“Uber“ บริษัทให้บริการแท็กซี่ระดับ Worldwide (มีทั้งหมด 38 ประเทศแล้วตอนนี้) ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาได้เดินทางมาเปิดตัวที่เมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่เข้ามาดูแลบริษัทที่เคยดูระบบการจัดการของการเช่าลิมูซีนป้ายเขียวอีกที ผ่านไปไม่กี่เดือนเสียงตอบรับของผู้ใช้ต่างบอกเป็นทางเดียวกันว่าคนขับน้อยใหญ่ให้บริการได้ดีสมราคาที่จ่ายไปจริงๆ ราคาที่จ่ายไป… เท่าไรอยากรู้กันแล้วใช่ไหม? ราคาเริ่มต้นของแท็กซี่ Uber เริ่มต้นที่ 45 บาท (เพิ่มกว่าแท็กซี่ ทั่วไปของเดิม 35 บาท) มีขั้นต่ำต่อเที่ยว 75 บาท อย่าเพิ่งบ่นงงกัน ขั้นต่ำในที่นี้คือ สมมุติถ้าจบแล้ววิ่งไปไม่ถึง 50 บาท ยังไงก็ต้องจ่าย 75 บาทเป็นขั้นต่ำ ระยะทางตอนวิ่งคิดเป็น 9.20 บาท ต่อกิโลเมตร (Taxi ปกติที่วิ่งๆกันนี่คิดขั้นต่ำ 5 บาท ต่อกิโลเมตร)
เอาล่ะบรรยายราคากันมานาน จุดเด่นของ Uber คือ การการันตีว่าแท็กซี่ของพวกเขาจะให้บริการอย่างดีเยี่ยม รถที่ใช้ตอนนี้คือ Toyota Camry และ Benz E Class ไม่ต้องกังวลว่าพี่ๆโชเฟอร์จะชวนคุยเรื่องการเมือง ถากถาง ละลาบละล้วงหรือลวนลามทางคำพูดใดๆทั้งนั้น เพราะ Uber มีระบบที่คุณลูกค้าสามารถให้คะแนนความพอใจได้ และถ้าผลรวมแล้วได้ไม่ถึงขั้นก็ต้องโดนเด้งออก ส่วนเรื่องการโกงขับอ้อมก็หายห่วงเช่นกัน เพราะระบบคิดตังค์ของ Uber คือเราจ่ายหักจากบัตรเครดิตโดยตรง (ไม่ต้องวุ่นว่ายหาเงินทอน) และคนขับแท็กซี่ Uber จะได้รายได้เป็นเงินเดือน ไม่เกี่ยวกันกับค่าวิ่งรถ และสิ่งที่น่าจะตอบโจทย์ชาวกรุงเทพมากที่สุดคือ ระบบเรียกแท็กซี่ผ่านแอพ Uber ที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ไม่มีคำว่าส่งรถไม่ทัน หรือข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น แถมเมื่อเรียกแล้วจะมีการกะระยะทางบอกเป็นเวลาเสร็จสรรพ โดยที่เราสามารถติดต่อกับคนขับได้เลยโดยตรง สบายใจทั้งคนขับและคนนั่ง
สรุปก็คือในแง่ของการใช้บริการ คงไม่ต้องสืบว่า Uber Taxi เหนือกว่า Taxi ปกติแน่นอน เสียงตอบรับของคนไทยที่นั่งแล้วก็ชื่นชอบกันทุกคน แต่ต้องยอมรับให้ได้ในแง่ของราคาที่เพิ่มสูงกว่าแบบก่อนเท่านั้นเอง (ถ้าเรียกไปสุวรรณภูมิคิดเป็น 1,000 ทันที) ตอนนี้มีให้บริการแล้วทั่วในกรุงเทพ (ที่วิ่งๆอยู่ดูภายนอกไม่มีทางรู้เลยว่าเป็นท็กซี่) ถ้าอยากลองศึกษาดูเพิ่มเติมสามารถดูได้ในเวปไซต์หลักของพวกเขา https://support.uber.com/hc/en-us หรือลองโหลดแอพมาใช้ดูเลยก็ได้!
Writer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
แซมรู้สึกว่ายังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ของแซมมากๆ แซมยังเป็นคนนึงที่แซมมองเรื่องดนตรีเป็นเรื่องของความสนุกอยู่ แซมชอบที่จะได้ทดลองเพลงต่างๆ วิธีการเขียนต่างๆ เหมือนกับดนตรีมันยังเป็นงานอดิเรกของแซมด้วย แล้วพอเราได้ออกมาทำเป็น Job ด้วยจริงๆ มันก็แฮปปี้ดี ไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าศิลปินเต็มตัวได้ไหม แต่ว่าก็ทำอยู่เรื่อยๆ