ไนกี้ ผู้นำนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลก เปิดเผยถึง 6 เหตุผลหลักของนักวิ่งอาชีพในรายการ “เบรกกิ้งทู” (BREAKING2) ว่าทำไมความพยายามของไนกี้ในการทำลายสถิติการวิ่งมาราธอนในระยะเวลา 2 ชั่วโมงที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้นั้น มีความหมายมากกว่าการแข่งขันวิ่งมาราธอนทั่วไป
1. แค่ 2 นาที 58 วินาทีก็มีความหมายมหาศาล
นักวิ่งมาราธอนใช้เวลากว่า 16 ปีในการทำลายสถิติการวิ่งให้ลดลง 3 นาที จาก 2:06:05 เหลือ 2:02:57 ซึ่งเป็นสถิติใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อดูจากประวัติศาสตร์แล้ว เราคงต้องรออีกนานกว่าจะไปถึงจุดที่สถิติเหลือต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เพราะกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ จะต้องมีความมุ่งมั่นอย่างมหาศาล “สิ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 2 ชั่วโมง มากกว่าที่เกิดขึ้นใน 10 วินาที” คาร์ล ลูวิส (Carl Lewis) นักวิ่งสปริ้นเตอร์คนแรกที่ทำลายสถิติ 10 วินาที กล่าว
ในปี 1991 คาร์ล ลูวิส ทำลายสถิติวิ่ง 100 เมตรในเวลาเพียง 9.86 วินาที และครองแชมป์สถิตินี้เป็นเวลากว่า 3 ปี
แม้แต่นักวิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์การวิ่งมาราธอนยังเข้าใจดีว่าความสำเร็จย่อมมีอุปสรรค และต้องทำอย่างไรจึงจะก้าวข้ามมันไปได้ “มันไม่ปกติหรอกที่จะวิ่งเร็วและนานขนาดนั้นได้” กาเลน รัปป์ (Galen Rupp) เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกการวิ่งมาราธอนที่ริโอกล่าว (ข้อมูลเพิ่มเติม: เขาต้องลดเวลาจากสถิติของเขาถึง 9 นาที 59 วินาที ถึงจะวิ่งมาราธอนภายใน 2 ชั่วโมงได้) แต่เขาก็ยังมั่นใจ “ประเด็นไม่ได้อยู่ที่การก้าวข้ามอุปสรรคได้หรือไม่ได้ อยู่ที่จะทำได้เมื่อไหร่มากกว่า” เขากล่าว และนี่คือเหตุผลที่ไนกี้ไม่รีรอที่จะทำลายสถิติและทำให้สิ่งนั้นเป็นจริงได้
2. การวิ่งมาราธอนเป็นอุปสรรคด้านกีฬาที่มีมายาวนานที่สุด
“มาราธอนคือปีศาจที่ร้ายกาจที่สุด” เบอร์นาร์ด ลากาท (Bernard Lagat) เจ้าของ 5 เหรียญทองโอลิมปิก และหนึ่งในผู้แข่งขันที่จะมาช่วยนักวิ่งอย่าง เอเลียด คิปโชเก (ELIUD KIPCHOGE) เลลิซา เดซิซา (LELISA DESISA) และเซอร์เซเนย์ ทาเดเซ (ZERSENAY TADESE) ในการวิ่งมาราธอนให้สำเร็จในเวลาน้อยกว่า 2 ชั่วโมง ระยะทางของการวิ่งทำให้การแข่งขันนี้น่าตื่นเต้น “ไม่บ่อยนักที่คุณจะเจออุปสรรคที่น่าก้าวข้ามขนาดนี้” รัปป์กล่าว นักวิ่งหลายคนเห็นด้วยว่าครั้งสุดท้ายที่มีการทำลายสถิติครั้งยิ่งใหญ่ขนาดนี้ คือ 63 ปีก่อน ตอนที่โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ (Roger Bannister) วิ่ง 1 ไมล์ในเวลาไม่ถึง 4 นาที
นักวิ่งคนแรกที่วิ่ง 1 ไมล์ในเวลาไม่ถึง 4 นาที คือ โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ ในปี 1954 ด้วยเวลา 3 นาที 59.4 วินาที เขาครองสถิตินั้นได้ 46 วัน หลังจากนั้นมีนักวิ่ง 25 คนที่สามารถวิ่ง 1 ไมล์ได้ในเวลาไม่ถึง 4 นาที
สิ่งที่ทำให้ความพยายามครั้งนี้เป็นเรื่องน่าจับตามอง คือ มันจะเป็นความสำเร็จครั้งใหม่ที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ “อุปสรรคนี้เป็นสิ่งพิเศษเพราะการวิ่งมาราธอนเป็นกีฬาที่คนทั่วโลกเข้าร่วมได้” ลูวิสกล่าว และแม้แต่ โจแอน เบนัวท์ แซมมวลสัน (Joan Benoit-Samuelson) ผู้หญิงคนแรกที่เป็นแชมป์มาราธอนโอลิมปิก ก็ยังเห็นด้วยกับลูวิส และยังให้การวิ่งนั้นเป็นภาษาสากลอีกด้วย
3. การวิ่งมาราธอนสอนความถ่อมตัวให้กับนักกีฬา ไม่ว่าจะเก่งขนาดไหน
คิปโชเก และ เดซิซา ลงชื่อเข้าร่วม Breaking2 เพราะไนกี้เล็งเห็นว่าพวกเขาเป็นสุดยอดนักวิ่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องพยายาม “พวกเขาจะทำสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อวันนั้นเป็นวันดีที่อะไรๆ ก็ราบรื่นไปหมด” เบนัวท์ แซมมวลสันกล่าว
4. ความท้าทายเป็นไฟให้ก้าวสู่ความสำเร็จ
สิ่งที่เป็นความท้าทายของนักวิ่งผู้กล้าทั้งสามท่านนี้ คือ การวิ่งให้ประจักษ์แก่สายตาคนทั้งโลก ซึ่งนับเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของนักวิ่ง “อีกอย่าง สำหรับ Breaking2 ทำให้ผมคิดว่าผมอาจจะตั้งข้อจำกัดให้กับตัวเองโดยไม่รู้ตัวก็ได้ และผมจะก้าวข้ามข้อจำกัดนั้นได้อย่างไร” รัปป์กล่าว ส่วนลากาทได้ฝึกซ้อมเพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการท้าทายครั้งนี้ และจะนำประสบการณ์นี้ไปเป็นเชื้อเพลิงเติมไฟให้ไปสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่ของเขา “ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะทำลายสถิติของอเมริกาในการวิ่ง 10,000 เมตร”
สำหรับคนอื่นๆ Breaking2 นั้นก็เป็นแรงบันดาลใจได้เช่นกัน เบนัวท์ แซมมวลสัน เริ่มวิ่งในยุคที่ผู้หญิงยังไม่วิ่งเกิน 1,500 เมตร เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีลูกไม่ได้ “ฉันวิ่งมาแล้ว 150 ไมล์ และมีลูกมาแล้ว 2 คน แต่ฉันก็ยังจะคงวิ่งไปเรื่อยๆ” เธอมองว่า Breaking2 คือ “การทำสิ่งที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ สำหรับฉันหรือคนอื่นๆ ที่มีไฟในการทำอะไรบางอย่าง การท้าทายตัวเองแบบนี้ ทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะทำความฝันให้เป็นจริง”
5. หากทำได้ จะเปลี่ยนโลกแห่งการวิ่ง
พอลลา ราดคลิฟ (Paula Radcliffe) หนึ่งในนักมาราธอนหญิงที่วิ่งเร็วที่สุด กล่าวว่าความท้าทายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักวิ่งทุกคน “ถ้าหนึ่งในสามคนนี้ทำได้ ก็จะเป็นการเปลี่ยนโลกแห่งการวิ่งมาราธอน เหมือนตอนที่โรเจอร์วิ่ง 1 ไมล์ในเวลาไม่ถึง 4 นาที” สิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ในตอนนั้นกลับกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ในตอนนี้ นอกจากนี้ รัปป์ยังกล่าวเสริมว่า “หลายคนเคยคิดว่าการวิ่ง 1 ไมล์ในเวลาไม่ถึง 4 นาทีไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ตอนนี้เด็กมัธยมบางคนก็ยังทำได้ แค่ต้องมีการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่ามันเป็นไปได้”
กาเลน รัปป์ ครองโพเดียมในงานมาราธอนทุกงานที่เขาเข้ารวม เขาชนะการวิ่งทดสอบของโอลิมปิกที่ริโอด้วยเวลา 2:11:13 และได้เหรียญทองแดงในงานโอลิมปิกที่ริโอด้วยเวลา 2:10:05 และได้ที่สองในบอสตันปีนี้ด้วยเวลา 2:09:58ซึ่งเป็นสถิติที่ดีที่สุดของเขา
6. วันแข่งจะเป็นการรวมตัวกันของผู้คน
การให้กำลังใจนักวิ่งให้ก้าวข้ามคำว่าเป็นไปไม่ได้นั้นเป็นกิจกรรมที่จะพาทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกแห่งหนมารวมกัน “Breaking2 เป็นโอกาสที่จะแสดงให้เห็นว่าถ้าเราตั้งใจ พยายาม มุ่งมั่น และได้รับการสนับสนุน เราก็สามารถประสบความสำเร็จได้” ราดคลิฟกล่าว และที่น่าตื่นเต้นก็คือความสำเร็จนั้นจะเป็นอะไรก็ได้
.
RECOMMENDED CONTENT
[Review] Dooddot : Under Armour HOVR Phantom RN รองเท้า […]