พวกเขาเหล่านี้ไม่เพียงแค่ออกแบบเสื้อผ้า หากแต่เปลี่ยนโลกแฟชั่นให้ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ นี่คือสุดยอดดีไซเนอร์ทั้ง 12 คน ที่สร้างคำนิยามของการแต่งกายใหม่ให้เป็นที่จดจำของทุกคนไปตลอดกาล
Yves Saint Laurent: “The Saint”
เขาคือนักออกแบบชาวฝรั่งเศสระดับตำนานที่ชีวประวัติเพิ่งถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ถึงสองเรื่องติดๆกันเมื่อปีที่แล้ว อีฟ แซง โลรองต์ คือหนึ่งในนักออกแบบที่แต่งตัวเนี้ยบกริบทุกกระเบียดนิ้วตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่ว่าจะเป็นชุดเสื้อคลุมสีขาวสำหรับการทำงานในสตูดิโอ ชุดสูทสีเข้มสำหรับงานปาร์ตี้ ไปจนถึงแจ็คเก็ตซาฟารีสุดเท่สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และแน่นอนคงต้องรวมถึงเจ้าแว่นตากรอบอะซิเตดขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์
Ralph Lauren: “The All American”
ราล์ฟ ลอเรน คือหนึ่งในนักออกแบบชาวอเมริกันที่โด่งดังที่สุดของโลก เขาคือภาพฝันของหนุ่มอเมริกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็นภาพของนักธุรกิจหนุ่ม หนุ่มเพรพพี (preppy) ฝั่งตะวันออก หรือจะเป็นหนุ่มห่ามสไตล์คาวบอย ภาพหล่อเท่ทั้งหมดล้วนถูกหลอมรวมกลายเป็นภาพของ ราล์ฟ ลอเรน อย่างสมบูรณ์ โลกแฟชั่นที่เขาสรรค์สร้างจึงเป็นอาณาจักรแฟชั่นที่เพียบพร้อมเหมือนดั่งตัวเขาที่ทำหน้าที่ปรุงแต่งฝันของหนุ่มๆทุกคนให้กลายเป็นจริงได้
Marc Jacobs: “The Bad Boy”
นักออกแบบที่ถูกขนามนามว่าเป็น ‘แบดบอย’ แห่งนิวยอร์กแฟชั่น แต่เราขอเรียกเขาว่าสุดยอดชายหนุ่มที่ฉีกกฏเกณฑ์ของแฟชั่นสุภาพบุรุษ มาร์ก เจคอบส์ คือนักออกแบบที่ทำให้แฟชั่นกรันจ์แบบไอ้หนุ่มผมยาวเซอร์ๆเป็นที่นิยมในทศวรรษที่ 1990’s จนกระทั่งตอนนี้ หากคุณเริ่มเห็นผู้ชายสวมกระโปรงกับรองเท้าบู๊ตออกจากบ้าน ก็ขอให้รู้ไว้ว่าเทรนด์นี้มิได้มาจากใครที่ไหนไกล นอกจากสไตล์การแต่งตัวของเจคอบส์ในปัจจุบันนั่นเอง
Yohji Yamamoto: “The Conqueror”
โยจิ ยามาโมโตะ คือนักออกแบบชาวตะวันออกคนสำคัญที่เปลี่ยนการแต่งกายของสุภาพบุรุษในตะวันตกให้เต็มไปด้วยความลึกลับ โครงชุดเทคนิคการเดรปผ้าผสมผสานโครงสร้างแบบดีคอนสตรักต์ (Deconstruct) ก่อนหยอดรายละเอียดของสีที่ดูลึกลับอย่างดำ เทา และแดง แนวเสื้อผ้าที่พวกเราเห็นในปัจจุบันซึ่งถูกเรียกว่ารูปแบบใหม่นั้น เกือบทั้งหมดล้วนเป็นสไตล์การออกแบบที่ยามาโมโตะเคยสร้างสรรค์แล้วทั้งนั้น
Hedi Slimane: “The Rocker”
