เคยไหม เวลาไปเดท แล้วคู่ของคุณแต่งตัวแบบไม่ให้เกียรติค่าเครื่องสำอางบนหน้าคุณเลย แม้ว่าการเป็นตัวของตัวเองจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่บางครั้งชุดที่คุณผู้ชายแต่งมา ก็ทำให้เราอยากจะรื้อตู้เสื้อผ้าคุณแล้วจับมันมาเผาทิ้งให้หมด มาลองดูกันว่าการแต่งตัวแบบไหนของผู้ชาย ที่ผู้หญิงเห็นทีไรแล้วขัดใจแบบสุดๆกัน!
1. กางเกง Cargo Pants
ไม่ใช่ว่าคุณจะเอาของใส่ไว้ในกางเกงซะเยอะแยะสักหน่อย ได้โปรดอย่าใส่มาออกเดทเลยเราขอร้อง เพราะไม่ว่าคุณจะใส่เสื้อด้านบนมาดีแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่ได้พาเราไปเที่ยวแบบ Adventure เดินป่าอะไรเทือกนั้นก็อย่าใส่มาเลย กางเกงชนิดนี้แต่เดิมออกแบบมาสำหรับคุณพี่ทหาร หรือคุณพี่ช่างที่ต้องใส่ของไว้ในกระเป๋ากางเกงเพื่อความสะดวกสบาย เพราะงั้นเลี่ยงได้ก็เลี่ยง เนื่องจากเห็นแล้วนึกว่าจะชวนไปซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อของเข้าบ้านทุกที มันดู เฉิ่ม เชย และ เป็นตาลุงสุดๆ (Cargo pants แบบขาสั้นก็ไม่รอดนะ เอาไว้ใส่อยู่บ้านเถอะ)
2. รองเท้า Crocs / รองเท้ารูปเท้าสัตว์
ไม่ได้ว่ารองเท้า Crocs ไม่ดี จริงอยู่มันใส่สบาย และไม่อับ แต่อยากถามว่าอายุ 5 ขวบเหรอจ๊ะ ถึงยังใส่ออกไปไหนมาไหน? เรารู้ว่าบางทีคุณก็อยากใส่รองเท้าสบายๆบ้าง แต่ถ้าอยากดูดีในสายตาสาวๆ เราว่าคุณควรหารองเท้า Slippers สำหรับผู้ชายใส่จะดีกว่า เชื่อเราเถอะ คุณจะหล่อและดูเนี๊ยบขึ้นมาอีกเยอะ และบอกเลยว่า รองเท้า Crocs กับกางเกง Cargo เป็นคู่คอมโบ้สุดน่าเกลียด ที่เห็นแล้วอยากบอกว่ากลับบ้านไปรดน้ำต้นไม่เถอะค่ะ อันนี้รวมถึงพวกรองเท้ารูปเท้าสัตว์ที่ชอบขายตามตลาดนัด อย่าใส่เลย ขอร้อง!
3. เสื้อยืดรัดติ้วแขนสั้นจุ๊ดจู๋ จนเห็นขนรักแร้
สำหรับหนุ่มๆ ที่เล่นกล้าม เรารักกล้ามของคุณนะ เราชอบเนินอกที่รัดแน่นอยู่ใต้เสื้อยืดนั้นด้วย เห็นแล้วมันทำให้เราอยากซบ ส่วนแขนคุณก็ล่ำน่าแทะ แต่คุณอาจไม่สังเกตว่า พอใส่เสื้อยืดรัดๆ ที่มีแขนสั้นจุ๊ดจู๋แล้ว ขนรักแร้ของคุณมันแลบออกมาโดยไม่ทันระวัง เพราะแขนเสื้อมันสั้นเกินไป ขอบอกว่านั่นเป็นอะไรที่สาวๆเห็นแล้ว turn off ทันที หมดอารมณ์สุดๆ! เพราะฉะนั้นก่อนออกจากบ้านก็เช็คอะไรให้ดีก่อนก็แล้วกัน
4. กางเกงหลุดตูด (Saggy Pants)
ไม่รู้ว่าไอ้แฟชั่นขัดใจแม่นี้ใครเป็นคนคิดมันขึ้นมา ประเภทใส่กางเกงสุดหลวมเหมือนใส่ไว้ที่หัวเข่า โชว์บ็อกเซอร์ลายสุดจ๊าบ มันทำให้ดูรำคาญลูกตา จนอยากจะช่วยดึงขึ้นมาให้เป็นที่เป็นทาง ผู้ชายที่โตแล้วและมีวุฒิภาวะ ไม่มีใครเขาโชว์กางเกงในให้ชาวบ้านดูกันหรอกนะ
5. หมวก Beanie และ Fedora
