Maurice Lacroix จัดงานเปิดตัวนาฬิกา Pontos คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ที่ห้างเกษร วิลเลจ โดยในงานครั้งนี้พิเศษมากๆ ที่คุณ สเตฟาน วาเซอร์ กรรมการผู้จัดการ มอริส ลาครัวซ์ ได้บินตรงจากสวิสเซอร์แลนด์เพื่อมาร่วมงานเปิดตัวนาฬิกา Pontos คอลเลคชั่นใหม่นี้ด้วยตัวเองถึงที่เมืองไทย

ไฮไลต์นาฬิกาในงานนี้ คือ นาฬิการุ่น Pontos S Chronograph และ Pontos Day Date Limited Edition ที่นำเข้าไทยเพียง 20 เรือน และมีทั่วโลก 1,000 เรือนเท่านั้น ต้องบอกว่าใครอยากเป็นเจ้าของต้องรีบไปจับจองโดยด่วน

Pontos S Chronograph

PONTOS S Chronograph คอลเลคชั่นใหม่นี้ ได้ถูกถ่ายทอดผ่านหน้าปัดนาฬิกาที่ตกแต่งมาในแบบพ่นทราย (Sandblasted) ซึ่งมีการนำเสนอให้ถึงสองตัวเลือก ทั้งแบบหน้าปัดสไตล์สีขาวเงิน และสีน้ำเงินเข้ม ที่มาพร้อมกับเข็มชั่วโมงและนาทีกึ่งเปลือยสไตล์ Openworked ตกแต่งเส้นสายด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® รวมไปถึง Indexes รูปทรงเจียระไนแบบเหลี่ยมเพชรบนหน้าปัดแสดงเวลาชั่วโมงต่างๆ ดูโดดเด่นและเปล่งประกายสว่างอย่างชัดเจน แม้ในยามที่มีแสงเพียงเล็กน้อย ด้านการจัดวางในแต่ละมาร์กเกอร์และแทร็คนาที สะดุดตาชวนให้มองและน่าค้นหาด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ฝังไว้ด้วยสารเรืองแสง สามารถอ่านค่าได้อย่างชัดเจนแม้ภายในพื้นที่แสงน้อย รวมไปถึงสเกลที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันโดยอาศัยการผสมผสานของเส้นสายอันเฉียบคมและตัวเลขอารบิกสีแดง ซึ่งมีส่วนช่วยยกระดับความสามารถในการมองเห็นโดยรวมได้อย่างดี

ความโดดเด่นอีกอย่างที่มองเห็นอย่างชัดเจนในพริบตาเดียว คือการจัดวางสองหน้าปัดย่อยจับเวลาลงบนหน้าปัดกลาง โดยจัดวางตามแนวเหนือ-ใต้ ประกอบด้วยหน้าปัดย่อยจับเวลา 30 นาที ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา และหน้าปัดย่อยจับเวลา 12 ชั่วโมง ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และหากดูใกล้ๆกันก็จะสามารถมองเห็น การแสดงวินาทีเล็ก ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา รวมไปถึงช่องหน้าต่างสำหรับแสดงวันและวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ได้อย่างชัดเจน โดยทีมออกแบบของ Maurice Lacroix ยังได้แสดงความเจนจัดในการจัดวางองค์ประกอบของแต่ละหน้าปัดย่อยนี้ด้วยความประณีต ทั้งหน้าปัดแบบพ่นทราย (Sandblasted) ที่ล้อมรอบด้วยรายละเอียดลวดลายขดก้นหอย (snailed) และชิ้นส่วนหน้าปัดแบบเล่นระดับต่างกัน พร้อมด้วยเทคนิคการเลือกสีสัน เพื่อมอบซึ่งประสบการณ์อันล้ำค่าให้กับเจ้าของเรือนเวลาอย่างแท้จริง

