fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

แนะนำ 7 Tumblr ของศิลปินนักวาดการ์ตูนที่น่าติดตาม กับรูปแบบการเขียนการ์ตูนช่องสุดคลาสสิคที่มีจุดเด่นสำคัญคือการเล่าเรื่องและใส่มุขตลกอันน่าสนใจ
date : 20.ธันวาคม.2013 tag :

ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้วที่เราแนะนำศิลปินนักวาดภาพประกอบบน Tumblr ที่น่าติดตามกันไป คราวนี้เราเขยิบมาอีกหน่อยเป็นศาสตร์ที่ใกล้เคียงกัน นั่นก็คือการเขียนการ์ตูน (Comic) และการเขียนการ์ตูนที่คลาสสิคที่สุดก็คือการเขียนการ์ตูนช่อง (ที่เล่าเรื่องเป็นช่องๆ) ที่บางทีอาจจะมีลายเส้นธรรมดาไม่ได้โดดเด่นอะไรก็จริง แต่ทีเด็ดของการ์ตูนเหล่านี้มันคือการเขียนแก๊ก เขียนมุขตลกใส่ลงไป ยิ่งถ้าเป็นพวกเสียดสีสังคมหนักๆนี่ล่ะใช่เลย! เพราะฉะนั้นวันนี้จะมีศิลปินเขียนการ์ตูนคนไหนให้ Follow บ้างเราเริ่มกันเลยดีกว่า!

null

1.http://pdlcomics.tumblr.com/ “Poorly Drawn Lines” Blog การ์ตูนที่คนเขียนเขาใช้ชื่อเรียกรวมๆว่าวาดแบบลายเส้นง่อยๆ (แต่ดูจริงๆมันไม่ง่อยเลย ดูน่ารักและสะอาดตามากๆ ด้วยลายเส้นที่ซื่อตรงๆ ช่องแต่ละช่องที่ฉากไม่ได้มีอะไรมากมายให้รู้สึกอึดอัดก็จริง แต่เจอมุขแต่ละมุขของเขาเข้าไปรับรองว่าติดใจอ่านไม่หยุดแน่นอน

null

2.http://eatmorebikes.tumblr.com ถ้า Blog แรกตะกี้ของเราว่าวาดแบบง่าย (ง่อย) แล้วๆ ต้องลองมาดูตัวการ์ตูนของนาย “Nathan Bulmer” กัน กับ Blog ที่ชื่อว่า “Eat More Bikes” (กินจักรยานอีก) ไม่รู้ว่าตอนตั้งชื่อศิลปินเขาคิดอะไรอยู่นะ แต่ที่แน่ๆแต่ละมุขตลกในการ์ตูนของเขาดูจะเป็นมุขที่มีความเสียดสีแฝงอยู่เยอะเหมือนกัน

null

3.http://twitterthecomic.tumblr.com/ “Twitter: the Comic” หลายคนอาจจะสงสัยว่า “ก็เห็นเรากำลังแนะนำ Blog ใน Tumblr นี่! แล้ว Twitter มาเกี่ยวอะไรกันด้วย?” มันคือ Blog รวมผลงานของนามปากกาที่ชื่อว่า “@Vectorbelly” ซึ่งศิลปินคนนี้เขามีไอเดียเจ๋งๆกับการนำเอา Twitter แปลกๆเพี๊ยนๆของคนบนโลกใบนี้มาทำเป็นการ์ตูน (คนเล่น Twitter คงรู้กันดีว่า ในนั้นแต่ละคนเขาโพสอะไรกันเวิ่นเว้อขนาดไหน) ด้วยความที่อยากรู้เรื่องชาวบ้านอยู่แล้วเป็นทุนเดิม พอจับเอาประโยคที่แทบจะไม่มีความหมายหรือ Random สุดๆ (ของคนอื่น) เหล่านั้นมาแปลงเป็นการ์ตูน ผลก็คือ การ Scroll Down ไล่อ่านอย่างไม่รู้กี่หน้าในรอบเดียว!

null

4.http://jeremykaye.tumblr.com ใครที่ชอบหรือศึกษาการเขียนการ์ตูนช่องคงรู้กันดีว่า การเรียงลำดับเรื่องราวเป็นเรื่องที่ไม่หมูเอาซะเลย เพราะเราต้องวางทั้งการเกริ่นมุขก่อนและค่อยไปจบด้วยการตบหรือหักมุม (ยิ่งพวกช่องเดียวแบบน้าๆในการ์ตูนขายหัวเราะบ้านเรายิ่งเซียนใหญ่) สำหรับ Blog นี้ผลงาน Jeremy Kaye ที่ชื่อว่า “UP and OUT” พอลองอ่านแล้วมันทำให้เรารู้สึกว่าเขาใช้พื้นที่ช่องสุดท้ายในการเล่าเรื่องได้เก่งจริงๆ จบมุขได้สวยตลอด ถ้าไม่เชื่อต้องลองอ่านดู

null

5.http://zenpencils.tumblr.com/ Blog นี้เราขอสารภาพตามตรงว่าตามมาจากเวป 9GAG เมืองนอก (แก๊กที่เป็นการ์ตูน Nelson Mandela http://9gag.com/gag/aYbQGW7?ref=fb.s) ใช้ชื่อว่า “Zen Pencils” พอตามไปเจอ Blog ของศิลปินเท่านั้นล่ะ เหมือนเจอขุมทรัพย์เลยก็ว่าได้ เพราะการ์ตูนของเจ้านี้ไม่ได้จบแค่สองสามช่องแต่เริ่มออกแนวเป็นเล่าเรื่องกันจริงจัง เลือกหยิบเอาประวัติหรือ Quote ที่น่าสนใจของคนดังในประวัติศาสตร์ (นอกจากเนลสันแล้วก็มีการ์ตูนเกี่ยวกับสตีฟจ็อบและคนดังอื่นๆอีกด้วย) แต่ละเรื่องอ่านแล้วนอกจากสนุกยังแฝงข้อคิดดีๆให้เรา  ดูไปเพลินๆเผลอๆบรรลุเซน (Zen) กันเลยทีเดียว
null
6.http://timetrabble.tumblr.com/  ผลงานการ์ตูนของ Mikey Heller ที่ชื่อ Blog ว่า “Time Trabble” สำหรับ Blog นี้ส่วนตัวแล้วเราคนเขียนชอบมากที่สุด เพราะการ์ตูนของศิลปินคนนี้เป็นการเล่าเรื่องที่ปูมาแบบเนิ่บๆอย่างดี และส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องที่คนทั่วไปสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน เข้าใจได้ไม่ยาก แต่กลับจบด้วยการหักมุมแบบปัญญาอ่อนหน่อยๆ (และในความไร้สาระนั้นมันแฝงการเสียดสีของคนไว้ด้วย) ซึ่งโดยส่วนตัวเรามองว่ามุขอย่างนี้ล่ะฮาที่สุดแล้ว! (ต้องลองอ่านดู)

null

7.http://cornellajoan.tumblr.com/  ถ้าพูดถึงคนเขียนการ์ตูนช่องทั้งทีแล้วไม่พูดถึง Blog สุดท้ายของเราวันนี้ คงเหมือนกับมาไม่ถึงจริงๆ (ถึงไหน) กับผลงานของ “Joan Cornella” ศิลปินที่โด่งดังไปทั่วโลก Social Network (ในบ้านเราก็มีคนแชร์ผลงานของเขาบนเฟสบุ๊คเยอะแยะเต็มไปหมด) อย่างแรกที่ต้องสะดุดเลยก็คือลายเส้นการใช้สีและหน้าตาตัวการ์ตูนอันเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งไปกว่านั้นคือแต่ละมุขที่ล้วนแต่เป็นมุขโหดๆและมีความ Absurd สูงมาก (การเล่าเรื่องแปลกๆเพี๊ยนๆแบบที่หาเหตุผลมาประกอบไม่ได้) และการเลือดสาดที่เขาทำออกมาแต่ละครั้งดูแล้วมันต้องมีอะไรมากกว่าคำว่า “ซาดิสม์” แน่นอน

Writer: Pakkawat Tanghom

RECOMMENDED CONTENT

30.พฤษภาคม.2019

ย้อนรอยสู่จุดกำเนิดแห่งดนตรีเทคโนกับผลงาน Black to Techno โดยผู้กำกับฯ หญิงชาวอังกฤษ - ไนจีเรียน Jenn Nkiru ผู้จะพาเราไปสัมผัสวัฒนธรรมดนตรีเทคโนจากจุดกำเนิดที่เมืองดีทรอยท์ สหรัฐอเมริกา จากดนตรีกระแสรองสู่ความนิยมสุดขีดช่วงปลายยุค 1980s นำไปสู่ดนตรีที่สะท้อนต่อสู้เพื่อบทบาทในสังคมและเสรีภาพของกลุ่มคนผิวสีในดีทรอยท์