ช่วงนี้วงการภาพยนตร์น่าจะคึกคักมาก ไม่ใช่แค่การมาถึงของหนังฟอร์มยักษ์จากคริสโตเฟอร์ โนแลน อย่าง Dunkirk หรือจะเป็นการที่หนังไทยหลากหลายประเภทจำนวน 12 เรื่องพร้อมใจกันเข้าโรงฉายในเดือนสิงหาคมนี้ ความน่าสนใจมากกว่านั้นคือการที่ในจำนวนหนังมากมายที่มีให้แฟนหนังได้เลือกดูชมกันอย่างสนุกสนานแล้ว ก็ยังมีหนังสารคดีอีกจำนวนหนึ่งที่เราอยากชวนคุณชม เพราะจะว่าไปแล้ว เดี๋ยวนี้หนังสารคดีทำออกมาได้อย่างสนุก และน่าติดตามเอามากๆ และทั้ง 5 เรื่องนี้คือภาพยนตร์สารคดีชั้นเยี่ยมที่เราอยากแนะนำ
__________
Alive and Kicking
(Susan Glatzer)
แค่ชื่อหนังก็น่าจะพอเก็ทในไอเดียของการเต้น swing แล้ว ศาสตร์การเต้นรำในแนวทางที่กำลังมาในบ้านเราและทั่วโลกนี้มีหลักการแสนน่ารักเพียงแค่ แสดงความสุขออกมาเท่านั้น ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยความสุข ความสนุก และดนตรีประกอบแสนครึกครื้น ซึ่งถ้าถามว่าด้านดราม่ามีหรือไม่ เราตอบเลยว่ามี เพราะหนังจะพาเราไปกับชีวิตของเหล่านักเต้นสวิง ที่ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะประสบกับปัญหาหรือความเครียดมากมายเพียงใด แต่เมื่อพวกเขาได้เต้นสวิง ก็ดูเหมือนกับว่าความทุกข์จะสะบัดคลายหายไปพร้อมกับพริ้วไหวของกระโปรงและท่วงท่านั่นเอง
(ฉายที่โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ศูนย์การค้า Central World เท่านั้น / โปรโมชั่นพิเศษ สามารถนำบัตรชมภาพยนตร์เข้าร่วมกิจกรรมเรียนเต้นสวิง Social Night ทุกวันเสาร์ ที่ The Hop ฟรี! (มูลค่า 200.-) ถึง 31 สิงหาคมนี้ / และสามารถแลกโค้ดเป็นส่วนลด 300.- เพื่อซื้อบัตรเข้าร่วมงาน DIGA DIGA DOO งานปาร์ตี้ โชว์ คอนเสิร์ตสไตล์วินเทจงานใหญ่ที่สุดของเยาวราช ที่ Shanghai Mansion ในวันที่ 16 กันยายนนี้อีกด้วย)
__________
I Am Not Your Negro
(Raoul Peck)
นี่คือหนึ่งใน 5 ภาพยนตร์สารคดีที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ประจำปีนี้ กับเรื่องราวที่นำมาจากต้นฉบับที่เขียนไม่จบของหนังสือชื่อ Remember This House ของ James Baldwin ที่บอกเล่าถึงเส้นทางชีวิตในสังคมเหยียดผิวและเชื้อชาติอเมริกาผ่านเรื่องราวของบุคคลผิวสีคนสำคัญในประวัติศาสตร์ 3 คน ได้แก่ Medgar Evers, Malcolm X และ Martin Luther King ซึ่งทั้งสามต้องเสียชีวิตด้วยการถูกยิงตายด้วยวัยไม่ถึง 40 ปี ผ่านเสียงบรรยายของนักแสดงผิวสีชื่อดัง Samuel L. Jackson ซึ่งนักวิจารณ์ส่วนใหญ่บอกว่า ด้วยน้ำเสียงในการบรรยาย ถือเป็นการมอบ performance ที่ดีที่สุดของเขาในรอบหลายปี
(ฉายที่โรงภาพยนตร์เครือ SF 6 สาขา เซ็นทรัลเวิลด์, คริสตัลเอกมัยรามอินทรา, คริสตัลราชพฤกษ์, เซ็นทรัลพระรามเก้า, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เมญ่าเชียงใหม่ / ฉายวันแรก 3 สิงหาคม)
_________
Homme Less
(Thomas Wirthensohn)
ผู้ชายคนนี้คือตากล้องที่กล้องที่เข้ามาตามฝันแบบ american dream ถึงนิวยอร์ค แถมยังเป็นที่รู้จักของนางแบบระดับโลกเกือบแทบทุกคน ผลงานภาพถ่ายของเขาเคยลงปกแมกกาซีนเป็นว่าเล่น แต่เขาใช้ชีวิตอยู่บนดาดฟ้าของตึก ทำตัวเร่ร่อน และเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำสาธารณะ! ฟังแค่นี้ก็ถือว่าภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้น่าดูอย่างมากแล้ว ยิ่งบวกเสียงตอบรับจากเหล่านักวิจารณ์ที่อยู่ในเกณฑ์ดี ก็ยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่
(ฉายแล้ววันนี้ที่โรงภาพยนตร์ House RCA)
_________
นิรันดร์ราตรี / Phantom of Illumination
(วรรจธนภูมิ ลายสุวรรณชัย)
นี่คืออีกหนึ่งภาพยนตร์สารคดีฝีมือคนไทยที่น่าจับตามอง สำหรับคนที่มีความทรงจำกับโรงภาพยนตร์ stand-alone ในท้องถิ่นตัวเองน่าจะอินได้ไม่ได้ยาก ภาพยนตร์พูดถึงเรื่องราวของยุคที่ระบบฉายถูกเปลี่ยนจากฟิล์มเป็นดิจิตอล บอกเล่าผ่าน ‘ฤทธิ์’ คนฉายหนังฟิล์มคนสุดท้ายในโรงหนังสแตนด์อโลกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ กับชีวิตที่ต้องพบกับการปิดตัวของโรงหนังที่ทำให้อาชีพที่เขาทำมาตลอด 25 ปีต้องจบลง สำหรับเราแล้ว การได้เข้าไปดูงานภาพที่ดูเหมือนราวกับหลุดไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง รวมถึงการได้ไปดูความโรยราราวกับคนแก่ของโรงหนังสแตนด์อโลน ก็ถือว่าคุ้มแล้ว
(ฉายที่โรงภาพยนตร์ SF World Cinema ศูนย์การค้า Central World / เริ่มฉาย 17 สิงหาคม)
_________
#BKKY
(นนทวัฒน์ นำเบญจพล)
สำรวจความคิดที่มีต่อความรักจากวัยรุ่นยุคสมัยนี้ 100 คน พร้อมด้วยเรื่องจริง ประสบการณ์จริงของ ‘โจโจ้’ ที่เราว่าจะเป็นหนังรักวัยรุ่นใสๆ ก็ไม่ใช่ หนังสารคดีหนักๆ ก็ไม่เชิง แต่จากการที่หนังสารคดีเรื่องนี้เดินสายไปตามเทศกาลหนังมาแล้วมากมาย ก็ถือว่าน่าสนใจมากแล้ว โดยเฉพาะถ้าหนังเรื่องนี้จะเป็นการสะท้อนมุมมองของวัยรุ่นไทยร่วมสมัยที่มีต่อสังคม ครอบครัว เพื่อนฝูง ความรัก เหล่านี้ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เราอยากเข้าไปดูหลากคำตอบจากหนึ่งร้อยคนแน่นอน
(เข้าฉายวันที่ 3 สิงหาคม ในโรงภาพยนตร์ / ในสัปดาห์แรกของการฉาย เพียงแสดงบัตรนักเรียนนักศึกษา สามารถลดราคาบัตรชมภาพยนตร์ได้ครึ่งราคา)
—
RECOMMENDED CONTENT
เรื่องราวของ Christopher Robin พาเรามาถึงช่วงเวลาที่คริสโตเฟอร์ โรบิ้น โตขึ้นและต้องเข้ามาทำงานในกรุงลอนดอน พร้อมภรรยาและลูกสาว เขาตรากตรำทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว แม้แต่วันที่เขาตั้งใจจะไปเที่ยวกับครอบครัวนอกเมือง แต่งานด่วนก็ดันเข้ามาทำให้เขาคิดหนักว่าจะเลือกงานหรือครอบครัวดี