สำหรับคนที่ท่องเที่ยวไปในยุโรปนั้น แน่นอนว่าการเดินทางด้วยรถไฟเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจเสมอในการเดินทาง ซึ่งแม้จะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยวิวสุดสวยสองข้างทาง และพื้นที่ในห้องโดยสารที่เราสามารถจะเดินเล่นไปไหนก็ได้ในขบวน จึงทำให้หลายๆ คนนิยมเดินทางด้วยวิธีนี้ วันนี้มาดูกันว่าเส้นทางรถไฟในยุโรปที่ไหนบ้างที่เรารับรองว่าเด็ด จนคุณวางกล้องไม่ลง
[ 01 – The Bernina Express, Switzerland ]
หนึ่งในเส้นทางที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติใน Switzerland โดยเริ่มต้นจากเมือง Chur หรือ St. Moritz ถึง Tirano ในระยะทาง 123 กิโลเมตร (ประมาณ 4 ชั่วโมง) ใครที่มีโอกาสขึ้นสายนี้จะได้เห็นวิวของภูเขา Swiss Alps ธารน้ำแข็ง รวมไปถึงทะเลสาบ และเมืองเล็กๆต่างๆ ซึ่งบางส่วนของเส้นทางนั้นยังได้ถูกยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
[ 02 – The Glacier Express, Switzerland ]
อีกหนึ่งเส้นทางรถไฟใน Switzerland ที่สวยจนเราขอเพิ่มลงไปอีกในลิสต์ ทางรถไฟสายนี้เริ่มจากเมือง Zermatt ถึง St. Moritz โดยใช้เวลา 7 ชั่วโมง วิ่งผ่านถึง 91 อุโมงค์ และ 291 สะพาน โดยสองข้างทางนั้นจะทำให้คุณหยิบกล้องออกมาตลอดเวลากับวิวของทุ่งหญ้าสีเขียวและภูเขาสูง รวมไปถึงความน่าตื่นเต้นที่ได้ไปถึงความสูง 6,600 ฟุตจากระดับน้ำทะเลบนเส้นทาง Oberalp Pass ของ Swiss Alps อีกด้วย
[ 03 – Arlbergline, Austria ]
เส้นทางรถไฟสุดโรแมนติกของ Austria จากเมือง Innsbruck ถึง Landeck และ Bludenz ซึ่งเป็นเส้นทางที่เรียกว่าเชื่อมเมืองระหว่างภูเขาฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน โดยมีมาตั้งแต่ปี 1884 ในส่วนของไฮไลท์ของขบวนนี้ คือการวิ่งข้ามสะพาน Trisanna ที่มีความสูงกว่า 286 ฟุต ปราสาท Weisberg อุโมงค์ Alberg ที่มีระยะทาง 6.4 ไมล์ และเมือง Tyrol ซึ่งนอกจาก Albergline จะเชื่อมต่อภายในประเทศแล้ว ยังเป็นสายเชื่อมต่อไปยัง Zurich ได้โดยเปลี่ยนขบวนได้ที่เมือง Innsbruck ซึ่งเส้นทางนี้จะได้ชมความงามของทะเลสาบ Zurich อีกด้วย
[ 04 – Bergen Line with Flåm Railway, Norway ]
เส้นทางกว่า 371 กิโลเมตรที่สวยงามระหว่างเมือง Bergen และ Oslo ของ Norway สายนี้นั้น ถือว่าเป็นสายที่อยู่ในระดับความสูงที่สุดของยุโรปเหนือ โดยข้ามผ่านที่ราบ Hardangervidda ของ Norway ที่ความสูง 4,057 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล นอกจากนั้นแล้วในช่วงระหว่างเมือง Myrdal ถึง Flam จะมีไฮไลท์ของทางรถไฟที่ชันที่สุดในโลก รวมไปถึงวิวของธารน้ำแข็ง หรือ Fjord ที่ลึกและยาวที่สุดของยุโรปอย่าง Sognefjorden อีกด้วย ใครมา Norway ไม่ควรพลาด
[ 05 – Rhine Valley Line, Germany ]
เส้นทางรถไฟสายโรแมนติกของ Germany ที่รายล้อมไปด้วยไร่ไวน์ของประเทศหรือ Rhine Valley เริ่มต้นจาก Koblenz ถึง Mainz ซึ่งนอกจากจะได้ชมความงามภูมิภาคหลักแล้ว ยังสามารถชื่นชมความงามของแม่น้ำ Rhine และ Moselle ที่มาบรรจบกันที่เมือง Koblenz นอกจากนั้นยังสามารถเดินทางต่อไปยังเมืองใหญ่อย่าง Cologne ได้อีกด้วย ตลอดเส้นทางของสายนี้ยังมีเมืองน่ารักให้ได้แวะชมเช่น Bacharach, St. Goar และ Rüdesheim ถ้าใครมีโอกาสได้ขึ้นรถไฟเส้นทางนี้ แนะนำให้ลองเช็คข้อมูลของตั๋วของคุณดู เพราะสามารถเปลี่ยนมาขึ้นเรือเพื่อชมวิวสองข้างแม่น้ำได้ด้วย
[ 06 – Madrid and Oviedo, Spain ]
ปิดท้ายด้วย Spain กับเส้นทางจากเมืองหลวง Madrid สู่ Oviedo เมืองหลวงของแคว้น Asturias ทางชายฝั่งตอนเหนือของประเทศ ตลอดเส้นทางของรถไฟสายนี้รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ ของสเปนสุดคลาสสิคตามแบบฉบับของยุโรปใต้ นอกจากนั้นในช่วงหนึ่งของเส้นทางยังวิ่งผ่านภูเขา Picos de Europa ภูเขาชื่อดังทางเหนือของสเปนที่กินพื้นที่ของประเทศไปกว่า 20 กม.
—————
นอกจากเส้นทางที่ยกมาข้างต้นแล้ว ยังมีเส้นทางอีกมากมายในยุโรปที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามหรือโรแมนติก ใครที่มีโอกาสมาเที่ยวยุโรปอย่าลืมเช็คโปรแกรม แล้วหาโอกาสเดินทางด้วยรถไฟดู รับรองว่าแม้จะถึงช้าหน่อย แต่รับรองว่าคุ้ม
สำหรับใครที่สนใจเดิ
RECOMMENDED CONTENT
ในช่วงเวลาที่การแข่งขันกีฬาอาชีพหลายรายการกำลังเริ่มกลับมาแข่งขันตามปกติ ไนกี้ตระหนักดีถึงความรู้สึกของแฟนกีฬา ความตื่นเต้นจากเกมการแข่งขันที่พลิกผันในเสี้ยววินาที พลังของแฟนกีฬาที่กำลังค่อยๆ ตื่นขึ้นอีกครั้ง และแน่นอนที่สุดคือความรู้สึกสนุกสนานที่แฟนๆ กีฬามีร่วมกัน