มนุษย์หมวกที่ใส่เป็นประจำอาจจะขัดใจ ถ้ามันเป็นสไตล์ที่คุณใส่ทุกวัน เราก็ไม่ได้ว่า แต่ถ้าจะใส่มาเพื่อสร้างความประทับใจกับสาวๆ ลองคิดดูดีๆก่อนใส่ละกัน เพราะรอดยาก แถมถ้าไม่ชิน คุณก็จะมัวแต่ระวังหมวกคุณอีกว่าจะใส่หรือจะถอด ใส่ในที่ร่มได้มั้ย เข้าร้านอาหารแล้วต้องถอดหรือเปล่า
6. ป้ายพนักงาน
เราไม่ได้ห้ามการเดทในวันทำงาน แต่หลังเลิกงานแล้วก็ช่วยเก็บป้ายห้อยคอให้พ้นหูพ้นตานี๊ดนึง ป้ายพนักงานไม่ใช่เครื่องรางของขลังที่ต้องพกติดตัวค่ะ เลิกงานแล้วก็ใส่กระเป๋าไว้นะ ไม่ต้องโชว์
7. ใส่รองเท้ากีฬาทุกสถานการณ์
ไปเตะบอลกับเพื่อน ไปเดินห้าง ไปกินข้าวดูหนัง ก็คู่เดียวกันหมด จริงอยู่ว่าผู้ชายอาจไม่คิดมาก และรองเท้ากีฬาบางแบบก็สวยดี แต่บางครั้งมีรองเท้าประเภทอื่นติดบ้านไว้บ้างก็ดีนะ เพราะรองเท้าบางแบบจะทำให้คุณดูหล่อ และดูแตกต่างจากผู้ชายคนอื่นอย่างไม่น่าเชื่อ ลองดูรองเท้าบูทแบบ Casual, Slippers หรือ Boat shoes เอาไว้หน่อย ไว้ผลัดเปลี่ยนไม่ให้ดูจำเจดูบ้าง
8. รองเท้าแตะหนีบ
ถ้าไม่เป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักกาลเทสะ ก็คงไม่มีใครใส่หรอก แต่ก็มีอยู่บ้างกับผู้ชายจอมชิลล์ ที่ไม่แคร์อะไรใดๆทั้งสิ้น จะโชว์ความเป็นตัวของตัวเองก็ไม่ว่า แต่จงมั่นใจว่าเล็บเท้า และนิ้วเท้าของคุณได้รับการดูแลเป็นอย่างดีก่อนใส่ก็แล้วกัน
9. เสื้อโปโลยกปก
เข้าใจว่ามันเป็นแฟชั่น ถึงขนาดที่บางแบรนด์ออกแบบมาให้ตั้งปกโชว์ลาย แต่เอาจริงๆนะ ในสายตาผู้หญิงมันดูน่าหมั่นไส้มากกว่าดูเท่ ผู้ชายด้วยกันเห็นแล้วก็อาจจะเหม็นขี้หน้าด้วยเหมือนกัน ผู้หญิงเห็นแล้วถึงจะไม่ว่าอะไร แต่มันทำให้คุณดูเป็นลุคนักเลง หรือดูมั่นใจเกินเหตุ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นยังไงก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
10. แว่นตากันแดดแบบสะท้อนแสง (Reflective sunglasses)
มันสวย มันเท่ มันเป็นแฟชั่น แต่เก็บไว้ตอนไปเที่ยว Outdoor ดีกว่านะคุณ แดดเมืองไทยร้อนก็จริงนะ แต่ไม่ต้องใส่ตลอดก็ได้ เพราะบางครั้งมันทำให้ดูเป็นโรโบคอป หรือไอ้มดแดง ถ้าเบ้าหน้าไม่หล่อจริงนี่มีโอกาสแป๊กสูงมากๆ อีกอย่าง สาวๆเขาไม่ชอบพวกผู้ชายที่แต่งตัวจัดจ้านกว่าตัวเองหรอกนะ จะบอกให้
Writer: PUMPUI
RECOMMENDED CONTENT
“People on Sunday” (2562) เป็นการตีความ บทสนทนาโต้ตอบ และสาส์นแสดงความนับถือต่อภาพยนตร์บุกเบิกจากประเทศเยอรมันเรื่อง “Menshen Am Sonntag” (2473) หรือ “ผู้คนในวันอาทิตย์” ผลงาน “People on Sunday” (2562) ได้นำภาพยนตร์ต้นฉบับดังกล่าวกลับมาตีความใหม่ผ่านบริบทที่แตกต่างจากเดิม ทั้งยุคสมัย ภูมิประเทศ ตลอดจนสภาพในการทำงาน