ผสานขอบตัวเรือนที่ทำจากเซรามิกกันรอยขีดข่วน และติดตั้งมาตรวัดความเร็ว ทาคีมิเตอร์ (Tachymeter) ฟังก์ชันที่จะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถคำนวณความเร็วได้อย่างแม่นยำและแน่นอน ตอกย้ำถึงคุณลักษณะสไตล์สปอร์ตของนาฬิการุ่นนี้เป็นอย่างดี และในขณะเดียวกันก็ถ่ายทอดถึงรูปลักษณ์สไตล์เรโทรคลาสสิกได้อย่างสง่างาม มิกซ์แอนด์แมทช์ได้ทุกโอกาส

ขณะที่ Maurice Lacroix ยังคงรักษาไว้ซึ่งความโดดเด่นของงานออกแบบที่พบได้ในรุ่นก่อนหน้า อาทิ ปุ่มกดขยายยาวขึ้น และหูตัวเรือนแบบเล่นระดับคู่ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะที่ตัวเรือนเลือกผสมผสานระหว่างพื้นผิวแบบขัดด้านและขัดเงา โดยในส่วนด้านหลังของนาฬิกาจะประกอบด้วยแผ่นกระจกแซฟไฟร์ที่มองเห็นกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ  ML112 calibre บ่งบอกถึงระดับชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาของ Maurice Lacroix ซึ่งพร้อมจะส่งมอบคุณค่าระดับสูง ด้วยกลไกที่ผ่านการตกแต่งอย่างประณีตและผสมผสานด้วยความวิจิตรงดงามของลวดลาย Côtes de Genève, Perlage และการตกแต่งแบบ Sunbrush อย่างลงตัว

นาฬิกา PONTOS S Chronograph ใหม่จับคู่มาพร้อมกับสายคอร์ดูร่า ตกแต่งลวดลาย ‘M’ ของแบรนด์ที่ผสมผสานด้วยเฉดสีเดียว พร้อมทั้งงานเย็บตะเข็บแบบสีเดียวกัน (tone-on-tone) โดยการเดินสายด้วยหนัง Nubuck ที่หรูหราตามแบบฉบับของแบรนด์ นาฬิการุ่นนี้ยังมีให้เลือกแบบสายสตีลสามแถว ซึ่งเจ้าของสามารถเปลี่ยนลุคและสไตล์ของนาฬิกาได้อย่างง่ายดายด้วยระบบถอดเปลี่ยนสาย Easy Strap Exchange ที่สามารถเลือกเปลี่ยนระหว่างสายอื่นๆ หรือสายโลหะได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยใดๆ

โดยนาฬิการุ่น PONTOS S Chronograph นี้ ภายในงานนี้ได้ถูกนำเสนอผ่านความเป็นตัวตนของคุณชิน ชินวุฒิ อินทรคูสิน ที่มีชีวิตไลฟ์สไตล์แบบ Urban ซึ่งชื่นชอบรถยนต์ที่มีสมรรถนะเร็ว แต่ดีมีไซน์หรูในคันเดียวกัน เพราะให้ความรู้สึกที่สปอร์ต และเรียบหรูตอบโจทย์ได้ในทุกด้านของชีวิต

PONTOS S Chronograph
จำหน่ายในราคา 125,000 บาท

____________________

Pontos Day Date Limited Edition

การผสมผสานของสีเขียวและสีดำ สำหรับนาฬิกา PONTOS Day Date Limited Edition คอลเลคชั่นใหม่นี้ ได้ช่วยพลิกแนวคิดการผสมผสานของเฉดสีที่ตัดกันได้อย่างน่าสนใจ และผสมผสานอย่างประณีตกับงานขัดตกแต่งแบบ Sunray ขณะที่ตัวเรือนสเตนเลสสตีล 41 มม. ยังเคลือบด้วยเฉดสีอันคมเข้มของ DLC สีดำ ซึ่งการผสมผสานอันสวยงามนี้ได้ถ่ายทอดคุณลักษณะอันโดดเด่น โดยเฉพาะเมื่อสวมใส่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่คลาสสิกและเรียบหรู และในเวอร์ชันใหม่ของ PONTOS Day Date Limited Edition นี้ได้สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์แห่งเมืองอันทันสมัย ซึ่งนับว่าเป็นการผสมผสานของเฉดสีและรูปทรงที่ยังคงความโดดเด่นเหนือใครได้เสมอ

หน้าปัดบรรจุด้วยเข็มชี้ชั่วโมงและนาทีสีดำ ที่ตกแต่งเส้นสายด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® เพื่อแสดงเวลาอย่างชัดเจน ขณะที่เครื่องหมายขีด (indexes) ทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่นำมาติดไว้บนหน้าปัดนั้นได้สะท้อนถึงบุคลิกเฉพาะอันโดดเด่นเช่นเดียวกัน เสริมด้วยสเกลนาทีด้านในตกแต่งแบบพ่นทราย (Sandblasted) ในเฉดสีดำ ซึ่งจัดวางตำแหน่งไว้บนแผ่นหน้าปัดด้านล่าง เพิ่มมิติจากการผสมผสานระหว่างชุดของเส้นสายอันคมชัดและรูปทรงสี่เหลี่ยมแบบกว้าง พร้อมทั้งยังเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova® ที่ออกแบบขึ้นอย่างพิถีพิถัน และละเอียดอ่อน เพื่อถ่ายทอดเวลาแบบนาทีและวินาที ให้สามารถอ่านค่าได้อย่างง่ายดายและชัดเจนขึ้น

สร้างความสมดุลให้กับส่วนบนสุดของหน้าปัดด้วยโลโก้ ‘M’ ของ Maurice Lacroix เสมือนดั่งยอดมงกุฎของการแสดงเวลาที่เหลือทั้งหมด ภายใต้รูปโฉมสีดำที่ดูเรียบขรึมและสุดคูล โดยทุกองค์ประกอบทั้งหมดนี้ แสดงอยู่บนหน้าปัดที่ถูกถ่ายทอดด้วยลวดลายพื้นผิวที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับการผสมผสานด้วยงานตกแต่ง เฉดสีและมิติต่างๆ เช่น ‘วัน’ ซึ่งแสดงผ่านช่องหน้าต่างทรงโค้ง และถ่ายทอดด้วยตัวอักษรสีขาวเหนือพื้นหลังของดิสก์สีดำบนช่องหน้าต่างที่ลึกลง แต่ยังคงอ่านค่าได้อย่างชัดเจน ส่วนการเคลือบด้วยสีดำนี้ยังคงปรากฏเช่นกัน ในบริเวณส่วนล่างของหน้าปัด ที่ซึ่งแสดง ‘วันที่’ ผ่านช่องหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยมแบบลึกลง แต่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วยสไตล์อันทันสมัย ขณะที่เข็มวินาทีกลางแบบยาวโดดเด่นด้วยปลายสีแดงและกวาดอยู่เหนือสเกลนาทีนั้น ถูกนำมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการอ่านค่าได้อย่างแม่นยำและมีมิติมากยิ่งขึ้น

ด้วยขนาดตัวเรือนของนาฬิกาที่ลงตัว และเหมาะสำหรับสวมใส่บนข้อมือได้ทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี อีกทั้งยังครบถ้วนด้วยคุณสมบัติที่สืบทอดมาอย่างต่อเนื่องจากนาฬิกา PONTOS รุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะการมาพร้อมตัวเรือนที่ยังคงรับกับหลักสรีรศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสมือนการส่งมอบความสะดวกสบายในระดับอันน่าประทับใจให้กับผู้สวมใส่ ส่วนเม็ดมะยมนั้นสามารถจับใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วด้วยการสลักร่อง ที่สะดวกง่ายดายในการใช้งานเมื่อสัมผัส จนรู้สึกได้ถึงประสบการณ์อันพิเศษที่ถูกผนึกรวมไว้ด้วยมาตรฐานคุณภาพชั้นยอดของเรือนเวลา

ฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ เปิดโชว์ความน่าทึ่งของจักรกลให้กับเจ้าของเรือนเวลา มองเห็นการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ  ML143 calibre ที่ยกระดับชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาของ Maurice Lacroix ด้วยการมอบคุณค่าระดับสูง ขณะที่กลไกยังผ่านการตกแต่งอย่างประณีต ด้วยลวดลาย Côtes de Genève  แนวตั้ง พร้อมทั้งลวดลาย Circular-graining และ Colimaçon รวมถึงโรเตอร์ที่ประดับตกแต่งด้วยงานขัดแต่งแบบ

นาฬิการุ่นใหม่นี้ประกอบคู่มากับสายคอร์ดูร่า ตกแต่งด้วยอักษรย่อของแบรนด์ ‘M’ พร้อมทั้งเฉดสีเขียวเข้มและเย็บตะเข็บด้วยสีเดียวกัน (tone-on-tone) ในขณะเดียวกันยังสามารถปรับเปลี่ยนลุคนาฬิกาได้อย่างง่ายดายด้วยระบบสาย Easy Strap Exchange กับการถอดเปลี่ยนเป็นสายตัวเลือกอื่นๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือช่วยใดๆ

ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 1000 เรือน ทั่วโลก และนำเข้าไทยเพียง 20 เรือน PONTOS Day Date Limited Edition เป็นเสมือนตัวแทนมุมมองของมหานครอันหลากหลายและมีภาพลักษณ์อันซับซ้อนที่ทันสมัย นาฬิการุ่นนี้ได้คงไว้ซึ่งความโดดเด่นเหนือใครมาเสมอ และเป็นอีกครั้งที่ Maurice Lacroix ได้เชื่อมโยงระหว่างสไตล์เฉพาะไม่ซ้ำแบบใครกับประโยชน์การใช้งาน โดยได้หลอมรวมไว้ให้เป็นหนึ่ง ด้วยสไตล์ชิคแบบเมืองอย่างแท้จริง

สำหรับ Pontos Day Date Limited Edition เรือนนี้ ได้ถูกเลือกให้เป็นนาฬิกาคู่ใจของคุณโจ้ สุวัฒน์ สุขกาย ซึ่งปัจจุบันทำงานในตำแหน่ง MD ของบริษัทเอกชน แต่ในขณะเดียวกันก็รับหน้าที่เป็นเชฟทำอาหารที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ตลอดเวลา ให้กับร้านอาหารสไตล์ เชฟ เทเบิล Kitchen Kin ของตัวเอง ชีวิตที่มีไลฟ์สไตล์แตกต่างกันทั้งสองด้านนี้  ชึ่งเป็นชีวิตแบบเมืองใหญ่ ด้านหนึ่งคือบุคลิกที่ต้อง สุภาพน่าเชื่อถือ สุขุม และหนุ่มทันสมัยไฟแรง อีกด้านคือ การปลดปล่อยจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ไปตามความชอบในแบบที่เป็นตัวของตัวเอง คุณโจ้เป็นคนที่ชื่นชอบนาฬิกา ML อยู่แล้วและสะสมไว้หลายคอลเลคชั่น โดยเฉพาะกับ Pontos Day Date คอลเลคชั่นลิมิเต็ดใหม่นี้ ที่ตอบโจทย์และเหมาะกับการใช้ชีวิตทั้งสองด้านของคุณโจ้ ในเรือนเดียวกัน

Pontos Day Date Limited Edition
จำหน่ายในราคา 79,000 บาท

____________________

สอบถามข้อมูลนาฬิกาเพิ่มเติม และพรีออเดอร์ได้ที่ Maurice Lacroix 10 สาขา ดังนี้ มอริส ลาครัวซ์ บูติค ชั้น 2 เกษร วิลเลจ, สยามพารากอน, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัล พลาซ่า บางนา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช, เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต

หรือผ่านทาง LINE Official Account @MauriceLacroixTH

Maurice Lacriox Facebook https://www.facebook.com/MauriceLacroixThailandOfficial/

Website: www.mauricelacroix.com