆ ซึ่งเขาได้นำแม่ และลูกวัวที่เสียชีวิตแล้วมาผ่าครึ่ง ตั้งแต่ศรีษะลงมาถึงหาง และสต๊าฟตั้งแยกฝั่งไว้ เราสามารถเดินผ่านและดูส่วนประกอบในตัว ทั้งของแม่และลูกวัวได้ อาจจะเป็นภาพที่ดูหดหู่และน่าขนลุกสำหรับเราไปหน่อย แต่เดเมี่ยนทำงานชิ้นนี้ได้ออกมาอย่างพิถีพิถันมาก สภาพภายในยังคงรักษาไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง)

 

นี่เป็นแค่การยกตัวอย่างงานที่เราเห็นได้บ่อยๆ เพราะงานไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่มีห้องที่เปรียบเสมือนว่าอยู่ในร้านขายยา แต่ทว่า ยาที่ตั้งอยู่เป็นยาที่ใช้ในทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น และห้องที่จัดเก็บเครื่องมือผ่าตัดทุกชนิดเรียงตัวในตู้กระจกอะลูมิเนียม สะท้อนความเงียบและคมกริบของเครื่องมือออกมาอย่างน่ากลัว รวมทั้งหุ่นรางกายมนุษย์ทั้งชายและหญิง รวมถึงคนท้อง และเด้กในครรภ์ตั้งโชว์ให้เห็นว่า ในร่างกายมนุษย์เรานั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง 

 

การเดินชมนานกว่า 2 ชั่วโมงทั้ง 14 ห้องนี้ยังคงไม่พอสำหรับการที่อยากจะสัมผัสความรู้สึกที่เขาได้สื่อออกมาให้เห็น ซึ่งความรู้สึกที่ได้รับจริงๆมีทั้งความกดดัน ความเงียบ ว่างเปล่า และสงบ สำหรับชีวิตที่ได้สูญไปแล้วสำหรับคนและสัตว์ เดเมี่ยนคงพยายามที่จะบอกเราเป็นทางอ้อมว่า “ชีวิตเรานั้นไม่เที่ยง มีเกิดก็มีดับ” เขาได้จับทุกอย่างมาผสมกันได้อย่างกลมกลืนและลงตัวเป็นอย่างมาก ภาพที่ได้ถ่ายมาอาจจะไม่คมชัดเท่าไหร่นัก เพราะทางงานไม่อนุญาติให้ถ่าย แต่ในเมื่อไปเห็นของจริงกับตาแล้วจึงอดไม่ได้ค่ะ

 

หากท่านที่สนใจชมงานแต่อยู่ไกลถึงประเทศอังกฤษ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ http://www.damienhirst.com/home และ http://www.tate.org.uk ค่ะ

 

RECOMMENDED CONTENT

27.พฤษภาคม.2019

“โรคร้ายไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว” เพราะโรคร้ายไม่ได้ทำร้ายแค่ผู้ป่วยเพียงคนเดียว แต่ยังมีคนในครอบครัวและคนอีกหลายคนที่ต้องเจ็บปวดและได้รับผลกระทบเช่นกัน การช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับการรักษานั้น เท่ากับเราได้ช่วยเหลือคนมากกว่าหนึ่งคน