นาทีนี้คงไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนถูกพูดถึงมากเท่ากับสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชันล่าสุด Galaxy Z Fold3 ที่ซัมซุงได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลายคนอาจยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรูปทรงแปลกตานี้ ทั้งในแง่ของความทนทาน ความคุ้มค่า ไปจนถึงฟีเจอร์ใหม่ ซึ่งดู๊ดดอทได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยๆ เพื่อไขทุกข้อสงสัยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1) “สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้จะใช้งานทนทานมากแค่ไหน?”
ซัมซุงเข้าใจถึงความกังวลของผู้ใช้ที่มีต่อสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ จึงนำความคิดเห็นดังกล่าวมาพัฒนาให้ Galaxy Z Fold3 มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยบานพับและเฟรมของสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นทำจาก Armor Aluminum ซึ่งเป็นอลูมิเนียมที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยนำมา
บริเวณด้านนอกของตัวเครื่องยังใช้กระจก Corning® Gorilla®Glass Victus™ ซึ่งมีความแข็งแรงสูง สามารถปกป้องเครื่องจากรอยขีดข่วนได้มากถึง 4 เท่า[1] ที่สำคัญยังเป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นแรกที่มาพร้อมคุณสมบัติการทนน้ำมาตรฐาน IPX8[2] สามารถทนน้ำลึก 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้หากมีเหตุน้ำหกใส่หรือต้องใช้งานขณะฝนตก
2) “ใช้ Galaxy Z Fold3 ไปนานๆ แล้วหน้าจอจะเป็นอะไรไหม?”
เทคโนโลยี Ultra Thin Glass (UTG) บนหน้าจอพับได้ของ Galaxy Z Fold3 ถูกพัฒนาให้มีความแข็งแรงกว่ารุ่นก่อนถึง 80%[3] ด้วยกรรมวิธีการผลิตแผงหน้าจอ ไปจนถึงฟิล์มป้องกันรอยแบบใหม่ที่เปลี่ยนจาก TPU เป็นชนิด PET ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง[4] ช่วยเพิ่มความทนทานกว่าที่เคยโดยไม่จำเป็นต้องติดฟิล์มเพิ่มเติม
อีกทั้งยังการันตีด้วยผลการทดสอบจาก Bureau Veritas ว่าสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้ทั้ง 2 รุ่นสามารถทนทานต่อการพับเปิด-ปิดถึง 200,000 ครั้ง[5] เทียบเท่าการใช้งาน 5 ปี เมื่อเฉลี่ยเปิด-ปิด วันละ 100 ครั้งเลยทีเดียว
3)“Galaxy Z Fold3 สามารถเปิดใช้งานพร้อมกันได้กี่แอปพลิเคชัน รองรับทุกแอปหรือไม่?”
ฟีเจอร์ Multi-Active Window[8] บนจอหลักของ Galaxy Z Fold3 สามารถเปิดใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 3 แอปพลิเคชัน และยังผ่านการอัปเกรดให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ตอบสนองทั้งหน้าจอแนวตั้งและแนวนอน สามารถปรับขนาด Layout ของแต่ละแอปได้ตามต้องการ เพิ่มความคล่องตัวด้วยฟีเจอร์ App Pair ให้ผู้ใช้จับคู่และเปิดแอปที่นิยมใช้พร้อมกันได้ในครั้งเดียว และสำหรับบางแอปพลิเคชันที่ยังไม่รองรับฟีเจอร์ Multi-Active Window ซัมซุงก็ได้นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Labs[9] ซึ่งจะช่วยแบ่งหน้าจอให้สามารถเปิดแอปอื่นๆ ที่ต้องการได้พร้อมกันนั่นเอง
4) “มีการรับประกันอย่างไร?”
ลูกค้า Galaxy Z Fold3 จะได้รับฟรี Samsung Care+ ประกันความเสียหายต่อตัวเครื่องอันเกิดจากอุบัติเหตุ (ประกันหน้าจอแตก เครื่องตกแตก และความเสียหายจากน้ำ) ภายใน 1 ปี นับจากวันแรกที่เปิดใช้งาน รวมถึงบริการส่งช่างเทคนิคถึงบ้าน ทำให้ใช้งานได้อย่างอุ่นใจ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ https://free.samsungcareplus.com/th[12]
5) “ราคาเท่าไหร่ มีข้อเสนอพิเศษอะไรบ้าง?”
สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชันล่าสุดของซัมซุงเปิดตัวในราคาใหม่ที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น Galaxy Z Fold3 5G มาในราคาเริ่มต้น 57,900 บาท (256GB) และ 61,900 บาท (512GB)
ซัมซุงยังส่งโปรโมชัน Trade-in ที่หลายคนรอคอย สามารถนำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่าทุกแบรนด์มาแลกเป็นส่วนลดได้สูงสุดถึง 3 เครื่อง[14] สามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติม เช็ครุ่นที่ร่วมรายการ และประเมินราคาเบื้องต้นได้ทาง https://www.samsung.com/th/tradeinpromotion/
นอกจากนี้ยังมี Galaxy Watch4 Series สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ Wear OS™ ที่พัฒนาร่วมกับ Google ทำให้ใช้งานหลากหลายแอปพลิเคชันยอดนิยมได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทำงานร่วมกับ One UI Watch ใหม่ ที่ทำให้สมาร์ทวอทช์และสมาร์ทโฟนเชื่อมต่อถึงกันได้ดียิ่งขึ้น
ด้านการทำงานก็เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยชิปเซ็ตแบบ 5nm ที่มีเป็นครั้งแรกในสมาร์ทวอทช์ ทำให้ CPU / GPU / RAMเร็วแรงมากขึ้น พร้อมด้วยความโดดเด่นในด้านการดูแลสุขภาพผ่านนวัตกรรมเซ็นเซอร์ BioActive ที่ประมวลค่าด้านสุขภาพได้อย่างละเอียดแบบ 3-in-1 ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามระดับความดันโลหิต ตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (AFib) หรือเช็คระดับออกซิเจนในเลือด
รวมถึงวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายได้เป็นครั้งแรก พร้อมตรวจจับเสียงกรน วัดค่าออกซิเจนในเลือดขณะนอนหลับ ประเมินและให้คะแนนคุณภาพการนอนหลับ (Sleep Scores) ได้อีกด้วย
RECOMMENDED CONTENT
หลังจากคว้ารางวัลกรังปรีซ์ สาขาเพลงประกอบโฆษณายอดเยี่ยมจากเวทีคานส์ ไลอ้อน 2017 อาดิดาส ออริจินอลส์ยังคงพัฒนาผลงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง