Bangkok Design Week งานดีไซน์ประจำปีที่พาเราไปดูวิธีคิด ไอเดียใหม่ๆ ซึ่งครั้งนี้จัดในย่านเจริญกรุงเป็นเหมือนเดิม แต่จะเพิ่มเติมไปยังทองหล่อ–เอกมัย สามย่าน และอารีย์–ประดิพัทธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ใหม่สำหรับนิทรรศการครั้งนี้
นอกจากงานที่ผ่านตาทุกคนแล้ว Dooddot อยากแนะนำงานที่อยากให้ทุกคนเช็คอิน บอกเลยว่าถ่ายรูปแล้วสวยทุกงาน
1.Portrait of Charoenkrung
เป็นงานที่บันทึกเรื่องราวของเจริญกรุงในปี 2563 ผ่านประสบการณ์ของ นาย/นาง/นางสาว/เด็กหญิง/เด็กชาย “เจริญกรุง” เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์และคุณค่าของ “เจริญกรุง” ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจัดแสดงถึง 5 ที่ด้วยกัน
1. ผนังตรงข้ามร้านวัวทอง ซอยเจริญ กรุง 45 (อยู่ตรงข้ามอาคารไปรษณีย์ กลาง)
2. โรงพิมพ์ หนังสือพิมพ์ จีน ซินจงเอี๋ยน ปากซอยเจริญกรุง 24
3. กำแพงตรงซอยทางเข้าศาลเจ้าโรง เกือก
4. ปุ๊กร้านอะไหล่ ซอยวานิช 2 ตลาดน้อย ( Pop-up studio ทุกวันเสาร์ –อาทิตย์)
5. พิพิธภัณฑ์ ชุมชน ตลาดน้อย ท่าน้ำภาณุ รังษี
Tips & Tricks : แนะนำให้ถ่ายข้างนอกมากกว่า เพราะงานแปะภาพนิทรรศการไว้เป็นกราฟฟิกใหญ่เวลาถ่ายเหมือนได้แบล็คกราวในหนังเท่ๆ บวกกับผนังเก่าๆ ยิ่งทำให้รูปมีเสน่ห์มากขึ้น
2.Hundred Years Between
นิทรรศการภาพถ่ายที่เปี่ยมล้นด้วยความรู้สึกของผู้บันทึกภาพครั้งนี้ ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เดินทางตามรอยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ค้นหาร่องรอยแห่งกาลเวลาที่อาจยังถูกพิทักษ์รักษาในอ้อมกอดของธรรมชาติ อันเป็นเส้นทางเดียวกับเมื่อครั้งสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเสด็จพระราชดำเนินเยือน
ในช่วงปลายพระชนม์ชีพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรนอร์เวย์เป็นเวลาหนึ่งเดือน ท่านผู้หญิงสิริกิติยาเชื่อว่าการเสด็จประพาสครั้งนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่งในทางประวัติศาสตร์ ท่านผู้หญิงสิริกิติยาจึงได้ศึกษาค้นคว้าพระราชหัตถเลขาที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงมีถึง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี
นิทรรศการภาพถ่ายครั้งนี้จัดแสดง ณ ศุลกสถาน
Tips & Tricks : ก่อนจะเข้าไปถ่ายต้องจองก่อนนะ เพราะอาคารค่อนข้างเก่า ทำให้รับผู้ชมครั้งละเยอะๆ ไม่ได้ แต่ถ้าเข้าไปถ่ายเราว่าด้วยบรรกาศบ้านไม้สไตล์ยุโรปหลังนี้ น่าจะทำให้รูปออกมาไม่เหมือนใคร
3.SALUTE (Like Thai Spirit)
นิทรรศการ SALUTE (Like Thai Spirit) ไม่เพียงแต่จะสร้างภาษาของงานเบญจรงค์ใหม่ด้วยการทดลองเทคนิคการวาดที่อยู่ขั้วตรงข้ามของงานเชิงอนุรักษ์ เช่น การสร้างที่ว่าง การเขียนเส้นสี ถมสี ถมทอง วาดทับ หรือวาดเพียงแค่เส้นร่าง แต่ยังคงไว้ซึ่งเส้นสาย และองค์ประกอบที่เป็นไทยเดิม จากลายรดน้ำ ปิดทอง ตามตู้พระธรรม และฝาผนังวัดโบราณทั้งหมด
นิทรรศการรักเหนือเคลือบนี้ ยังจัดแสดงที่ศาลเข้าจีนไทฮั้ว ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของการขอพรเกี่ยวกับความรักโดยการจัดแสดงคอลเล็กชั่นเบญจรงค์ที่วาดขึ้นด้วยฝีมือของช่างระดับครูนั้น จะผสมผสานเข้าไปในศาลเจ้าที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นธูปเทียนที่ออกแบบมาพิเศษ, เซียมซีที่ว่าด้วยมุมมองใหม่ของความรัก และเสียงดนตรีแบบมินิมอล ที่บอกเล่าและเชื่อมโยงความเก่าและความใหม่เข้าด้วยกันในพื้นที่เดียว
จัดแสดงที่ศาลเจ้า ไท้ฮั้ว ถนนมหาพฤตาราม ซอยโชฎึก
Tips & Tricks : จะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน ความแดงคือพลังของที่นี่เลย ถ้าอยากได้รูปสดๆ แรงๆ ต้องมา
4.HAUS OF EVERYTHING
ถิ่นงานปริ้น ที่เชื่อว่าปริ้นไม่เคยตาย นิทรรศการจาก EVERYTHING ที่นำเสนอคุณค่าใหม่ๆ ให้กับสื่อสิ่งพิมพ์
ภายในงานได้ชวนเหล่าคนในวงการสร้างสรรค์จากหลากอาชีพทั้ง 101 คน ไม่ว่าจะเป็นศิลปิน นักออกแบบ ช่างภาพ นักวาดภาพประกอบ นักเขียนฯลฯ มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานหลากรูปแบบที่จัดพิมพ์บนโปสเตอร์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Print is not dead!
จัดแสดงที่โกดังบ้านเลขที่ 1 ถนนสี่พระยา
Tips & Tricks : งานนี้คุณไม่จำเป็นต้องพกกล้องมาก็ได้ เพราะมี EVERYTHING: CUSTOM EDITION ให้คุณได้ออกแบบหนังสือ เลือกจำนวนหน้าได้เอง และสามารถเอาตัวเองไปขึ้นปกได้อีกด้วย
5. Bangkok Design Week (ทัวร์ทุกงาน)
ปิดท้ายด้วยแมพที่จะพาทุกคนไปทัวร์ทุกงานแบบไม่มีพลาด ไม่ว่าจะเป็นย่านเจริญกรุง ทองหล่อ อารีย์ มีครบหมด นอกจากงานกลางวันแล้ว ในย่านเจริญกรุงยังมีงานที่แสดงในช่วงกลางคืนให้แวะไปถ่ายรูปอีกด้วย
Tips & Tricks : ช่วงบ่ายๆ เตรียมกล้องให้พร้อมแล้วลุยได้เลย เพราะแต่ละนิทรรศการสามารถถ่ายรูปสวยๆ ได้หมด ถ้าเดินแล้วรู้สึกเหนื่อยแวะร้านข้าว คาเฟ่ก่อน รอให้ฟ้ามืดแล้วค่อยออกไปเดินดูอีกครั้ง ช่วงนี้แหละที่จะได้รูปสวยๆ ไม่เหมือนใครกับงาน Lighting ที่จัดแสดงหลายจุดโดยเฉพาะย่านเจริญกรุง ดูตามแมพได้เลยสวยทุกที่
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก Bangkok Design Week และ IAMEVERYTHING.co
RECOMMENDED CONTENT
ต่อไปนี้หากคุณและเราถูกผรุสวาทด้วยคำประเภทว่า ไอ้สัตว์, ไอ้สัด, ไอ้สัส หรือ ไอส๊าสสสสส ก็อย่าเพิ่งโกรธไป เพราะเราเองนี่แหละที่อาจกำลังกลายเป็นสัตว์ (ป่า) กันอยู่ในทุกๆ วัน! I Gone wild (everyday) คือเอ็กซิบิชั่นที่อยากให้เรากลับไปทบทวนความ ‘ดิบ’ ในตัวเอง ว่าสัตว์ในตัวเราคืออะไร และเรายังเหลือความเป็นมนุษย์กันอยู่มากน้อยแค่ไหน!?