ขนมปังเบเกอรี่ ไม่ว่าใครก็ต้องรัก ขนมปังเบเกอรี่ สิ่งมหัศจรรย์อีกหนึ่งอย่างที่มนุษย์คิดค้นขึ้นบนโลกใบนี้ อะไรจะมีความสุขไปกว่าแป้งขนมปังสีเหลืองถูกนำมาสร้างสรรค์ในรูปแบบที่แตกต่างกันตามชาติพันธุ์ต่างๆ กรรมวิธีการทำที่หอมกรุ่น และไส้สอดที่หอมหวาน หอม หอม หอมมม แค่คิดยังท้องร้องขนาดนี้ เราจะมาทรมานคนอ่านทุกคนต่อด้วยการนำเอาร้านเบเกอรี่ร้านดังรอบโลกที่รวบรวมโดยเวปไซต์ Buzzfeed มาฝากกัน เตรียมกระดาษเช็ดปากไว้ให้ดีแล้วไปลุยกันเลย
1. ร้าน “Dominique Ansel Bakery” ใน New York (สหรัฐอเมริกา)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: อย่าถามถึงเหตุผลเลยดีกว่า นี่คือสวรรค์บนดินของชาวนิวยอร์กเกอร์ตอนนี้ ร้านทำขนมปังที่มีเมนูเด็ดคือ The Cronut ลูกผสมระหว่างโดนัท และ ครัวซองต์ ออกมาเป็นรูปทรงวงกลมมีรู (ทำไมเธอไม่มีหน้าล่ะ!?) แต่เนื้อขนมเป็นแบบครัวซองต์กรอบนอกนุ่มใน กัดลงไปนอกจากหน้าของโดนัทด้านบนแล้ว ไส้ที่อยู่ข้างในก็แตกทะลักไปพร้อมๆกัน ตอนนี้กำลังเป็นกระแสที่อย่าว่าแต่นิวยอร์กเกอร์เลย คนทั่วสหรัฐต่างก็พากันมาลองขนมชนิดนี้ ขายหมดในเวลาไม่ถึงสิบเอ็ดโมงเช้า (แต่ไม่ต้องห่วงมีขนมชนิดอื่นๆขายทั้งวัน) ใครที่มีแผนกำลังจะไปหรือมีเพื่อนอยู่นิวยอร์ก วานซื้อมาแล้วกินโชว์ผ่าน Facetime ก็ยังดี
2. ร้าน “Conditori La Glace” แห่ง Copenhagen (เดนมาร์ก)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: เดนมาร์ก นอกจากจะมีเมืองเลโก้ Legoland และ ปีเตอร์ ไชเมเคิล แล้ว (อดีตมือโกล์สุดเหนียวของแมนยู (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย) ) ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการอบขนมปัง Pastry ทั้งหลาย ซึ่งร้านเก่าแก่กลางเมืองหลวงแห่งนี้ จะเหมือนพาคุณย้อนเวลากลับไปเป็นคนละยุค พร้อมเค๊กรสชาติเยี่ยมสุดคลาสสิคเสิร์ฟพร้อมกาแฟร้อนในตอนบ่ายๆ… ครับ 🙂
3. ร้าน “Du Pain et des Idees”ใน Paris (ฝรั่งเศส)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: อะไรกัน! ปารีสเมืองโรแมนติกขนาดนี้ แต่ทำไมเลือกร้านเล็กๆแบบนี้ได้ล่ะ… ใจเย็นครับ เห็นร้านเล็กอย่างนี้แต่คุณรู้หรือไม่ว่า (คุณนั่นล่ะ) ที่นี่เป็นท่ีกล่าวขานว่าทำ croissant (ครัวซองต์) ออกมาได้อร่อย หอม กรอบ ที่สุดแล้วในปารีส ยิ่งไปกว่านั้นการหยิบเอาไส้ต่างๆมาดัดแปลงผสมลงไป ความอร่อยที่ได้อาจจะทำให้หนุ่มสาวเมืองน้ำหอมยอมเลิกบุหรี่แลกกับกินครัวซองต์เลย!
4. ร้าน “e5 Bakehouse” ใน London (อังกฤษ)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: คลาสสิค เรอเนซองค์กันมาสักพักแล้ว เรามา Contemporary ร่วมสมัยกันบ้างดีกว่า กับร้านเบเกอรี่ในลอนดอนที่หน้าร้านมี Street Art แสนจะน่ารักนี้ จุดเด่นคือนอกจากจะเป็นเบเกอรี่ที่ให้อารมณ์ทำกินเองโฮมเมดแล้ว ที่นี่ยังรับสอนเปิดคอร์สทำขนมปัง นอกจากกินอร่อยยังได้ความรู้กลับบ้านไปอีกด้วย
5. ร้าน “Tai Cheong Bakery” ใน Hong Kong (ฮ่องกง)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: ไม่ใช่ว่ามีแต่ยุโรป HK ฝั่งเอเชียแบบเราๆก็ติดโผเหมือนกันนะ เชื่อว่าร้านนี้คนที่ชอบไปเที่ยวฮ่องกงคงต้องเคยเดินผ่านกันมาแล้วบ้างแน่ๆ ให้ทายว่าเขาขึ้นชื่ออะไร… “ทาร์ตไข่!” ทาร์ตไข่ระดับตำนานที่ใครไปเยือนฮ่องกงก็ต้องเดินหา รสชาติความกรอบของขอบทาร์ตตัดสลับด้วยความนุ่มลิ้นของไข่อยู่ด้านใน ผลลัพธ์ก็คือคิวที่ยาวเหยียดทำเท่าไรก็หมดเรียบ
6. ร้าน “Pastéis de Belém” ใน Belém (โปรตุเกส)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: นี่คือบ้านเกิดของขนมที่เรียกว่า “pastel de nata” หลายคนเห็นรูปทรงแล้วคงคิดว่าจะเรียกชื่อให้ยากทำไม เพราะมันก็ดูไม่ต่างอะไรจากทาร์ตไข่ที่เราเคยกินกัน ใช่แล้วนี่คือทาร์ตไข่ แต่มันคือสูตรเฉพาะของชาวโปรตุกีส และร้านแห่งนี้ก็ตั้งใจทำสดออกจากเตาตามแบบฉบับดั้งเดิมมาให้เราทานกัน ไส้คัสตาร์ดที่อัดแน่นแทบทะลักหุ้มด้วยความกรอบของแป้งไว้เล็กน้อย ถ้าถึงเวลานั้นจริงขออย่างเดียวพอ… ช็อกโกแลตร้อน 1 แก้ว = “ฟินครับ”
7. ร้าน “Konditorei und Cafe Buchwald” ใน Berlin (เยอรมัน)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: ร้านขนมปังของครอบครัว Buchwald อันแสนเก่าแก่แห่งนี้ มีสิ่งที่พวกเขามั่นใจ เรียกว่าเป็นไม้ตายประจำตระกูลเลยก็ได้ มันก็คือเค้กที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น “Baumkechen” ชื่ออาจจะแปลกหูแต่หลายคนดูรูปแล้วคงรู้สึกคุ้นตากันไม่น้อย (แต่ยังไม่กล้าพูดเพราะกลัวปล่อยไก่) ครับ มันคือ “เค้กท่อนซุง” ที่เรารู้จักกัน จุดกำเนิดอยู่ที่ยุโรปแต่ทุกวันนี้มันได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาโด่งดังในญี่ปุ่น และเริ่มเข้ามาในบ้านเราบ้างเหมือนกัน เนื้อเค้กที่ซ้อนเป็นชั้นชั้นชั้นชั้น เหมือนลายขอนไม้ ระหว่างชั้นต่างๆสอดด้วยไส้รสอร่อย ถ้าอยากรู้ว่า Master ของเค้กท่อนซุงเป็นอย่างไรต้องลองไปชิมที่นี่เท่านั้น… “บ้านเมืองมีขนมอร่อยแบบนี้! ถึงว่าล่ะ… ไม่แปลกใจเลยทำไมบอลโลกปีนี้ถึงตกเป็นของเยอรมัน”
8. ร้าน “Hafiz Mustafa 1864” ใน Istanbul (ตุรกี)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: ร้านขนมเก่าแก่ใจกลางอิสตันบุล ที่ตอบโจทย์ต่อมความอยากขนมพื้นเมืองสไตล์ตุรกีได้อย่างจัดเต็ม อย่างขนมบาลคาวา (Baklava) ที่คนเคยชิมคงจะรู้ดีว่าอร่อยขนาด ว่ากันว่าถ้ามาเจอบาลคาวาสูตรเด็ดของที่ร้านนี้รสชาติสามารถละลายในปากได้เลย คำแนะนำถ้าไปเที่ยวตุรกี แล้วหงุดหงิดกับลีลากวนโอ๊ยของคนขายไอติมเหนียวหนืด “Dondurma” (ทุกรายการพาเที่ยวต้องเคยโดน) อย่าไปทนครับ ปล่อยพ่อค้าแกควงไอติมต่อไป แล้วเดินมากินขนมปังอร่อยๆที่ร้านนี้ดีกว่า
9. ร้าน “Tatte” ใน Boston (สหรัฐอเมริกา)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: ก่อนจะถามเหตุผล ลองดูชื่อร้านก่อน สั้นๆครับ “Tatte” แค่ลองดูรูปทาร์ตรสต่างๆที่นำมาฝากสิ ทั้งถั่วและผลไม้สีสันสวยงามขนาดนี้ คนถ่ายก็ถ่ายมาใกล้ซะจนแทบหยิบมาชิมได้ (แต่ไม่ได้ ฮือ) น่ากินแล้วยังสวยงาม ถ้าบ้านอยู่แถวนั้นคงไม่พลาดทุกวัน
10. ร้าน “Henri Charpentier” ใน Tokyo (ญี่ปุ่น)
เหตุผลที่ต้องเป็นร้านนี้: นี่คือร้านของเชฟขนมปัง “Henri Charpentier” ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขนมที่ออกมาโดยฝีมือของเขานอกจากจะอร่อยปากแล้ว ยังสวยสายตาอีก (ดูรูปสิ แค่มองก็อิ่มแล้ว) ดูดีซะจนแทบไม่กล้าจะเริ่มกินตรงไหนเลย ยิ่งไปกว่านั้นร้านนี้ยังออกแบบมาให้แค่ไปนั่งก็สบายใจแล้ว (นี่สรุปจะกินไหมน่ะ) เป็นร้านดังตัวแทนของเมืองโตเกียวในลิสต์นี้
Credit : Buzzfeed
RECOMMENDED CONTENT
ถือเป็นวงดนตรีอินดี้ป็อปที่มาแรง และได้รับการตอบรับมากที่สุดในขณะนี้ สำหรับศิลปินคู่หู “Whal & Dolph” ประกอบด้วย "ปอ" - กฤษสรัญ จ้องสุวรรณ (ร้องนำ) และ "น้ำวน" - วนนท์ กุลวรรธไพสิฐ (กีต้าร์) จากค่ายเพลง What The Duck