fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

เราต้องกล้าที่จะไล่ตามความฝัน แคมเปญใหม่จาก Nike ที่ชวน “เทนนิส พาณิภัค” แชมป์โลกเทควันโด 2 สมัย มาร่วมล่าความฝัน
date : 7.สิงหาคม.2020 tag :

นี่คือส่วนหนึ่งของแคมเปญ You Can’t Stop Us โดยล่าสุดไนกี้ได้ปล่อยภาพยนตร์โฆษณาตัวใหม่ชื่อว่า “NOTHING CAN STOP WHAT WE CAN DO TOGETHER.” เพื่อชวนทุกคนมาสร้างแรงบันดาลใจที่สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในโลกนี้

โดยได้นักฟุตบอลหญิงแชมป์ World Cup สองสมัย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก “Megan Rapinoe” มาให้เสียงสร้างความขลังขึ้นไปอีกขั้น นอกเหนือจากเป็นนักกีฬาแล้ว ยังเป็น activist ที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องสิทธิความเท่าเทียมกันในบรรดากลุ่ม LGBTQ+ อีกด้วย

“NOTHING CAN STOP WHAT WE CAN DO TOGETHER.” มีการถ่ายภาพการเคลื่อนไหวของนักกีฬากว่า 36 คู่ แต่ไฮไลท์อยู่ที่ “เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” แชมป์โลกเทควันโด 2 สมัย และเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกที่นครริโอ เด จาเนโร ในรุ่นน้ำหนักตัวไม่เกิน 49 กก. ร่วมอยู่ในภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ด้วย โดยไนกี้เล่าเรื่องราวของเทนนิสเพื่อส่งแรงบันดาลใจให้นักกีฬาและทุกๆ คน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงและก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

“พวกเราต้องกล้าที่จะไล่ตามและทำความฝันของเราให้เป็นจริงไปด้วยกันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง หากเรานั่งอยู่เฉยๆ คงไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นได้ หากคุณล้มเหลว คุณอาจจะพัก เรียนรู้ และลองทำดูใหม่ แต่จงอย่าหยุดสู้!”

“เช่นเดียวกับกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะประเภทที่เล่นคนเดียวหรือหลายคน ความสามัคคีคือสิ่งที่สำคัญ เราสนับสนุนกันและกัน เพื่อช่วยผลักดันกันและกันให้เติบโตขึ้น เมื่อเราสามัคคีกันและมีความรับผิดชอบต่อกัน ความเป็นไปได้ก็จะมีอยู่มากมาย” เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ

#YouCantStopUs

 

RECOMMENDED CONTENT

14.ธันวาคม.2020

‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ  ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย