Check List ‘ซุปเปอร์มนุษย์ออฟฟิศ’ ที่เราต่างก็อยากทำงานได้มากกว่า หรืออยากทำกิจกรรมในแต่ละวันได้หลายอย่าง หลายครั้งจึงจบวันด้วยความวุ่นวาย เพราะโอกาสและกิจกรรมที่มีมาให้เราเลือกเยอะซะเหลือเกิน จนบางคนก็ไม่รู้ว่าเลือกสิ่งไหนแล้วดีที่สุด ยิ่งต้องเลือกเยอะยิ่งพลังงานลดลงได้ง่าย วันนี้เราจะมาพูดถึงไลฟ์สไตล์ที่ทำให้เรา productive และเพิ่ม performance ในแต่ละวันของคุณ ให้คนวัยทำงานที่ในแต่ละวันอาจเหนื่อยล้าจากสิ่งรอบตัวได้ตลอดเวลามีทางเลือก

เพียงแค่คุณมี Check List ง่ายๆ ก็ทำให้แต่ละวันของคุณต่างจากคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารเวลา และจัดการชีวิต ก็สามารถทำงานอย่างมีความสุขได้ และก็ยังเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ด้วย

1. ‘เลือก’ เดินทางได้เร็วขึ้น : ด้วยการเช็คการจราจรก่อนเดินทาง ประหยัดเวลาไปได้เยอะ
รู้ไหมว่าเราใช้เวลาบนถนนเยอะมากๆ ในแต่ละวัน ไม่ว่าเป็นเพราะการจราจรที่ติดขัด หรือการเดินทางไปหลายจุดภายในหนึ่งวัน คุณสามารถเริ่มเช้าวันทำงานได้แบบมือโปรฯ ด้วยการวางแผนการเดินทางก่อนออกจากบ้าน อาจจะลิสต์คร่าวๆ ว่าตลอดทั้งวันเราต้องไปที่ไหนบ้าง ใครกลัวลืมก็จดโน้ตไว้ในโทรศัพท์ก็ได้ ซึ่งเป้าหมายแรกของวันจะเป็นตัวชี้วัดความแม่นยำของการไปสถานที่ต่อไปมากที่สุด

ดังนั้นเพื่อให้ไม่พลาดเราจึงใช้ Google Map เพื่อประเมินเวลาคร่าวๆ ว่าจะไปถึงที่หมายกี่โมง และดูว่ารถติดมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าไม่ชินเส้นทางก็ให้แมพส์นำทาง รับรองว่าถ้าทำบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นความเคยชิน เราจะทำแบบนี้โดยอัตโนมัติจนกลายเป็นมือโปรฯ เต็มขั้นในที่สุด

2. ‘เลือก’ มื้อเช้าสำคัญที่สุด !!! เพราะอาหารที่ดีในตอนเช้าจะสร้างความ active
อย่าลืมหรือละเลยมื้อเช้าเด็ดขาด โดยเฉพาะในวันยุ่งๆ ที่รู้ว่าต้องใช้ทั้งพลังสมองและร่างกายตลอดเวลา อยากเป็นคนแอคทีฟต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม ยิ่งต้องเพิ่มพลังงานและสารอาหารแบบขาดไม่ได้ เพราะอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวันจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

หลักๆ คือต้องกินให้ตรงเวลา กินให้ครบ 5 หมู่ และพอดีกับความต้องการของร่างกาย สารอาหารที่เรากินเข้าไปจะช่วยบำรุงสมอง และส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งวันนี้เราสั่งชุด breakfast ที่ให้พลังงานสูงอย่าง ขนมปังโฮลวีท ไข่ และผัก เท่านี้ก็พร้อมลุยงานที่ต้องใช้สมาธิแล้ว

3. ‘เลือก’ ทำงานชิ้นสำคัญก่อน : เทคนิคคือการทำงานยากก่อนงานง่าย ให้พลังเหลือ 

เช้ามาก่อนเริ่มทำงานในวันอันแสนยุ่ง สิ่งต่างๆ ที่คนทำงานอย่างเราต้องดูแลนั้นมากมายเหลือเกิน เทคนิคที่เราจะแนะนำวันนี้ก็คือ การทำงานที่ยากและวุ่นวายเป็นอันดับแรกๆ หรืองานที่ต้องติดต่อประสานงานต่างๆ คุณสามารถเลือกสถานที่ทำงานในบรรยากาศสบายๆ ก็ช่วยกระตุ้นให้ทำงานอย่างมีความสุข และความ Productive ที่เกิดขึ้นในระหว่างทำงาน แนะนำว่าควรทำงานชิ้นสำคัญ หลังจากนั้นก็เคลียร์งานง่ายๆ จิบกาแฟไปพิมพ์งานไป ก็ทำให้ชั่วโมงของการทำงานไม่เครียด แถมยังได้งานที่ประสิทธิภาพมากนั่นเอง

อ้อ.. ทำงานเสร็จแล้วจะผ่อนคลายด้วยการเล่นโซเชียลบ้าง ถ่ายรูปเล่นบ้างก็ทำได้เลยเต็มที่ หรือใครมีวิธีผ่อนคลายแบบอื่นก็ทำได้ตามสะดวก

4. ‘เลือก’ ดูแลร่างกายให้เหมือนรถยนต์ : ต้องให้ร่างกายฟิตอยู่เสมอ 

ออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนทำงานสุด busy เพราะพวกเราต่างก็ใช้ร่างกายทำงานอย่างหนัก เพื่อไปให้ถึงความสำเร็จ และเป้าหมาย แต่อย่าลืมว่ายิ่งเราใช้งานหนัก ร่างกายเราก็อ่อนล้า และเสื่อมสภาพกันบ้าง การออกกำลังกายนั้นเป็นการดูแลให้ร่างกายเรากลับมาฟิตในวันต่อๆไปอีกครั้ง

เพราะหลังจากที่นั่งทำงานมานานทั้งวัน การไปฟิตเนส หรือเลือกออกกำลังกายวิธีอื่นตามความถนัด จะทำให้เราได้ยืดเส้นยืดสาย ร่างกายได้ปรับสมดุล แถมยังช่วยกระตุ้นสารเคมีในสมองให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข บางทีเราอาจใช้ช่วงเวลานี้ในการพบปะพูดคุยกับผู้คน หรือนัดกับแก๊งค์เพื่อนไปออกกำลังกายด้วยกันก็ถือเป็นความสนุกที่หาได้ง่ายๆ

5. ‘เลือก’ Esso Synergy : เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับพาหนะสุดรักและทุกการเดินทางที่ราบรื่น

ปั๊มน้ำมัน ‘เอสโซ่’ เข้าใจความต้องการนี้ จึงได้นำเทคโนโลยีซีเนอร์จี้ (Synergy Fuels Technology) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงสูตรใหม่ที่ทั่วโลกยอมรับเข้ามาเพิ่มทางเลือกให้กับเรา ด้วยนวัตกรรมระดับโลกเกิดจากทีมงานวิจัย ค้นคว้า และพัฒนาภายในห้องทดลองด้านวิศวกรรมเดียวกับที่ใช้พัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับทีมรถแข่งฟอร์มูล่า 1 ที่ผ่านการกลั่นจากโรงกลั่นของเอสโซ่ ประเทศไทย จึงมั่นใจได้ว่าเทคโนโลยีซีเนอร์จี้ทุกสูตร เป็นตัวแทนจากเทคโนโลยีระดับโลกของเอ็กซอนโมบิล ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ล้ำหน้าที่สุดตอนนี้

ก็เหมือนกับตลอดทั้งวันที่เราไปหลายที่ ทำหลายกิจกรรมมากๆ นอกจากจะให้ความสำคัญกับตัวเองแล้ว ของทุกอย่างที่เราใช้ก็จำเป็นต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดด้วยเช่นกัน หลายคนอาจคิดว่าหากจะยืดอายุการใช้งานรถยนต์คู่ใจ เพียงแค่เช็คสภาพรถยนต์และใช้งานอย่างทะนุถนอมก็คงพอแล้ว แต่เราอาจลืมไปว่าเครื่องยนต์ก็มีส่วนสำคัญ ดังนั้นการเลือกน้ำมันที่ดีสุดก็ถือเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ หากมีปั๊มน้ำมันที่เราไว้ใจได้ก็หมดห่วง

ข้อดีของน้ำมันเกรดพรีเมียมจากเอสโซ่

เอสโซ่คัดคุณภาพน้ำมันเกรดพรีเมียมอย่าง ‘ซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95’ และ ‘ซูพรีมพลัส ดีเซล’ ที่ช่วยปกป้องเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และทำให้เครื่องยนต์สะอาดมากขึ้น 30% แถมยังเพิ่มอัตราเร่ง ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองดียิ่งขึ้น 

โดยน้ำมันจากเทคโนโลยีซีเนอร์จี้ มีให้เลือก 6 สูตรด้วยกัน ได้แก่

เครื่องยนต์เบนซิน

• ซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95
• ซูปเปอร์ แก๊สโซฮอล์ 95
• เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ 91
• เอ็กซ์ตร้า แก๊สโซฮอล์ E20

เครื่องยนต์ดีเซล

• ซูพรีมพลัส ดีเซล
• ดีเซล

บริการอื่นๆ ที่มีภายในปั๊ม

เติมน้ำมันเสร็จแล้ว แวะซื้อของที่ซูเปอร์มาเก็ตภายในปั๊มก่อน ก็ถือว่าสะดวกสุดๆ เพราะแต่ละสาขามีร้านและบริการให้แตกต่างกันไปทั้ง Big C, Tesco Lotus, Starbucks, KFC, McDonald’s, Burger King และ The Pizza Company เลือกได้เลยว่าจะซื้อของกินหรือของใช้ บริการครอบคลุมแบบนี้ทำให้ประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางไปที่อื่นต่อ กลับบ้านได้อย่างสบายใจ

นอกจากนี้คุณภาพและบริการที่ทำให้เราประทับใจ เอสโซ่ยังปรับโฉมสถานีบริการน้ำมันใหม่ให้มีบรรยากาศดูสดใส สะอาด ใหม่เอี่ยม และน่าใช้บริการมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับเทคโนโลยีซีเนอร์จี้ ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เครื่องยนต์ใหม่กลับมาอีกครั้ง

ถ้าใครอยากสัมผัสประสบการณ์การปกป้องอย่างเต็มรูปแบบ สามารถไปที่สถานีบริการน้ำมันเอสโซ่ ทั่วประเทศ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.fuels.esso.co.th/th-th/