‘Design Alive’ บริษัทออกแบบงาน exhibition ที่เราเห็นตาม IMPACT หรือ BITEC โดยมีคุณเซฟ – มนต์ชนะ สัตยธำรงเธียร เป็นผู้ก่อตั้ง เราอาจจะไม่เคยรู้ หรือสงสัยว่าใครที่เป็นคนจัดงานนี้ แต่เชื่อว่าเกือบทุกคนเคยเดินบนผลงานของเขา ด้วยวัยเพียง 24 เขาสามารถก่อตั้งบริษัท และทำธุรกิจที่เรียกได้ว่าเริ่มต้นจากเงินเพียง 70 บาท จนวันนี้เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จทางด้านการเงินไปแล้ว เราจะพาไปรู้จักอีกบทบาทของเขา นั่นก็คือครูสอน ‘คาโปเอร่า’
ทำไมถึงเรื่องทำธุรกิจ exhibition?
เราไม่ได้เลือก exhibition เพราะแพชชั่น แต่เลือกเพราะวงการ exhibition เป็นเครื่องมือที่ทำให้เราไปถึงฝันได้ดีที่สุด
ตอนนั้นเราอยากประสบความสำเร็จ แล้วโชคดีที่เป็นคนแตกต่างจากคนอื่น ก็เลยรู้สึกว่าต้องฟังเสียงตนเองสำคัญที่สุด ที่ยากคงเป็นเรื่องของการทำและเรียนรู้ เหมือนค่อยๆ ต่อหอคอยอ่ะ จะต่อไปถึงข้างบนต้องต่อไล่บี้ วันต่อวัน เดือนต่อเดือน ปีต่อปี คือทฤษฏีในโลกนี้มันเยอะไปหมด พอเราอ่านหนังสือเยอะเราก็เจอทฤษฏีเยอะ อดีตก็สำคัญ ปัจจุบันก็เป็นสิ่งที่ต้องทำให้ดีที่สุด อนาคตก็ต้องวางแผน
ตวามสำเร็จ กับ เรื่องเงินๆทองๆ ?
เราเป็นคนที่วันๆ คิดเรื่องเงินเยอะที่สุดเลย แต่อายที่จะบอกคนอื่น เราอ่านหนังสือเรื่องการเงินเยอะ ฝึกเรื่องการใช้เงินเยอะ คุยเรื่องการใช้เงินกับคนที่เขาเก่งเรื่องการเงินกว่าเราเยอะ ตอนนี้หลักๆ จึงโฟกัสเรื่องของการสำรวจชีวิตตัวเอง ทำไปเรื่อยๆ เรื่องเล็กเรื่องน้อยทำหมด ทำทุกวัน ทำทีละอย่าง
กับคำพูดที่ว่าเงินเล็กก็ฝันเล็ก เงินใหญ่ก็ฝันใหญ่ เป็นเรื่องจริงที่สัมผัสได้ เรามองเลยจุดนั้นไปแล้ว ซึ่งตอนนี้สนใจและเชื่อเรื่อง conversation skill มากกว่า คุยกับใครแล้วมีความสุข หรือถ้าเขาคุยกับเราแล้วมีความสุข
แต่กว่าจะผ่านถึงจุดนี้ เรื่องที่อธิบายแล้วคนน่าจะเห็นภาพชัด คือสำหรับคนที่หาเงินได้เกินสิบล้านขึ้นไปจะหาทางใช้เงินยาก คนที่รวยร้อยล้าน พันล้าน หรือหมื่นล้าน ต่างกันนิดเดียว และความต้องการสูงสุดในชีวิตก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ถ้าไม่ใช่เฟอร์รารี่สักคัน หรือเครื่องบินส่วนตัว อะไรประมาณนั้น แต่กับคนที่เงินน้อย คนที่ทั้งชีวิตถูกกำหนดด้วยเงินแบงค์ร้อยเพียงใบเดี่ยว กับแบงค์พันอีกหนึ่งใบ สองขั้วนี้โคตรแตกต่างกันเลย คนกำร้อยหนึ่งนี่ชีวิตจะอยู่ถึงวันพรุ่งหรือเปล่ายังไม่รู้เลย
จากเมื่อก่อนที่ไม่ได้มีเยอะเท่าตอนนี้ ก็รู้สึกว่าพอได้เงินมาถึงจุดหนึ่ง การให้ความสำคัญเรื่องเงินเราต่ำลงเรื่อยๆ แต่กลับคิดว่าการมีสุขภาพดีนั้นดีกว่า จะได้อยู่กับคนที่เรารักและอยากดูแลไปนานๆ สิ่งที่ชัดเจนมากๆ คือพอถึงจุดหนึ่งเงินก็เป็นได้แค่เงิน เงินมันทำอะไรให้เราไปมากกว่านี้ไม่ไ้ด้แล้ว เพราะเราเข้าใจเงินผ่านการใช้จริงมาแล้ว
Passion กับ คาโปเอร่า?
ชีวิตมี 3 ส่วน คือ งาน (Design Alive), ครอบครัว และคาโปเอร่า (ศิลปะการต่อสู้แบบบราซิล)
8 ชั่วโมงแรกคือ Design Alive โดยมองว่า… ถ้าทำบริษัทฯ ที่ทุกคนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเราได้แล้วมีความสุขด้วย กูนี่โคตรเจ๋งเลยอ่ะ เราก็ลองทำมาเรื่อยๆ เราใช้ความรู้ของเราพัฒนาญาติสนิทมิตรสหายในวงการ เพื่อให้ทุกคนแข็งแรงไปพร้อมเรา เรามีรากฐานที่แข็งแรง Financial ที่แข็งแรง Design Alive คือบริษัทที่ดูแลตัวเอง ถือเป็นบริษัท professional มากเลยนะ เราจัดโปรเจกต์ใหญ่ๆ งานไฟล์ละเอียดถี่ถ้วน ยากๆ โดยที่ทุกคนยังใส่เสื้อยืดได้ เดินน้ำลายไหลมาทำงาน ทำตัวสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน แต่ทุกคนก็ทำงานอย่างมีความสุขได้”
อีกประมาณ 8 ชั่วโมงต่อมาของวันก็จะเป็นเรื่องของครอบครัวทั้ง ลูกและภรรยา คิดแต่ว่าจะทำยังไงให้ลูก 2 คนเก่ง ส่วนพ่อกับแม่เราก็ดูแล และคิดว่าจะอำนวยความสะดวกยังไง สุดท้ายประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน ก็ให้กับคาโปเอร่า
คาโปเอร่าเป็นกีฬาจากบราซิลที่มีรากฐานมาจากการแสวงหาอิสระพัฒนาจนเป็นกีฬาสมัยใหม่ที่เชื่อมโยงกับบีบอย โดยเขาได้แรงบันดาลใจมาจากเกมส์และการ์ตูนที่เคยดูตอนเด็กๆ และใช้เวลากว่า 19 ปีในการเรียนรู้กีฬาชนิดนี้ “คาโปเอร่าทำให้เห็นความยากลำบาก การหาทางออกให้ชีวิต สถานการณ์ที่เหมือนกัน คนเราก็มีทางเลือกให้ลองต่างกัน”
ถึงแม้จะมีเป้าหมายในชีวิตเยอะมาก แต่คาโปเอร่าก็เป็นความสุขของเขาในตอนนี้
เรามี Goal เยอะมาก รอบด้านเลย ทดลองไปเรื่อยๆ กับคนรอบข้าง มีความสุขกับการได้สำรวจจุดที่เรายังไม่รู้ เพราะมีเรื่องที่เราไม่รู้บนโลกนี้อีกเยอะมาก เราจะรู้สิ่งนั่นผ่านเพื่อนและคนอื่น ที่สำคัญคือคาโปเอร่าเป็นกุญแจดอกหนึ่งที่พาให้เราไปรู้จักความรู้ใหม่ๆ เพราะเล่นกันทั่วโลก
จากแรงบันดาลใจในวัยเด็กๆ ทำให้ทุกวันนี้เขามีคลาสในบ้านตัวเอง
เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก หลังจากที่ออกกำลังกายทุกเซ็ท เขาเดินมาจ่ายเงินให้อีก 500 บาท เรามีสุขภาพที่ดี มีโรงยิมในบ้าน เราไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว
ความสำเร็จทางธุรกิจ VS. โรงเรียนคาโปเอร่า
คาโปเอร่ามีประโยชน์โดยตรงเลย ส่วนตัวก็ชอบเล่นอยู่แล้ว เราคิดว่าจะจ่ายเงินไปฟิตเน็ตเดือนละเป็นพันทำไม ในเมื่อการเล่นคาโปเอร่าก็เป็นการออกกำลังกายได้ สำหรับเรามันไม่ make sene ยิ่งมีความรู้เรื่องคาโปเอร่าอยู่ แล้วทำไมถึงจะไม่ให้มันหาเงินหละ พอเริ่มเปิดคลาสสอน ก็ได้เงิน 7 คลาส คลาสละ 250 เปิดมาทั้งหมด 4 ปี ก็มีเงินเก็บเกือบ 150,000 บาทแล้ว เรานำเงินนี้ไปเที่ยวได้เป็นเดือนๆ แค่นี้ก็โคตรแล้ว
กุญแจแห่งความสำเร็จ ที่ทำให้เซฟกลายเป็นเศรษฐีได้ คือ ?
สำคัญที่สุดต้องมีความรู้ก่อน สมองคนเรามันเก่งมากเลย เรียนรู้อะไรได้เป็นร้อยเป็นล้านเรื่องได้แค่สั่งการเข้าไป ผ่านการขัดเกลาจากประสบการณ์ วัตถุดิบ เหล่านี้คือ ข้อมูลที่มาจากประสบการณ์ผ่านสถานการณ์ต่างๆ เราจะรู้ว่าอะไรดีไม่ดี ทดลองใช้ได้ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ พอเราฝึกทำไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นนิสัย แต่เราต้องรู้จักตัวเองให้ดีด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม โรงเรียน Bantus Capoeira Thailand ลาดพร้าว64
RECOMMENDED CONTENT
ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น (Ars Longa Vita Brevis) คือภาษิตของฮิปโปเครติส บิดาแห่งการแพทย์ในยุคกรีกโบราณ คนไทยคุ้นเคยวลีนี้จากคำสอนของ ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย ที่ซึ่งต่อมาลูกศิษย์ของท่านได้นำมาใช้เป็นคำขวัญของมหาวิทยาลัยศิลปากร วลีที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นสัจธรรมวลีนี้ยังผุดขึ้นมาในความคิดของ เข้-จุฬญานนท์ ศิริผล หลังจากที่เขามีโอกาสพูดคุยกับผู้ใช้เวสป้า และตระหนักถึงความผูกพันของผู้คนกับความหมายของสกู๊ตเตอร์ที่เป็นมากกว่าพาหนะ เข้จึงเลือกใช้มันมาเป็นชื่อภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ของเขา - ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น