แค่เจอฝุ่นข้างนอกก็เครียดพอแล้วววว กลับบ้านมาก็อยากจะสูดอากาศดีๆ กลิ่นหอมๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดบ้าง อุปกรณ์ประจำบ้านยุคนี้เลยไม่ได้มีแค่เครื่องฟอกอากาศเท่านั้น แต่ต้องมีอุปกรณ์ที่เป็นตัวช่วยไว้กระจายกลิ่นหอมของอโรม่าด้วย

มาดูกันว่าตัวช่วยกระจายกลิ่นอโรม่าในยุคนี้มีอะไรบ้าง ช่วยกระจายกลิ่นได้แบบไหน ทำงานยังไง เหมาะกับห้องขนาดเท่าไหร่ แบบไหนจะใช่และตอบโจทย์คุณมากที่สุด 

เครื่องพ่นอโรม่า

ตัวนี้เป็นอุปกรณ์ยอดฮิต ที่ทำหน้าที่พ่นไอน้ำออกมาอัตโนมัติ แค่เติมน้ำ – หยดกลิ่น – เสียบปลั๊กไฟ โดยส่วนใหญ่หลายๆ ยี่ห้อ จะทำงานคล้ายๆ กัน แต่จะต่างกันตรงนี้ดีไซน์ รูปทรง การรับปริมาณน้ำ และการตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำแห้ง รวมถึงการมี-ไม่มีไส้กรอง ซึ่งจะมีผลกับราคาด้วย ซึ่งบางรุ่นไม่ได้ช่วยแค่ให้ห้องมีกลิ่นหอม แต่ยังช่วยเพิ่มความชื้นให้ห้อง แก้อากาศแห้ง ช่วยอาการของคนเป็นภูมิแพ้ได้ด้วยนะ

วิธีใช้ : เติมน้ำเปล่าลงไปในเครื่องในปริมาณที่เครื่องกำหนด อาจจะ 100 – 500 ml. แล้วแต่ขนาดและยี่ห้อ หลังจากนั้นหยดกลิ่นอโรม่าหรือน้ำมันหอมระเหย ลงในน้ำในปริมาณ 3 – 10 หยด แล้วแต่ความเข้มข้นของกลิ่น จากนั้นเปิดใช้งานจนกว่าน้ำจะแห้ง ประมาณ 3 – 6 ชั่วโมง แล้วแต่ยี่ห้อและการเลือกระดับความแรงของการพ่นน้ำ บางรุ่นมีระบบเตือนน้ำหมดและตัดไฟอัตโนมัติ บางรุ่นไม่มีไส้กรอง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนบ่อยๆ
ขนาดห้อง : 20 – 25 ตร.ม.  เช่นห้องนอน หรือห้องคอนโด
ราคา : 200 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และแบรนด์ (ราคาไม่รวมน้ำมันหอมระเหย)

หินอโรม่า

เป็นรูปแบบใหม่ของการกระจายความหอม หินอโรม่า มีลักษณะเป็นหินผงอัด มีรูพรุนๆ โปร่งๆ ช่วยดูดซับน้ำมันหอมระเหยได้อย่างดี แต่กลิ่นจะกระจายตัวออกน้อยที่สุด หากใช้เป็นประจำจนกลิ่นติดบนหิน สามารถพกพาติดตัว นำใส่กระเป๋า หรืออยู่ในพื้นที่แคบๆ เหมาะกับการสูดดมใกล้ๆ เช่นวางไว้บนหัวนอนให้ได้กลิ่นเบาๆ จางๆ สบายๆ ถ้าใครชอบแบบหอมฟุ้งๆ อบอวลไปทั่วห้อง หินอโรม่าอาจไม่เหมาะ และอาจหาซื้อยาก เพราะยังไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก

วิธีใช้ : หยดน้ำมันหอมระเหยเพียง 2 – 5 หยด ลงบนหิน ให้ค่อยๆ ซึมลงไป
ขนาดห้อง : 5 – 10 ตร.ม. หรือเฉพาะจุด เช่น บนหัวนอน ในรถ ตู้เสื้อผ้า หรือกระเป๋า
ราคา : 100 – 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดหิน ขนาดและแบรนด์ (ราคาไม่รวมน้ำมันหอมระเหย)

ก้านไม้หอม

แบบนี้ก็ฮิตไม่แพ้กัน เป็นอีกที่ราคาจัดต้องได้สุดๆ เพราะอาศัยการกระจายกลิ่นด้วยก้านไม้แห้ง ส่วนใหญ่จะใช้ไม้เนื้อเบาที่มีรูพรุน เพราะจะช่วยดูดดกลิ่นขึ้นมาได้ง่าย เช่น ก้านไม้หวาย ก้านไม้งา ซึ่งใช้งานง่าย กลิ่นกระจายแบบอ่อนๆ ละมุน ไม่ฉุนแรง โดยกลิ่นจะค่อยๆ ระเหย ออกทางปลายก้านไม้ เหมาะกับพื้นที่ปิด และห้องขนาดเล็ก เช่น ห้องนอน หรือในรถ

วิธีใช้ : นำก้านไม้ เสียบลงในขวดน้ำหอมอโรม่า เสียบทิ้งไว้จนกว่าน้ำหอมจะระเหยออกหมด โดยขวดเล็ก 10 ml. จะอยู่ได้ประมาณ 1 –  2 สัปดาห์ แล้วแต่จำนวนก้านที่เสียบ ยิ่งขวดใหญ่ยิ่งอยู่ได้นาน
ขนาดห้อง : 10 – 25 ตร.ม.  เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า หรือในรถ
ราคา : 30 – 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์น้ำมันหอมละเหย และปริมาณน้ำหอม (ราคารวมน้ำมันหอมระเหย)

เทียนหอม

อีกรูปแบบที่ใช้กันมายาวนานมาก แถมราคาถูก หาซื้อง่าย เพราะเทียนหอมถูกประยุกต์มาจากเทียนไขธรรมดา เพียงแต่นำเทียนมาผสมกับหัวน้ำหอมเข้มข้น เมื่อจุดเทียนจะช่วยสร้างบรรยากาศแสงสลัวๆ ให้รู้สึกผ่อนคลาย โรแมนติก ส่วนกลิ่นจะระเหยออกอย่างเต็มที่เมื่อหน้าเทียนละลายเป็นน้ำเท่ากันทั้งแก้ว หรือหลังจากจุดได้ 1 ชั่วโมง แต่สิ่งที่ควรระวังหากเลือกจุดเทียนหอม คือต้องหาตำแหน่งที่วางให้ดี ควรเป็นพื้นที่ปิด แต่ยังมีอากาศหมุนเวียนดี ลมผ่านแรง เพื่อป้องกันเทียนดับนั่นเอง

วิธีใช้ : ก่อนจุดเทียนต้องเช็คดูว่า ไส้เทียนไม่ควรยาวเกินไป เพราะจะทำให้เกิดควันดำ แต่ก็ไม่ควรสั้นเกินไป เพราะทำให้ร้อนไม่พอ และเกิดการเผาไหม้เนื้อเทียนไม่ดี ดังนั้น เช็คไส้เทียนให้พอดี จุดไว้นาน 1 ชั่วโมง เพื่อให้กลิ่นกระจายเต็มที่ ไม่ควรจุดทิ้งไว้จนนอนหลับไป
ขนาดห้อง : 10 – 25 ตร.ม. เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องครัว
ราคา : 10 – 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและแบรนด์

เตาเซรามิคอโรม่า หรือเตาอโรม่าไฟฟ้า

เตาแบบนี้อาจไม่นิยมมากนัก เพราะนอกจากจะต้องมีเตาเซรามิก ที่เป็นรูปทรงเหมือนเตาถ่านในยุคก่อน จะต้องมีเทียนสำหรับจุดใต้เตา และน้ำมันหอมระเหย แต่จะเห็นได้บ่อยๆ ตามร้านสปา ร้านนวด เพราะเตาเผาน้ำมันอโรม่า จะส่งกลิ่นอย่างเข้มข้น เพราะไม่เจือจางผ่านน้ำ แต่ถ้าไม่อยากหยดน้ำมันหอมระเหยมากเกินไป สามารถใช้น้ำเปล่าผสมเพื่อให้เจือจางลงได้ ส่วนคนที่ไม่อยากสิ้นเปลืองเทียนในการจุดเยอะ ก็จัดเตาอโรม่าไฟฟ้าแทน ราคาอาจแพงขึ้นสักหน่อย แต่ไม่ต้องเปลี่ยนเทียนบ่อยๆ นะ

วิธีใช้ : หยดน้ำมันหอมระเหยลงบนถ้วยเตา หรือเทน้ำเปล่าก่อนผสมน้ำมันหอมระเหย 4 – 5 หยด จุดเทียนทีไลท์ในถ้วยอลูมิเนียมวางใต้เตา เทียน 1 ถ้วย อยู่ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่ควรปล่อยให้น้ำบนภาชนะเตาแห้ง เพราะจะทำให้เตาแตกร้าวง่าย
ขนาดห้อง : 20 – 30 ตร.ม. เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น คอนโด
ราคา : 100 – 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพ (ราคาไม่รวมน้ำมันหอมระเหย)

แบบไหนล่ะที่เหมาะกับคุณ? ถ้าต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย ไม่ต้องดูแลเยอะ คุณอาจต้องยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้นมาหน่อย หรือหากไม่ชอบให้เกิดควัน หรือลักษณะของการจุดไฟเพราะห้องคุณอากาศแห้งเกินไป หรือเสี่ยงเกิดอันตราย คุณอาจจะมองหาที่เป็นไฟฟ้าแทนการจุดแทน ดังนั้น คำนึงถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด รวมถึงใช้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากสมุนไพรธรรมชาติจริงๆ แทนการใช้น้ำมันสังเคราะห์ เพราะการสูดดมเป็นเวลานานอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ จากนั้นเลือกกลิ่นที่ชอบไปสร้างบรรยากาศใหม่ๆให้กับห้องของคุณได้เลย

(เครดิตภาพ : Pinterest)