fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

ชิมอาหารสุด exclusive ส่งตรงจากร้านมิชลินระดับโลก – 8½ Otto e Mezzo Bombana มาเก๊า ใกล้ๆ แค่สุขุมวิท!
date : 3.พฤศจิกายน.2017 tag :


Antimo Merone

S.Pellegrino และ Acqua Panna ผู้นำด้าน Fine Dining นำเสนอประสบการณ์อาหารชั้นเลิศ โดยครั้งนี้เชฟฝีมือเยี่ยมจากห้องอาหารชื่อดังของมาเก๊า 8½ Otto e Mezzo Bombana โดย เชฟ Antimo Merone จะมาเป็นผู้รังสรรค์เมนูสุดพิเศษให้คุณได้ลิ้มลอง ในวันที่ 3–4 พฤศจิกายน 2560 ณ ห้องอาหาร Rossini’s โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท

เชฟ Antimo Merone ผ่านการทำงานในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์มามากมาย ก่อนจะมาร่วมงานกับเชฟ Umberto Bombana แห่งห้องอาหาร 8½ Otto e Mezzo Bombana ที่มาเก๊าได้กว่า 3 ปีแล้ว โดยชื่อ 8½ ของร้านนั้นได้มาจากชื่อภาพยนตร์ของ Federico Fellini ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอิตาเลียนคนโปรดของเชฟ Umberto Bombana นั่นเอง


8½ Otto e Mezzo Bombana, Shanghai

ความพิเศษของร้าน 8½ Otto e Mezzo Bombana คือเป็นร้านอาหารอิตาเลียนนอกประเทศอิตาลีเพียงแห่งเดียวที่ได้มิชลินสตาร์ถึง 3 ดวง! เชฟ Bombana เดินทางมายังฮ่องกง ในปี 2536 เพื่อเปิดห้องอาหาร Toscana ณ โรงแรม Ritz-Carlton ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างมากเช่นกัน แถมเขายังได้ชื่อว่าเป็นผู้นำเห็ดทรัฟเฟิลขาวมาสู่วงการอาหารในฮ่องกง จนได้รับขนานนามว่าเป็น ‘ทูตของเห็ดทรัฟเฟิลขาว’ อีกด้วย


Umberto Bombana

หลังจากความสำเร็จอย่างล้นหลามของห้องอาหาร 8½ Otto e Mezzo Bombana ฮ่องกง เชฟ Umberto Bombana ก็ได้เปิดอีกร้านที่เซี่ยงไฮ้ ในปี 2555 ตามด้วยมาเก๊าในปี 2557 และในวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2560 นี้ ถือเป็นโอกาสพิเศษที่นักชิมชาวกรุงเทพฯ จะได้มีโอกาสลิ้มรสฝีมือของเชฟ Antimo Merone ผู้เป็นศิษย์เอกของเชฟ Umberto Bombana

โดยการเดินทางมาเป็นเชฟรับเชิญของ Rossini’s ครั้งนี้ เชฟ Antimo Merone จะรังสรรค์เมนูพิเศษ 6–คอร์ส จับคู่พร้อมไวน์ชั้นดีจาก Allegrini Winery น้ำแร่มีฟอง ซานเปลเลกรีโน และน้ำแรอัคควา ปันนา ในราคา 5,200++ บาท

รายละเอียดเมนู:
• Welcome bites and canapés
• Hokkaido King Crab
• Confit Toothfish
• Tortellini
• Hand crafted cavatelli
• M9 sirloin (main) and a four-textured tiramisu.

สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองโต๊ะ ติดต่อ 02-649-8364
หรืออีเมล์ dining.sgs@luxurycollection.com

_

RECOMMENDED CONTENT

27.พฤษภาคม.2019

“โรคร้ายไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว” เพราะโรคร้ายไม่ได้ทำร้ายแค่ผู้ป่วยเพียงคนเดียว แต่ยังมีคนในครอบครัวและคนอีกหลายคนที่ต้องเจ็บปวดและได้รับผลกระทบเช่นกัน การช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับการรักษานั้น เท่ากับเราได้ช่วยเหลือคนมากกว่าหนึ่งคน