เขาคนนี้คือนักออกแบบชื่อดังที่ไม่ได้มีความสามารถแค่การออกแบบเสื้อผ้าเพียงเท่านั้น แต่เอดี สลีมาน ยังเป็นช่างภาพแฟชั่นมือฉมัง อีกทั้งยังเป็นไอคอนหนุ่มร็อคแนวสตรีทคนสำคัญที่ผลักดันให้แฟชั่นร็อคเกอร์สไตล์กางเกงฟิตติ้วกลายเป็นเอกลักษณ์ของห้องเสื้อ Dior Homme ปัจจุบันสลีมานคือนักออกแบบที่ฉีกทิ้งกฎเกณฑ์เก่าๆของ Yves Saint Laurent จนไม่เหลือซาก แล้วได้สร้างตัวตนใหม่ให้กับห้องเสื้อดังกล่าวในรูปแบบของหนุ่มร็อค อารมณ์ดุดัน แถมยังเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ให้สั้นและทันสมัยขึ้นว่า ‘Saint Laurent’ อีกด้วย
Gianni Versace: “The Goldfinger”
เมื่อพูดถึงเวอร์ซาเช่ ทุกคนต้องนึกถึงความเซ็กซี่ลายหลุยส์ หัวเมดูซ่า และสีทองอร่าม เจียนนี เวอร์ซาเช่ คือหนึ่งในนักออกแบบคนสำคัญที่เป็นต้นแบบของหนุ่มอิตาเลียนทางใต้ที่ชื่นชอบความโดดเด่น งานออกแบบของเขายังทำหน้าที่เติมเต็มความปรารถนาของเหล่าผู้ชายที่หลงรักความอลังการ และแน่นอนสีเหลืองทองที่ดูโก้หรู
Calvin Klein: “The Minimalist”
เขาคือผู้ชายคนแรกที่สวม t-shirt ง่ายๆกับชุดสูทจนกลายเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน และก่อนที่ Kate Moss และ Mark Wahlberg จะกลายเป็นพรีเซ็นเตอร์คนดังของแบรนด์ ตัวคาลวิน ไคลน์ นี่แหละที่ถือเป็นพรีเซ็นเตอร์คนสำคัญของแบรนด์ตัวเอง เพราะไคลน์แสดงให้ทุกคนเห็นว่าสุภาพบุรุษสุดเท่สามารถสร้างได้อย่างง่ายดายด้วยเสื้อ t-shirt และชุดสูทสไตล์มินิมอล
Domenico Dolce & Stefano Gabbana: “The Dynamic Duo”
เบื้องหลังม่านแบรนด์ดัง สเตฟาโน แกบบานา (ซ้าย) คือคนค้นหาแรงบันดาลใจแปลกใหม่ ในขณะที่ โดเมนิโก โดลเช่ (ขวา) ก็เป็นผู้สร้างสรรค์แรงบันดาลใจเหล่านั้นให้กลายเป็นผลงานจริง สไตล์ที่นักออกแบบทั้งสองทำร่วมกันจึงกลายเป็นต้นแบบให้สไตล์สูทเข้ารูปสีดำเคร่งขรึม พร้อมเนกไทขนาดผอมบางกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก และแน่นอนนั่นยังรวมถึงการใช้ชีวิตท่องเที่ยวกับเหล่าคนดังแบบเจ็ตเซ็ตที่หนุ่มๆหลายคนฝันว่าจะทำได้บ้างสักวัน
Karl Lagerfeld: “The Godfather”
ไม่มีใครที่สนใจโลกแฟชั่นแล้วจะไม่เคยได้ยินชื่อของ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เพราะเขาคือนักออกแบบที่ดังที่สุดของศตวรรษนี้ และยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เหล่าแฟชี่นนิสต้าเจ้าเนื้อทั้งหลายในปี 2001 เมื่อเขาสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 42 กิโลกรัมภายในระยะเวลาแค่ 13 เดือน เพียงเพื่อที่จะสวมสูทตัวเล็กจิ๋วที่ เอดี สลีมาน ออกแบบให้กับ Dior Homme ในเวลานั้น ปัจจุบันลาเกอร์เฟลด์จึงกลายร่างเป็นนักออกแบบสุดฮิปรูปร่างเพรียวลมที่ปรากฏโฉมพร้อมถุงมือหนังสิงห์มอเตอร์ไซค์ พร้อมชุดสูทเข้ารูปสีดำ เชิ้ตขาวคอตั้ง และผมยาวรวบตึงกับแว่นตาดำขนาดใหญ่ จนทุกคนต้องขนานนามเขาว่า เป็นผู้ชายอายุ 81 ปี ที่สไตลิชที่สุดคนหนึ่งของโลก
Tom Ford: “The King of Cool”
ไม่มีอะไรต้องเอ่ยถึง ทอม ฟอร์ด มากนัก เพราะเขานี่แหละที่นับเป็นนักออกแบบแฟชั่นที่แต่งตัวดีที่สุดของศตวรรษนี้ก็ว่าได้ โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เพราะทุกครั้งที่ฟอร์ดปรากฏตัว สิ่งที่เขาสวมใส่ได้กลายเป็นหนึ่งในกฏใหม่ๆที่ถูกบันทึกไว้ให้สุภาพบุรุษหลายคนได้เดินตาม ไม่ว่าจะเป็นชุดสูทสีดำสุดเนี้ยบ ชุดสูทกำมะหยี่สุดหรูหรา หรือแม้แต่ t-shirt ธรรมดาๆที่ใส่คู่กับแจ็คเก็ตหนังสุดเท่เป็นต้น
Riccardo Tisci: “Prince of the Street”
เขาคือนักออกแบบหนุ่มชาวอิตาเลียนที่บัดนี้ถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าชายแห่งสตรีทสไตล์ และทำหน้าที่กุมบังเหียนห้องเสื้อชื่อดังสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Givenchy ริคาร์โด ทิสชี่ รับเอาวัฒนธรรมสตรีทสไตล์แบบอเมริกันมาปั่นรวมกับความหรูหราของโลกกูตูร์แบบฝรั่งเศส ผลลัพธ์ที่ได้จึงกลายเป็นแบบเสื้อผ้าบุรุษและสตรีที่ดูใส่ง่ายในแบบสตรีทแวร์ แต่ในขณะเดียวกันยังดูหรูหราแบบเสื้อผ้าราคาแพง และแน่นอนงานออกแบบทั้งหมดก็สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกของทิสชี่ที่เป็นแบบ ‘ช่างมันฉันไม่แคร์’
Giorgio Armani: “The Maestro”
นักออกแบบที่ปลดปล่อยผู้ชายให้เป็นอิสระจากชุดสูทที่ตัดเย็บด้วยโครงสร้างมากมายที่ผู้ชายไม่ต้องการ สูทที่ จอร์โจ อาร์มานี่ สร้างขึ้นคืองานตัดทอนจนเหลือเพียงสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ผู้ชายดูหล่อ ชุดสูทจึงบางเบาขึ้น ปราศจากการหนุนและการใช้ซับในไหล่ที่แข็งไม่เป็นธรรมชาติ ผลที่ได้จึงกลายเป็นภาพของสุภาพบุรุษที่ดูเป็นอิสระ อีกทั้งยังมีความทะมัดทะแมงขึ้น หากคุณนึกภาพไม่ออก ก็ขอให้นึกภาพของสูทที่ Richard Gere สวมในภาพยนตร์เรื่อง “American Gigolo” ถึงแม้ว่าอาร์มานี่ในปัจจุบันจะเป็นผู้ชายอายุ 80 ปีก็ตาม แต่เขาก็ยังดูเท่และมีสุขภาพดี โดยปรากฏกายใน t-shirt สีกรมท่า พร้อมกางเกงทรงหลวมและรองเท้าผ้าใบ ตามคอนเซ็ปต์ของอาร์มานี่ที่กล่าวว่า “เสื้อผ้าผู้ชายที่ดี ต้องเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและช่วยสร้างความมั่นใจ”
CREDIT: GQ
RECOMMENDED CONTENT
หลังจากคว้ารางวัลกรังปรีซ์ สาขาเพลงประกอบโฆษณายอดเยี่ยมจากเวทีคานส์ ไลอ้อน 2017 อาดิดาส ออริจินอลส์ยังคงพัฒนาผลงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง