fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Travel : เที่ยวสุขสันต์กันทั้งครอบครัว กับ 5 ทริป 5 สไตล์ ณ ประเทศสิงคโปร์
date : 18.มีนาคม.2016 tag :

5-travel-style-in-singapore-with-alek-teeradetch dooddot 6

เมื่อมองหาสถานที่เพื่อใช้เวลาท่องเที่ยวกับครอบครัว อาจกล่าวได้ว่าสิงคโปร์เป็นประเทศแรกๆ ที่ทุกคนต่างนึกถึง เพราะประเทศนี้พรั่งพร้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นที่นิยมของคนทุกเพศทุกวัย และมีกิจกรรมสนุกสนานมากมายที่ทุกคนในครอบครัวสามารถสร้างประสบการณ์อันแสนสุขสันต์ด้วยกันได้ สำหรับวันนี้ หนุ่มหล่อ อาเล็ก ธีรเดช พรีเซ็นเตอร์ของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ จะมาแนะนำทริปที่น่าจะสร้างแรงบันดาลใจในการวางแผนตะลุยสิงคโปร์ของแต่ละครอบครัวได้เป็นอย่างดี

????????????????????????????????????

ทริปตะลุยชิมของอร่อย        

เริ่มต้นวันใหม่ของคุณที่ร้าน Ya Kun Kaya Toast (MRT: Bugis) กับขนมปังสังขยา Kaya Toast กรอบนอกนุ่มใน และยิ่งอร่อยมากขึ้นเมื่อทานคู่ไข่ลวก และกาแฟร้อนหอมกรุ่นในยามเช้า จากนั้นเดินทางไปลิ้มลองบักกุ๊ดเต๋ ณ ร้านชื่อดังที่มีประวัติยาวนานหลายสิบปีอย่าง Song Fah Bak Kut Teh (MRT: Clarke Quay Exit E) เมนูเด็ดคือซี่โครงหมูที่ต้มจนเปื่อย พร้อมน้ำซุปรสชาติเข้มข้น เหมาะกับการทานคู่กับปาท่องโก๋หรือข้าวสวยร้อนๆ  และแน่นอนว่าอีกหนึ่งเมนูที่ขาดไม่ได้เมื่อมาเยือนสิงคโปร์คือ Chilli Crab ที่ร้านชื่อดังอย่าง Jumbo Seafood Restaurant (MRT: Clarke Quay Exit G) โดยจะใช้ปูสดตัวใหญ่ๆ จากศรีลังกามาเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุง โดยเมนูสูตรพิเศษในแบบฉบับสิงคโปร์นี้เป็นการนำปูไปผัดกับน้ำเกรวี, มะเขือเทศ, หัวหอม, พริกหวานแดง และไข่ รสชาติจะออกหวานๆ นิยมทานคู่กับหมั่นโถวทอด ส่วนผู้ที่ชื่นชอบติ่มซำก็อย่าลืมแวะเวียนไปที่ Yum Cha Restaurant (MRT: Chinatown Exit A) เพราะร้านนี้มีติ่มซำหลากหลายเมนูมาให้เลือกสรร ซึ่งปรุงขึ้นสดใหม่ทุกวันจากวัตถุดิบชั้นยอด ท้ายที่สุดนี้ ถ้าใครอยากลองเปิดประสบการณ์ด้านการกินแบบใหม่ อยากแนะนำให้ไปที่ร้าน Eminent (MRT: Aljunied)  พร้อมอร่อยไปกับโจ๊กหอมละมุนลิ้นและกบผัดซอสรสเด็ดที่เสิร์ฟมาในหม้อดิน รับรองว่าต้องติดใจกันทุกคนแน่นอน

????????????????????????????????????

ทริปในสวนสวย

พากันเดินเล่นและชื่นชมความงดงามของธรรมชาติไปด้วยกันที่ Gardens by the Bay (MRT: Bayfront Exit B) ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ที่อ่าวมารีนา สวนนี้มีความโดดเด่นหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมอันแปลกตาหรือพันธุ์ไม้นานาชนิดจากทั่วทุกมุมโลก และอย่าลืมไปเยี่ยมชม Singapore Botanic Gardens (MRT: Botanic Gardens Exit A) ซึ่งได้รับการรับรองจากยูเนสโก (UNESCO) และถือเป็นมรดกโลกแห่งแรกของสิงคโปร์ มาเดินเล่นในสวนสไตล์อังกฤษ และตื่นตาตื่นใจไปกับสวนกล้วยไม้แห่งชาติสิงคโปร์ที่มีกล้วยไม้ป่ามากกว่า 1,000 ชนิด และกล้วยไม้ลูกผสมอีกมากกว่า 2,000 ชนิดจัดแสดงอยู่

5-travel-style-in-singapore-with-alek-teeradetch dooddot 4

ทริปไหว้พระขอพร

สำหรับครอบครัวที่อยากทำบุญสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อจิตใจที่ผ่องใส สิงคโปร์มีวัดชื่อดังหลายแห่ง ที่คุ้นหูคนไทยกันเป็นอย่างดีคือ Buddha Tooth Relic Temple (MRT: Chinatown Exit A) หรือวัดพระเขี้ยวแก้ว นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมไปกราบไหว้เจ้าแม่กาลี ซึ่งเป็นเทพเจ้าฮินดู ณ วัดฮินดูเก่าแก่อย่าง Sri Veeramakaliamman Temple (MRT: Little India Exit E) เพราะเชื่อว่ามีพลังในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและเสริมสร้างบารมี จากนั้นตามไปไหว้องค์เจ้าแม่กวนอิม ณ Kwan Im Thong Hood Cho Temple (MRT: Bugis  Exit C) ผู้ที่ไปไหว้สามารถเขียนชื่อบนกระดาษสีชมพูเพื่อทำพิธีสวด นอกจากนี้สำหรับใครที่ชอบการเสี่ยงเซียมซีก็ห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเซียมซีที่วัดนี้แม่นสุดๆ

