หากดูจากบรรยากาศที่ออกวินเทจเหมือนฉากในหนังหว่องกาไวปลายยุค 80s บวกกับชื่อที่ลงท้ายด้วยคำว่า ‘โภชนา’ คุณอาจเข้าใจว่าร้านนี้เปิดมานานตั้งแต่รุ่นเตี่ย แล้วสูตรอาหารนี่ก็ต้องเก่าเเก่รุ่นอากง พอๆ กับโต๊ะเก้าอี้ในร้านที่ต้องตกทอดมาจากรุ่นอามะ…
“รุ่นผมนี่แหละครับ!”
“เราเพิ่งเปิดได้ไม่ถึงหนึ่งปีนี่เอง สูตรอะไรก็คิดกันเอง” เจ้าของร้านกล่าว
ก่อนหน้าที่จะเปิดร้านนี้ หุ้นส่วนร้านทั้ง 3 คน คือ คุณทราย คุณป๋วย และคุณชาลี ต่างก็เป็นสายเนื้อกันอยู่แล้ว พวกเขาตระเวนชิมก๋วยเตี๋ยวเนื้อเป็นชีวิตจิตใจ ออกตามหาเนื้อที่ชอบ น้ำซุปที่ใช่ทั่วทุกสารทิศ กินจนตัดสินใจได้ว่าเอาล่ะ! ถึงเวลาที่ควรมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเป็นของตัวเองกันได้แล้ว ร้านวัวทองโภชนาในซอยเจริญกรุง 45 แห่งนี้จึงถือกำเนิดขึ้น
ความตั้งใจแรกของเจ้าของร้านทั้ง 3 คือเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว โดยมีเนื้อตุ๋นเป็นพระเอก ถ้างั้นเนื้อของวัวทองต่างจากร้านอื่นๆ ยังไงน่ะเหรอ? คุณชาลี-เจ้าของร้านเขาใช้คำว่าตัวเนื้อ ‘ไม่ได้แตกต่าง’ เพราะมันไม่จำเป็นต้องแตกต่าง หัวใจของเนื้ออยู่ที่การปรุงให้อร่อยต่างหากล่ะ แล้วเนื้อที่ดีก็ไม่จำเป็นต้องแพงด้วย
พวกเขาทดลองใช้เนื้อหลากหลายแบบ กว่าจะมาเป็นเมนูเนื้อทั้งหมดที่เห็น ตอนแรกกะจะใช้เนื้อวากิวอย่างดี แต่ด้วยลักษณะของวากิวที่อุดมไปด้วยไขมันมากเกินไป ทำให้มันไม่ผ่าน เพราะไม่เข้ากับคาร์แร็กเตอร์ของน้ำซุปที่ก็ช่วยกันคิดขึ้นมาเอง ซึ่งต้องใช้เวลาเคี่ยวนานไม่น้อยกว่า 9 ชั่วโมง เลยต้องกลับมาตั้งหลักด้วยการใช้เนื้อวัวเกรดจากฟาร์มโลคัลในประเทศไทยนี่แแหละ เลือกเนื้อให้เเมทช์กับน้ำซุปให้มากที่สุด
หากมาที่วัวทอง คุณสามารถรีเควสได้ว่าอยากได้เท็กซ์เจอร์ของเนื้อประมาณไหน เช่น เนื้อส่วนร่องซี่โครง จะเหนียวๆ หน่อยให้เคี้ยวเล่น สำหรับคนชอบเนื้อเหนียวแน่น หรือส่วนของเนื้อแก้มสำหรับคนชอบแบบละลายในปาก ซึ่งหลายเมนูที่นี่ก็ใช้ส่วนแก้มวัวเป็นหลัก ทำออกมาเป็นเมนูลูกครึ่งจีน-ไทยอย่างเช่นกระเพราเนื้อตุ๋น รสชาติที่เราคุ้นเคย
เเต่การมาเปิดร้านเนื้อตุ๋นในซอยเจริญกรุง 45 ก็ใช่ว่าจะง่าย เพราะดันเป็นย่านที่มีคนจีนเก่าแก่อาศัยอยู่หนาแน่น แล้วคนจีนส่วนใหญ่ก็ไม่นิยมกินเนื้อวัวกันนัก นั่นทำให้วัวทองต้องคิดหนัก หาเมนูอื่นๆ ที่ไม่ใช่เนื้อเข้ามาเสริมกำลัง แล้วไอ้เมนูเสริมนี้แหละที่แต่น้อยคนนักจะรู้ว่ามันเป็นขุมทรัพย์!
ใช่แล้ว! อย่ากลัวหากจะโดนล้อว่ากินเต้าหู้จนหน้าเป็นเต้าหู้ เพราะว่าเต้าหู้ คือโปรดักซ์ของดีระดับ OTOP จากบ้านคุณทราย – เจ้าของร้านซึ่งเป็นคนเมืองชิงเต่า (Qingdao) แท้ๆ ซึ่งสูตรอาหารต่างๆ นอกเหนือจากเมนูเนื้อตุ๋นนั้นก็ได้มาจากบ้านเกิดของคุณทรายที่ชิงเต่านี่เอง รวมถึงสูตรของเต้าหู้ ซึ่งตอนนี้คุณแม่ของคุณทรายทำเองแบบโฮมเมดที่บ้าน เป็นเต้าหู้ชนิดที่เรียกว่า ‘เต้าหู้กระดาน’ เท็กซ์เจอร์ของเต้าหู้ชิงเต่านี้จะมีความเนื้อเเน่นและนุ่ม แทบไม่มีฟองอากาศโบ๋ๆ ไม่มีกลิ่นสาบเหมือนเต้าหู้บางร้านที่กลิ่นสาบของมันทำเราขมคอ
เจ้าของร้านบอกเลยว่า “ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นกินกับเต้าหู้ยิ่งทำให้รสชาติตัดกันดีเชียวละครับ” (ฉึ่งงง…ความลับถูกเปิดเผย)
แบบที่เราได้ชิมวันนี้ก็เช่นกัน เต้าหู้ทอด (40.-) เนื้อนุ่ม ให้สัมผัสที่ดี ข้างในไม่กลวง กินร้อนๆ จะกรอบโอเคมาก นอกจากนั้นยังเอามาทำ เต้าหู้นึ่งซีอิ๊ว เต้าหู้หมูสับผัดพริกเกลือ หรือ หมาล่าโต้วฝู่ (90.-) เต้าหู้นึ่งผัดกับหมูสับ และพริกหมาล่าซึ่งทางร้านก็ขั้วเองเช่นกัน กินแล้วหน้าไม่ชา เพราะไม่ใส่ผงชูรส เผ็ดแบบมีชั้นเชิงกว่ามาก คนที่ไม่ถนัดหมาล่าอย่างเราถือว่าเป็นมิตร
เกี๊ยวหมูราดซอสพริกเสฉวน (70.-) / เส้นเมี่ยนคลุกเนื้อกับเต้าหู้กระดาน (125.-)
นอกจากอาหาร วัวทองยังมีน้ำเต้าหู้สูตรเข้มข้นที่ทำจากถั่วเหลือง 100 % ไม่ใส่ไซรัป ที่สามารถเพิ่มเยลลี่น้ำตาลทรายแดงกรุบๆ ได้ด้วย เป็นอีกหนึ่ง OTOP ที่คนรักน้ำเต้าหู้ไม่ควรพลาด บ่องตง!
คิดถึงอาหารจีนอาจคิดว่าต้องมันๆ เลี่ยน แต่วัวทองเป็นอาหารจีนซึ่งได้ย่อย ‘สไตล์’ ของอาหารจีนชิงเต่าออกมาแล้ว นำมาปรุงเเบบ Comfort Food ที่สุดให้เข้ากับลิ้นคนไทย ความรู้สึกไม่ได้ไกลจากอาหารที่แม่ทำให้กินที่บ้านเลย
ผัดถั่วแขกหมูสับกุ้งแห้ง (90.-)
เต้าหู้ทุกชิ้นและนำ้เต้าหู้ทุกขวดจากบ้านคุณทรายไม่ใส่สารกันบูด เช่นเดียวกับอาหารทุกจานที่ไม่ใส่ผงชูรส นำ้ซุปก็ด้วย ปรัชญาของพวกเขาคือพยายามทำให้อาหารไม่เป็นโทษต่อคนกิน แม้ว่ามันจะขึ้นชื่อว่าของทอดหรืออาหารผัดนำ้มันก็ตาม แนวคิดหลักคือใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่เป็นภัยต่อสุขภาพ กินได้ทั้งครอบครัว สิ่งสำคัญคือราคาไม่แพงถ้าเทียบกับปริมาณและคุณภาพ
‘กำไรเราก็อยากได้ แต่เราอยากขายของแบบซินเซีย (Sincere) ด้วยน่ะ’ เจ้าของร้านกล่าวนิ่งๆ แต่จริงใจเหมือนที่เขาพูด
วัวทองโภชนา
ซอยเจริญกรุง 45 เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร (BTS สะพานตากสิน / MRT หัวลำโพง)
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา : 11.00 – 22.00 น.
โทร. 097-260-5305
Facebook : https://www.facebook.com/wuatongpochana/
RECOMMENDED CONTENT
สมการรอคอยจริง ๆ สำหรับเพลงใหม่ล่าสุด “สอนใคร” (Teach) จากอีพีอัลบั้ม “Arakgochina” (อาราโกชิน่า) ของศิลปินหนุ่มหล่อมาดเซอร์ “เป้ อารักษ์” หรือ “เป้ – อารักษ์ อมรศุภศิริ” สังกัดค่ายเพลง What The Duck ที่ก่อนหน้านี้ปล่อยเพลงสร้างเซอร์ไพร์สแฟนเพลงมาแล้ว 2 เพลง