คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว กับทฤษฎี 21 วัน เปลี่ยนนิสัย ของดร.แม็กซ์เวลล์ มอลทซ์ ที่เคยตีพิมพ์ลงในหนังสือชื่อ Psycho-Cybernetics ตั้งแต่ช่วงปี 2503 ถึงการทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลานาน 21 วัน จะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เป็นแบบนั้นได้อัตโนมัติ
งั้นมาพลิกวิกฤตจากสถานการณ์โควิด-19 ที่หลายคนต้อง Work From Home หรือ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ มาเป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ทั้งร่างกาย จิตใจ ผ่าน 10 เป้าหมายนี้ ให้คุณใช้ความอดทน และความพยายาม ทำต่อเนื่องนาน 21 วัน จนเกิดความเคยชิน ที่สำคัญต้องฝึกทำซ้ำๆ เพื่อฝืน แนวปฏิบัติเดิมไปให้ได้ อาจจะยากหน่อย แต่รับรองว่าทำจนเป็นนิสัยแล้ว หลังสถานการณ์ดีขึ้น คุณจะกลับมาเป็นคนใหม่ที่สดใส เป๊ะปังกว่าเดิมแน่นอน
1. ตื่นเช้าขึ้น ได้เวลาชีวิตมากขึ้น
เริ่มจากเลิกกด Snooze ทุกเช้าที่ตั้งเวลาตื่นก่อนเลย จะตื่นแต่เช้าทั้งทีต้อง Skip ความขี้เกียจไปให้ได้ การตั้งปลุกแต่เช้าและตื่นในทันทีที่นาฬิกาปลุก จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วงซึม มีพลัง สดใส ไปตลอดวัน ยิ่งถ้าตื่นเช้าได้ต่อเนื่อง 21 วัน หลังจากนั้นคุณจะแทบไม่ต้องใช้นาฬิกาช่วยปลุก เพราะร่างกายคุณจะจดจำและตื่นได้อัตโนมัติเลยล่ะ
2. ฝึกทำอาหารทานเองที่บ้าน
อันนี้แล้วแต่ความชอบและความถนัด ถ้าใครที่ยังทำอาหารไม่เก่ง อาจเริ่มจากเมนูที่ทำได้ง่ายๆ หรือเปิดดูคลิปสอนทำอาหารในยูทูปดู โดยแบ่งเวลาทำสัก 1 มื้อ ต่อ 1 วัน ทักษะนี้ถ้าคุณได้ทำ จะช่วยอัพสกิลการเอาตัวรอดไปในตัว แถมยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ลดความเสี่ยง และไม่ต้องออกนอกบ้านบ่อยๆด้วยนะ
3. ล้างมือ พกเจล(แอลกอฮอลล์) ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อรับผิดชอบตัวเองและสังคม
ในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่องแบบนี้ สิ่งที่คุณห้ามลืมเด็ดขาด คือการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และรับผิดชอบต่อสังคม คือไม่ลืมที่จะล้างมือก่อนทานข้าว หรือหลังจาหหยิบจับสิ่งของใดๆนอกบ้าน พกเจลแอลกอฮอลล์และคาดหน้ากากอนามัยเป็นประจำเมื่ออยู่นอกบ้าน
4. Clear & Clean ล้าง เช็ด เก็บ ลบ ของใช้ทุกวัน
เพราะเชื้อ โควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านสิ่งของที่แปดเปื้อนเชื้อโรคได้ และอยู่ได้นานหลายวัน ดังนั้น สิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำ เช่น เงิน กระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งมือจับเปิดประตู้รถยนต์ ควรเช็ดทำความสะอาดทุกวัน รวมไปถึงการเก็บกวาดหรือจัดระเบียบข้าวของในบ้านให้สะอาด เรียบร้อย ไม่เว้นแม้แต่จัดระเบียบข้อมูล หรือสิ่งที่ไม่จำเป็นในมือถือด้วยนะ
5. ออกกำลังกาย ขยับร่างกายบ้าง