ทริปวีฟี่ (Wefie)

สำหรับผู้ที่ชอบบันทึกภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำ ก็ไม่ควรพลาดที่จะมาถ่ายรูป ณ แลนด์มาร์คชื่อดังอย่าง Marina Bay Sands (MRT: Bayfront Exit D) โดยเฉพาะบริเวณ Sands SkyPark จุดชมวิวบนชั้น 57ที่ทุกคนสามารถดื่มด่ำบรรยากาศและทิวทัศน์ของประเทศสิงคโปร์พร้อมทั้งถ่ายวีฟี่กับครอบครัวเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ในช่วงค่ำคืนยังมีการแสดงเลเซอร์และม่านน้ำสุดตระการตาอีกด้วย และอีกหนึ่งที่ถ่ายภาพยอดนิยมของครอบครัวคงหนีไม่พ้น Merlion (MRT: City Hall Exit B หรือ Raffles Place Exit H) เพราะผู้คนทุกเพศทุกวัยต่างต้องมาโพสท่าเลียนแบบสิงโตพ่นน้ำจนกลายเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว ต่อด้วยการไปเยือนและถ่ายรูปกับ Helix Bridge (MRT: Bayfront Exit C) ที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ เพราะสะพานถูกออกแบบให้เป็นเสมือนโครงสร้างของดีเอ็นเอที่เป็นรูปทรงเกลียวคดเคี้ยวไปมา แลดูแปลกตา โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่ไฟตรงสะพานจะเปลี่ยนสีแตกต่างกันในแต่ละวัน

????????????????????????????????????

5-travel-style-in-singapore-with-alek-teeradetch dooddot 5

ทริปเที่ยวชิลชิล

ครอบครัวไหนที่พาเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุมาท่องเที่ยวด้วย ก็สามารถที่จะดื่มด่ำและเก็บประสบการณ์ ณ ประเทศสิงคโปร์ด้วยการไปล่องเรือ Bumboat (MRT: Clarke Quay Exit E) พร้อมชมทัศนียภาพของสองฝั่งแม่น้ำทั้งตึกสูงตระหง่านและแลนมาร์คชื่อดังมากมาย หรือขึ้นไปชมวิวบน Singapore Flyer (MRT: Promenade Exit A) ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก สามารถมองเห็นทิวทัศน์สิงคโปร์ได้แบบ 360 องศา สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุเดินทางมาด้วยก็ไม่ต้องกังวล เพราะในแต่ละแคปซูลของชิงช้าสวรรค์นี้สามารถรองรับรถเข็นได้มากถึง 5 คันเลยทีเดียว นอกจากนี้ทั้งครอบครัวสามารถไปดื่มด่ำบรรยากาศของย่านเมืองเก่า ณ Chinatown (MRT: Chinatown Exit A) ซึ่งเปรียบดังสวรรค์ของนักชิมที่รายล้อมไปด้วยร้านอาหารเลิศรส ที่มีตั้งแต่ของทานเล่นไปจนถึงภัตตาคารสุดหรู ไม่เพียงแค่นั้น ในย่านนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปศึกษาและสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนที่มาตั้งรกรากที่สิงคโปร์อีกด้วย

ในด้านการออกแบบสถานที่ต่างๆ สิงคโปร์เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวที่มีรถเข็นเด็กหรือรถเข็นผู้สูงอายุ อาทิ การติดตั้งลิฟท์ที่สนามบินชางงี และสถานีรถใต้ดินเกือบทุกสาย หรือ ห้องน้ำสาธารณะและสถานีรถประจำทางกว่า 95% ซึ่งได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้งานที่มีรถเข็นเป็นหลัก

สำหรับครอบครัวที่วางแผนจะไปเที่ยวสิงคโปร์ช่วงระหว่างวันที่ 10 มีนาคม – 17 เมษายน ที่จะถึงนี้ เตรียมพบกับความสนุกหรรษาที่งาน “The Great Egg-Venture” ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลอีสเตอร์ที่จัดขึ้น ณ Sentosa HarbourFront ภายในงานมีกิจกรรมสนุกสนานที่รอให้สมาชิกในครอบครัวมาร่วมกิจกรรมด้วยกันมากมาย อาทิ เช่น การแข่งล่าไข่อีสเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ กิจกรรมศิลปะสำหรับเด็ก และโชว์ที่น่าสนใจมากมายภายใต้ธีมของเทศกาลอีสเตอร์ 

รู้อย่างนี้แล้วก็เตรียมแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวสิงคโปร์ในช่วงปิดเทอมนี้กันเลยดีกว่า รับประกันว่าต้องเป็นทริปที่ประทับใจไม่รู้ลืมสำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแน่นอน

ข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่  www.yoursingapore.com/th

RECOMMENDED CONTENT

14.ธันวาคม.2020

‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ  ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย