fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

Royal Enfield “Classic 350” รถจักรยานยนต์สุดคลาสสิก ให้หนุ่มๆ เดินทางไปได้ทุกที่
date : 13.กันยายน.2021 tag :

Royal Enfield เป็นสัญลักษณ์ของความยืดหยุ่น การมีอายุยืนยาวอย่างมีเป้าประสงค์ และความเป็นของแท้ มาตั้งแต่ปี 1901 โดยได้สืบสานมรดกของการสร้างรถจักรยานยนต์แนวคลาสสิกที่เรียบง่ายและกลมกลืน ผสมผสานงานฝีมือแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่รถจักรยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบ ในโอกาสฉลองครบรอบปีที่ 120 นี้ รอยัล เอนฟิลด์ได้คิดค้นและสร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่เป็นสัญลักษณ์ของตัวเองในมุมใหม่ นั่นคือ รุ่น Classic ด้วยการเปิดตัว All-New Royal Enfield Classic 350 ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์คลาสสิกเหนือกาลเวลาที่สร้างสรรค์ขึ้นมาพร้อมมุมมองใหม่เพื่อตอบสนองแรงบันดาลใจยุคใหม่ ความงามล้ำเลิศและความมั่นใจของรถรุ่นคลาสสิก ซึ่งบัดนี้ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอีกขั้นเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล แม่นยำ และสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

All-New Royal Enfield Classic 350 สร้างตำนานบทใหม่ให้กับรอยัล เอนฟิลด์ในการสร้างรถจักรยานยนต์ตามแบบฉบับของอังกฤษยุคหลังสงคราม ซึ่งเป็นที่รักของผู้ที่ชื่นชอบจักรยานยนต์ทั่วโลก มรดกตกทอดของรุ่น Classic นี้มีความเป็นมาย้อนไปถึงปี 1948 ที่รถจักรยานยนต์สุดล้ำในเวลานั้นอย่าง Royal Enfield Model G2 เป็นรุ่นแรกที่มีระบบกันสะเทือนหลังแบบสวิงอาร์มในรถจักรยานยนต์ที่ผลิตเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้งสวยงามและมีสมรรถนะที่เชื่อถือได้ Model G2 จึงเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบอันแรงกล้าสำหรับ Classic 500 และ Classic 350 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 ปรัชญาการออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายหากแต่ดูสง่างามพร้อมรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานกับการสื่อถึงลีลาท่าทางที่ออกแนวขึงขังและเป็นผู้สั่งการ แต่กลับขับขี่ได้สะดวกสบายและวางใจได้ด้วย เครื่องยนต์ UCE ทำให้ขึ้นแท่นเป็นจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่จักรยานยนต์เป็นกิจกรรมยามว่าง

นับตั้งแต่เปิดตัว รุ่น Classic นี้ได้กลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่ให้นิยามใหม่แก่รถจักรยานยนต์รุ่นมิดเดิ้ลเวท และก่อให้เกิดการฟื้นคืนชีพของรอยัล เอนฟิลด์ โดยเริ่มก้าวเป็นผู้นำระดับโลกในเซกเมนต์นี้ ในอีก 12 ปีต่อมาและหลังจากจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 3 ล้านคัน รุ่น Classic ได้สร้างตำนวนที่เป็นของตัวเอง และ Classic 350 ใหม่ก็พร้อมแล้วที่จะสานต่อตำนานบทนี้ไปข้างหน้า

Classic 350 ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สูบเดียว 349cc ชนิดระบายความร้อนด้วยอากาศ ที่ทันสมัยและได้รับความนิยมทั่วโลก ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในงาน Meteor เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ All-new Classic 350 สามารถนำเสนออีกระดับของความสะดวกสบาย ความนุ่มนวล และความประณีตในประสบการณ์การขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 349cc แบบฉีดเชื้อเพลิง ระบายความร้อนด้วยอากาศ/น้ำมัน Classic ให้กำลัง 20.2 bhp ที่ 6100rpm และแรงบิด 27Nm ที่ 4000rpm ส่งผลให้เกิดเสียงดังรบกวนน้อย ขณะที่การส่งกำลังเชิงเส้นเป็นไปอย่างราบรื่นสุด ๆ ทั่วทั้งแบนด์ ทำให้การขับขี่สนุกและง่าย และด้วยเพลาบาลานเซอร์หลักที่ลดการสั่นสะเทือน ทำให้ Classic ใหม่ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและมีทรงตัวดีบนท้องถนน การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างแม่นยำและราบรื่น ด้วยกระปุกเกียร์ 5 สปีดที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ซึ่งรับประกันการเร่งความเร็วในเมืองอย่างแม่นยำได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการขับขี่ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายที่ความเร็วระดับ cruising speed และเพื่อความสุขของผู้ที่ชื่นชอบรอยัล เอนฟิลด์อย่างมาก Classic 350 ใหม่ ยังคงรักษาเสียงกระหึ่มของท่อไอเสียไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ชัดเจน

Classic 350 ถูกออกแบบและพัฒนาโดยทีมนักออกแบบและวิศวกรมากความสามารถที่ศูนย์เทคโนโลยีล้ำสมัยสองแห่งของรอยัล เอนฟิลด์ในประเทศอินเดีย และสหราชอาณาจักร โดยมีการดูแลใส่ใจเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขับขี่จะได้ประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมเมื่อขับ Classic 350 ใหม่ แชสซีก็ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อความสะดวกสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า ทั้งยังมีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำความเร็วสูงขึ้นขณะเข้าโค้ง และให้ความรู้สึกมั่นคงและยึดเกาะถนนทางตรงได้ดีเยี่ยมเช่นกัน ระบบกันสะเทือนด้านหน้าและด้านหลังได้รับการพัฒนาอย่างครบถ้วนทุกรายละเอียดเพื่อให้นั่งบนอานได้อย่างสบายยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการใช้หลักการยศาสตร์ในการขับขี่ที่ดีขึ้นและการเบรกที่มั่นใจมากขึ้น Classic ให้ความรู้สึกคล่องตัวและตอบสนองได้ดี จึงมั่นใจได้ว่าประสบการณ์การขับขี่ในแต่ละครั้งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีขึ้น

 

RECOMMENDED CONTENT

2.กุมภาพันธ์.2021

Garmin เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ขนาดเล็กดีไซน์ทันสมัย Lily ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่รุ่นคลาสสิกและรุ่นสปอร์ต โดยนาฬิกาอัจฉริยะ Lily มาพร้อมรูปทรงสุดชิคในขนาดกะทัดรัด ด้วยตัวเรือนขนาด 34 มม. พร้อมสลักเชื่อมสายนาฬิกาแบบ T-bar เลนส์หน้าปัดพร้อมลวดลายละเอียด