อยู่บ้าน ออกนอกบ้านไม่ได้ แถมยังต้องทำอาหารกินเอง นึกอะไรไม่ออกบอกหิวแบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ ต้องหาเวลาขยับร่างกายหรือออกกำลังกายบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน เริ่มจากท่าง่ายๆ วิ่งเหยาะอยู่กับที่ ซิตอัพ หรือจะเปิดยูทูปแล้วเต้น ทำท่าตาม ทำสิ่งนี้ให้เป็นนิสัย เสียเหงื่อเพื่อสุขภาพที่ดีก็คุ้มค่านะ
6. พยายามให้มีผัก และผลไม้ในแต่ละมื้อ
เพื่อสุขภาพที่ดี ร่างกายควรได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ด้วย นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว ควรได้สารอาหารจากผัก ผลไม้ร่วมด้วย ยิ่งทานได้เยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีมีภูมิคุ้มกันร่างกายเพิ่ม ช่วงเวลาแบบนี้สุขภาพร่างกายต้องแข็งแรงไว้ก่อน ที่สำคัญ อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ ควบคู่ไปด้วย เปิดงานมาเมื่อไหร่ คุณจะต้องเป็นคนใหม่ที่เปล่งปลั่งออร่า จนเพื่อต้องร้องว้าว! แน่นอน
7. แบ่งเวลาไปพัฒนาสกิล วันละ 1 – 2 ชั่วโมง
ยิ่งตื่นเช้าได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเวลาให้กับข้อนี้มากเท่านั้น! นี่เป็นอีกโอกาสที่ดี ที่เราจะได้ฝึกทำในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่สนใจ หรือมีเวลาคิดและรอบคอบในงานที่กำลังทำมากขึ้น จัดตารางให้ดี และแบ่งเวลาให้ชัดเจน และตรงต่อเวลา เช่น ฝึกสกิลภาษาเพิ่ม ลองเป็นนักเขียน หรือพักมาเป็นนักอ่านตัวยง หาความรู้รอบตัว เพื่อเพิ่มทักษะทางความคิด หรือหาแรงบันดาลใจเพื่มให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน
8. Social Detox เสพแค่ข่าว อย่างมีสติก็พอ!
การติดตามข่าวสาร อัพเดตเหตุการณ์บ้านเมือง เป็นเรื่องที่ดีนะ แต่ถ้าคุณติดมันมากเกินไปจนไม่เป็นอันทำอะไร ไถหน้าจอมือถือไปมา เผลอแป๊บเดียวผ่านไปหลายชั่วโมง อันนี้ไม่ดีแน่ๆ ไหนจะข่าวบนออนไลน์ที่มาเร็วไปเร็ว ความคิดเห็นชาวโซเชียลบางคนที่ไม่ผ่านการคัดกรอง จนแยกไม่ออกว่าอันไหน Fake อันไหน Fact นั่นจะทำให้คุณเครียด และเกิดความวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว ควรแบ่งเวลาเล่นที่พอดี และวางมือถือลงเมื่อถึงเวลา หันไปทำกิจกรรมที่ชอบ หรืองานอดิเรกอื่นๆ บ้างดีกว่า
9. วางแผนวันพรุ่งนี้ ก่อนนอน
คุณมีโอกาสล้มเหลวต่อเป้าหมาย ทฤษฎี 21 ถ้าคุณขาดการวางแผนกิจกรรม และจัดระเบียบเวลาในแต่ละวัน นั่นหมายถึงคุณต้องวางแผนก่อนนอนในแต่ละวันเสมอ ว่าจะตื่นเช้าทำอะไร เวลาไหน ตั้งธงไวในใจ และเดินตามแผน ด้วยวินัยที่ต้องฝึกทำซ้ำๆ ให้เคยชิน พร้อมประมวลผลและทบทวนตลอดวันที่ผ่านมาด้วยนะ
10. เลิกจับมือถือก่อนเข้านอน
พฤติกรรมแบบนี้ส่งผลเสียต่อร่างกายโดยตรง นอกจากจะทำให้นอนดึก หลับไม่สนิท ยังรบกวนการทำงานของสมองที่ควรจะได้พัก ส่งผลไปถึงการตื่นในตอนเช้าอีก ดังนั้น เมื่อถึงเวลาเข้านอน ควรวางทุกอย่างลง และพร้อมสำหรับการนอนที่มีคุณภาพดีกว่าเยอะเลย
RECOMMENDED CONTENT
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมี Florence Pugh ผู้ไ ด้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ซึ่งรับบทเป็นจิตแพทย์จีน แทตล็อก เช่นเดียวกับ Benny Safdie, Josh Hartnett, Rami Malek เรียกได้ว่านักแสดงเบอร์ใหญ่ทั้งนั้น