เข้าช่วงหน้าร้อนอย่างนี้ เชื่อว่าบน News Feed ของใครหลายๆคนคงจะเต็มไปด้วยรูปของเพื่อนๆที่ไปเที่ยวทะเลกันทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ถ้าคุณยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหน หรือกำลังคิดๆจะวางแผนลาพักร้อนหยุดยาวละก็ วันนี้เราได้รวมเอาโรงแรมและรีสอร์ทสุดหรู ที่ล้วนตั้งอยู่ในทำเลที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และที่สำคัญคือมีวิวของท้องทะเลสีครามสุดตระการตามาให้ลองดูกัน เผื่อจะเป็นไอเดียในการเลือก travel destination ต่อไปของคุณได้
D-Hotel Maris, Turkey
หลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ต้อนรับวันพักผ่อนแสนสบายกับที่นี่เลย “D-Hotel Moris” โรงแรมสุดหรูที่ตั้งตระหง่านอยู่บนแหลม Datça ในประเทศตุรกี ที่ๆคุณสามารถชมวิวทิวทัศน์ของทะเล Mediteranian และ Aegean ที่มาบรรจบกันเป็นผืนทะเลสีเทอร์ควอยซ์ผืนใหญ่อย่างงดงาม จุดเด่นของโรงแรมแห่งนี้ก็คือ เกือบทั้งหมดของห้องพัก 200 ห้อง มีหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน รวมถึงห้องอาบน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบหินอ่อน ให้คุณได้นอนแช่ตัว ชะล้างความเหนื่อยล้า พร้อมๆกับการดื่มด่ำไปกับ ทิวทัศน์ท้องทะเลเบื้องหน้า นอกจากนี้ชายหาดส่วนตัวทั้งห้าของทางโรงแรม ก็ปกคลุมไปด้วยหาดทรายนำเข้าสีขาวเนื้อละเอียด ที่ตัดกันอย่างโดดเด่นกับน้ำทะเลสีฟ้าใส ส่วนกิจกรรมกลางแจ้งที่คุณไม่ควรพลาดก็คือ ทริปล่องเรือยอร์ชสุดเอ็กซ์คลูซีฟของทางโรงแรม ซึ่งเป็นโอกาสอันดีให้คุณได้สำรวจเยี่ยมชมเกาะเล็ก เกาะน้อย ที่หาดูได้ยาก
Hideaway Beach Resort & Spa, Dhonakulhi, Maldives
หากคุณกำลังมีแพลนจะจัดทริปลาพักร้อนกับคนรัก เพื่อเติมความหวานให้กับชีวิตคู่ บอกเลยว่าคุณต้องมาที่นี่สักครั้ง “Hideaway Beach Resort & Spa” ตั้งอยู่ที่ Dhonakulhi เกาะขนาดใหญ่บนเหนือสุดของหมู่เกาะมัลดีฟส์ ด้วยทิวทัศน์ที่ประดับไปด้วยมหาสมุทรอินเดียสีครามเข้มไล่ระดับไปถึงสีฟ้าใส หาดทรายขาวที่ทอดยาว เต็มไปด้วยต้นมะพร้าวและหมู่มวลต้นซีโวลาที่โอบล้อมตัวรีสอร์ทเอาไว้ มาที่นี่คุณจะรู้สึกเหมือนได้มาค้นพบสวรรค์บนดิน ให้ความรู้สึกพิเศษและเป็นส่วนตัวมากๆ ส่วนพวก facilities ของที่นี่แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา หลังจากปิดเกาะเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนโฉมใหม่ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2014 (ด้วยงบสูงลิ่วถึง 35 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 182 ล้านบาท) รีสอร์ทเเห่งนี้ก็พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความเอ็กซ์คลูซีฟอีกครั้ง วิลล่าทั้ง 103 หลังของที่นี่มีขนาดใหญ่กว้างขวาง ด้วยพื้นที่ตั้งแต่ 176 ตารางเมตร ไล่ไปจนถึง 1400 ตารางเมตร แบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ให้คุณได้เลือกพักตามใจชอบ แล้วถ้าวันไหนคุณอยากเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง ที่รีสอร์ทแห่งนี้ก็มีบริการให้คุณสามารถดำน้ำ พายเรือคายัค ล่องเรือ dhoni แบบดั้งเดิมของชาวมัลดีฟส์ รวมถึงได้สวมวิญญาณเป็น เจมส์ บอนด์ ขับเจ็ทสกี ออกไปสำรวจยังเกาะอื่นๆได้ด้วย
Baikal Residence, Siberia, Russia
ด้วยชื่อเล่น “soul of Siberia” หรือ “จิตวิญญาณของไซบีเรีย” ทะเลสาบไบคาลนั้นมีขนาดยักษ์ใหญ่เอาการ นอกจากจะเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ที่นี่ยังเป็นบ้านของโรงแรมบูติกที่หรูที่สุด และยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของรัสเซีย กับ “Baikal Residence” โรงแรมบูติกที่เคยได้รับรางวัล “Luxury Eco Safari Lodge” ที่ดีที่สุดของยุโรป จาก World Luxury Hotel Awards เมื่อปี 2014 โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนหน้าผาทางเหนือสุดของทะเลสาบ ซึ่งแน่นอนว่าวิวทิวทัศน์ของห้องทั้งหมด 17 ห้องจะต้องงดงาม จนคุณลืมหยุดหายใจไปเลย นอกจากนี้แถวๆบริเวณโดยรอบ ยังมีแม่น้ำ บ่อน้ำพุร้อน และน้ำตก ให้คุณได้ไปท่องเที่ยวสำรวจ ก่อนที่จะกลับมาผ่อนคลายกับ Banya สุดหรู ซึ่งเป็นซาวน่าแบบดั้งเดิมของรัสเซียที่โรงแรม หากคุณอยากจะหลบหนีจากวิถีชีวิตอันรีบเร่งของเมืองหลวง ชาร์จพลังให้กับตัวเองเป็นเรื่องเป็นราว Baikal Residence ยินดีต้อนรับคุณเสมอ
Le Taha’a Island Resort & Spa, French Polynesia
เกาะ Le Taha’a หรือชื่อเล่นอีกชื่อคือ เกาะวานิลลา นั้นถือเป็น paradise on earth ที่นักล่าหาความสุขในการท่องเที่ยวทุกคนควรไปสัมผัสกับตัวเองสักครั้ง เพราะที่นี่ถูกรายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าสว่างสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งความใสของตัวน้ำยังสามารถมองทะลุเห็นเข้าไปถึงเนื้อทรายสีขาวนวล เรียกว่าวิวทิวทัศน์ของที่นี่กินขาดจริงๆ ใครไปเป็นต้องรีบยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปลงอินสตาแกรมกันเป็นแถว
JK Place, Capri, Italy
เกาะคาปรี สถานที่ตากอากาศยอดฮิตของเหล่าคนดัง เป็นอีกหนึ่งสวรรค์บนดินที่ถ้าคุณได้ไปท่องเที่ยวถึงประเทศอิตาลีแล้ว ไม่แวะไปพักผ่อนที่เกาะแห่งนี้ถือว่าพลาดอย่างแรง ที่นี่มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Isola Azzurra หรือ เกาะสีคราม เนื่องจากที่นี่ถูกห้อมล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม ดูสวยสะดุดตามากๆ ส่วนโรงแรมที่ฮอตฮิตเป็นอันดับต้นๆในบรรดาโรงแรมสุดหรูบนเกาะคาปรีก็คือ “JK Place” โรงแรมบูติกระดับห้าดาว ที่ทาง Tatler ให้ขนานนามว่า “เป็นโรงแรมที่หล่อที่สุดในยุโรป” กับตำแหน่งของโรมแรมอันยอดเยี่ยมบนหน้าผา สามารถมองเห็นน้ำทะเลเป็นประกายสวยงามอันกว้างใหญ่ไปจนถึงท่าเรือ Marina Grande ส่วนการออกแบบ และการตกแต่งของตัวโรงแรมเองก็ไม่มีที่ติเช่นกัน ห้องนอนแต่ละห้องจะมีห้องน้ำที่ทำจากหินอ่อน และเตียงสี่เสาสุดคลาสสิค และที่สำคัญคือสามารถมองเห็นวิวของอ่าวเนเปิลส์ เรียกได้ว่าทิวทัศน์ของที่นี่ชนะเลิศจริงๆ
Credit: Mr. Porter