fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

ADIZERO “Legacy Indigo” ส่งรองเท้าใหม่สีลงสนาม สำหรับนักวิ่งขาแรงที่ต้องการเพิ่มสถิติ
date : 2.ธันวาคม.2021 tag :

อาดิดาส เผยโฉมรองเท้าวิ่ง รุ่นจากตระกูล ADIZERO ในสีใหม่ล่าสุด “Legacy Indigo” ประกอบด้วย ADIZERO ADIOS PRO 2 และ ADIZERO PRIME X ที่ถูกออกแบบและพัฒนาร่วมกับนักวิ่งระยะไกลที่เร็วที่สุดในโลกโดยมีเป้าหมายในการทำลายสถิติที่ดีที่สุดของนักวิ่งเพื่อเป็นที่หนึ่งในทุกสนามแข่งขัน

สำหรับรองเท้าวิ่ง ADIZERO ADIOS PRO 2 มีพื้นรองเท้า LIGHTSTRIKE PRO ถึงสองชั้นที่มีการปรับรูปแบบและวางโครงสร้างเพื่อเสริมคุณสมบัติการคืนพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในพื้นรองเท้ามี ENERGYRODS แท่งคาร์บอนที่มีน้ำหนักเบาและออกแบบตามการเคลื่อนที่ของโครงสร้างกายวิภาค ทำหน้าที่เสริมแรงดีดและช่วยลดการสูญเสียพลังงานในระหว่างวิ่ง นั่นจึงทำให้รองเท้าคู่นี้ได้รับความนิยมอย่างมาก และพร้อมที่จะทำลายสถิติเพื่อสานต่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการแข่งขันระดับโลกพร้อมกับนักกีฬาของอาดิดาส ไม่ว่าจะเป็น เปเรส เจปเชียร์เชียร์ (Peres Jepchirchir) นักวิ่งสาวจากเคนยาที่สามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งล่าสุด กูเย อโดลา (Guye Adola) นักวิ่งชาวเอธิโอเปียที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในการแข่งขันเบอร์ลิน มาราธอน 2021 รวมถึง สัญชัย นามเขต นักวิ่งมาราธอนดีกรีทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญเงินจากการแข่งขันซีเกมส์ปี 2019

ส่วนรองเท้าวิ่ง ADIZERO PRIME X คือรองเท้าที่ถูกพัฒนาขึ้นนอกเหนือข้อจำกัดของกฎเกณฑ์ของรองเท้าสำหรับการแข่งขันวิ่งระยะไกล เพื่อให้นักวิ่งได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพสูงสุดของเทคโนโลยีจากอาดิดาส เช่น การใช้พื้นรองเท้า LIGHTSTRIKE PRO ที่มีความหนาถึง 50 มิลลิเมตร และยังมี ENERGYRODS และใบมีด 3 แผ่นที่จะช่วยเสริมแรงดีดกลับได้มากขึ้น เพื่อให้นักวิ่งสัมผัสถึงประสบการณ์ที่ไม่เคยได้รับจากรองเท้าวิ่งคู่ไหนมาก่อนและใช้ความเร็วสูงสุดได้อย่างเต็มที่ตลอดการวิ่งอีกด้วย

รองเท้าวิ่ง ADIZERO ADIOS PRO 2 และ ADIZERO PRIME X สีใหม่ล่าสุด “Legacy Indigo” จะวางจำหน่ายในราคา 8,000 บาท และ 9,400 บาท (ตามลำดับ) ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป

RECOMMENDED CONTENT

8.มกราคม.2024

“Epic Worlds” โปรเจ็กต์ภาพยนตร์สั้นสุดพิเศษซึ่งถ่ายทำด้วย Galaxy S23 Ultra สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของการสร้างคอนเทนต์โดยใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งการถ่ายทำผ่านขั้นตอนการระดมทุนจากมวลชนก่อนจะนำมาตัดต่อเข้าด้วยกันและเผยแพร่สู่สาธารณะ โดย “Epic Worlds” เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของการทำงานร่วมกัน