ซิฟิลิส (Syphilis) หรือโรคลำยอง ไม่ใช่โรคเอดส์ ไม่ใช่หนองใน แต่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เหมือนกัน! ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แถมมีระยะแฝงตัวของโรคยาวนานกว่า 30 ปี เกิดได้กับทั้งชายและหญิง แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ บางรายไม่แสดงอาการอะไรเลย ทำให้ “คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่าเป็น” แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไปก่อน เพราะโรคนี้รักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แต่ถ้าไม่รักษาเลย อาการจะร้ายแรงถึงขั้นหูหนวก ตาบอด กระดูกหักง่าย เพราะเชื้อจะทำลายอวัยวะภายในร่างกาย จนไม่สามารถกลับเป็นปกติได้

ติดจากทางไหนได้บ้าง?
– ทางเพศสัมพันธ์ ผ่านทางช่องคลอด ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ช่องปาก
– ผ่านการสัมผัสแผลที่มีเชื้อ
– จากแม่(ที่มีเชื้อ)สู่ลูกในครรภ์

อาการเป็นอย่างไร?
ระยะ 1
มีตุ่มแดงแล้วแตกออกเป็นแผล บริเวณอวัยวะเพศ อัณฑะ ทวารหนัก ช่องคลอด ริมฝีปาก ลักษณะเป็นแผลเดียว มีขอบนูนแข็ง กดไม่เจ็บ ซึ่งแผลจะเป็นอยู่ 1 – 5 สัปดาห์ และส่วนใหญ่จะหายไปเอง
ระยะ 2
หลังแผลริมแข็งหาย จะเกิดผื่นสีแดงน้ำตาล ไม่คัน ทั่วทั้งตัว อาจมีไข้ ปวดตามข้อ และผมร่วงเป็นหย่อมๆ รวมถึงต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็น 1-3 เดือนและหายไปเอง บางรายอาจกลับมาเป็นซ้ำได้
ระยะ 3 (ระยะแฝง)
ช่วงนี้จะไม่มีอาการใดๆ เป็นช่วง 2 – 30 ปี หลังรับเชื้อ แต่อาจเกิดผื่นได้เหมือนระยะที่ 2 และวินิจฉัยได้โดยการเจาะเลือด
ระยะ 4 (ระยะหลังหรือLate Stage)
ระยะนี้ร้ายแรง เป็นช่วง 2 – 30 ปี หลังรับเชื้อ เชื้อจะทำลายอวัยวะภายในต่างๆ เช่น หัวใจและหลอดเลือดสมอง อาจทำให้อ่อนแรง หูหนวก ตาบอด กระดูกหักง่าย หากไม่รักษาทันที อวัยวะต่างๆ อาจถูกทำลาย และไม่สามารถกลับคืนเป็นปกติ

วิธีสังเกตตัวเอง
สังเกตลักษณะแผลหรือผื่นที่ปรากฏตามระยะ และไปพบแพทย์ เพื่อนำน้ำเหลืองไปตรวจ ส่องกล้องหรือเจาะเลือดหาเชื้อ

การรักษา
ถ้าตรวจพบเชื้อตั้งแต่ระยะต้นๆ รักษาให้หายขาดได้ โดยทานยาปฏิชีวนะ เพนนิซิลลิน เป็นเวลา 1-3 สัปดาห์ ซึ่งระยะเวลาที่รักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคด้วย แต่! ต่อให้รักษาหายแล้วยังต้องตรวจซ้ำอีกทุก ๆ 3 เดือนจนครบ 3 ปี เพราะอาจมีเชื้อหลบในแฝงอยู่

ที่สำคัญผู้ป่วยต้องปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด งดมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่น

การป้องกัน
ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อจะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย และหมั่นสังเกตอาการของตัวเองบ่อยๆ หากผิดปกติควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว

Source