เพิ่งจะผ่านพ้นไปกับ “2014 FORMULA 1 SINGAPORE AIRLINES SINGAPORE GRAND PRIX” สนามแข่งขันรถสูตร 1 ท่ามกลางมหานครการค้าแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศสิงคโปร์ จากตัวเลขล่าสุดของปี 2014 ที่ผ่านมา มีผู้เดินทางมาร่วมชมการแข่งขัน F1 กันไม่ต่ำกว่า 250,000 คนจากทั่วทุกมุมโลก และออกอากาศต่อสายตาผู้ชมทางบ้านมากกว่า 500 ล้านคน นี่คืองานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปีที่ชาวสิงคโปร์ภูมิใจอย่างไม่ต้องสงสัย และสำหรับทางเราเอง Dooddot ในปีนี้ได้รับเกียรติจากการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board) ให้ร่วมเข้าชมด้วย วันนี้เรามีภาพบรรยากาศมาฝาก พร้อมสรุปการแข่งคร่าวๆในปีนี้ให้ทุกคนฟังกัน
สำหรับคอกีฬา F1 คงทราบกันดีว่านี่คือสนามแข่งกลางคืน (Night Race) ที่เดียวในตารางการแข่งขัน Grand Prix ของทั้ง Season และด้วยรูปแบบสนามที่ท้าทาย กล่าวคือนี่เป็นสนามที่นักแข่งว่ากันว่าโหดที่สุดในบรรดาทุกๆสนาม สาเหตุที่ทำให้สนาม F1 Singapore Grand Prix เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจของทั้งนักแข่งและคนดูมีอยู่มากมายหลายข้อ อย่างแรกเลยก็คือความเป็นสนาม Night Race ที่ในมุมคนดูเป็นสนามที่มีแสงไฟส่องสว่างท่ามกลางท้องฟ้าสีดำสนิท มีฉากหลังเป็นวิวทิวทัศน์ตึกระฟ้าในเมืองสิงคโปร์ยามค่ำคืนอย่างสวยงาม ส่วนในมุมของนักแข่งก็ถือเป็นความท้าทายที่ทำให้เวลานอนและการเตรียมพร้อมของนักแข่งต้องปรับไปจากสนามปกติอย่างมาก การแข่งเริ่มกันตั้งแต่ 2 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่น ลากยาวไปกว่า 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ (ปีนี้ทั้งหมด 61 รอบ) ที่ทำให้สนามนี้จำเป็นต้องมีระยะเวลาการแข่งนานกว่าปกติ เนื่องจากความที่เป็น Track วิ่งกันบนถนน ทำให้ทางที่ใช้วิ่งมีความแคบ และโค้งแต่ละโค้งก็ไม่ได้ออกแบบมารับกับความเร็วเหมือนสนาม F1 ที่อื่นๆ บังคับให้นักขับแตละคนต่างก็ต้องควบคุมความเร็วและใช้เบรกกันอย่างแม่นยำ รวมถึงโอกาสแซงกันก็รัดตัวสุดๆและทำได้ยาก แสดงให้เห็นว่านอกจากเรื่องฝีมือการขับแล้ว ทีมที่จะชนะสนามนี้ได้ต้องมี Tactic กลยุทธ์การเข้า Pit การเปลี่ยนยางที่เหนือชั้น และทำให้คนดูเองก็สนุกและหลงรักสนามนี้เช่นกัน
รถ F1 ของทีม Mercedes ขับโดย Lewis Hamilton
การันตีความโหดจากสถิติที่ผ่านๆมา สิงคโปร์ถือเป็นสนามแข่งที่มี Safty Car โผล่ออกมา 100% เรียกง่ายๆว่ามีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างการแข่งทุกครั้ง ซึ่งในปี 2014 นี้ ก็มี Safty Car โผล่ออกมาให้เห็นในจังหวะที่ทำให้คนดูต้องลุ้นแทบอยู่ไม่ติดเก้าอี้ หลังจากที่อันดับทีม Mercedes ขึ้นนำโดดๆอันดับ 1 อยู่คนเดียว ทิ้งห่างตำแหน่งที่ 2 เป็นเวลานานตั้งแต่ช่วงกลางของการแข่ง จนเมื่อเกิดการเบียดกันระหว่างตำแหน่งอื่นๆในช่วงรอบที่ 40 Safety Car โผล่ออกมา เปลี่ยนให้ทุกอันดับกลับมาเท่ากัน จึงทำให้ 20 นาทีที่เหลือของ F1 Singapore 2014 ปีนี้ กลับมาเป็นการแข่ง F1 สุดคลาสสิคอันสูสีและเดาผลลัพธ์ไม่ถูกอีกครั้ง แต่สุดท้ายถึงแม้จะทำให้คนดูได้ลุ้นกันบ้าง ชัยชนะก็กลับมาตกเป็นของทีม Mercedes โดยผู้ที่เข้าอันดับ 1 คือนักขับจากเกาะอังกฤษ Lewis Hamilton ตามด้วย Sebastian Vettel (แชมป์เก่าติดต่อกันสามสมัยของสนามสิงคโปร์) ,Daniel Ricciardo สองนักขับของทีม Red Bull-Renault เป็นตำแหน่งที่ 2 3 บี้ตามมาติดๆ ถึงแม้จะได้อันดับ 1 แต่สำหรับทีม Mercedes เอง น่าเสียดายที่ในส่วนของ Nico Rosberg นักขับที่ทำเวลาได้ดี่ที่สุดในรอบ Qualify วันแรก อุตส่าห์ได้ยืนเป็นอันดับ 1 ในจุดสตาร์ท รถของเขาดันเกิดขัดข้องและถึงแม้จะวิ่งได้ไม่นานแต่สุดท้ายก็ต้องออกจากแข่งขันไปในที่สุด ส่งผลให้การเก็บแต้มของ F1 Grand Prix ที่สนามสิงคโปร์ เป็นจุดพลิกชะตาของทั้งทีม Mercedes อย่างใหญ่หลวง เพราะนอกจาก Hamilton จะได้คะแนนอันดับ 1 ไปท่วมท้น แต่ในทางกลับกัน Rosberg ก็ต้องกลับบ้านไปมือเปล่าจากสนามนี้
อันดับ 1 ของสนามสิงคโปร์ปีนี้ตกเป็นของ “Lewis Hamilton” จากทีม Mercedes ตามมาด้วยสองนับขับจากทีม Red Bull-Renault “Sebastian Vettel” “Daniel Ricciardo” ตามมาเป็นอันดับ 2,3
นอกจากการแข่งขัน F1 ที่เข้มข้นแล้ว แฟนๆกีฬายังได้พบกับคอนเสิร์ตของศิลปินชั้นนำที่ตบเท้ากันมาร่วมแสดงในงานมากมาย ในส่วนของเวทีใหญ่ วันแข่งรอบคัดเลือกได้นักร้องเสียงคุณภาพจากเกาะอังกฤษ Robbie Williams มามอบความสนุกให้กับทุกคน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ไม่ได้ทำให้ชายคนนี้เกรงกลัวแต่อย่างใด ขนเพลงดังจากในอดีตของเขามามากมาย รวมถึงเพลง Jazz Standard เก่าๆที่ช่วงหลังมานี้หนุ่ม Rob หันมาเอาดีทำเพลงยุคนี้ออกมาเป็นอัลบั้มใหม่ๆ ส่วนวันแข่งรอบ Final เราปิดท้ายกันด้วยการแสดงโชว์สุดอลังการของ Jenifer Lopez ที่เธอมาโชว์ลีลาการร้องจากเพลงดังนับไม่ถ้วน พร้อมเต้นสะบัดบั้นท้ายให้แฟนๆชมกันแบบเต็มอิ่มจุใจ นี่ยังไม่รวมถึงเวทีอื่นๆที่มีศิลปินดังอาทิเช่น John Legend, Pet Shop Boys และอีกมากมาย ที่ถึงตรงนี้คงไม่ต้องบอกแล้วว่า F1 Singapore เป็นงานใหญ่ที่ชาวสิงคโปร์ตั้งใจทำกันขนาดไหน
Robbie Williams แสดงท่ามกลางสายฝนในคืนวันแข่งรอบคัดเลือก
การแสดงอันน่าจดจำของ Jenifer Lopez ในคืนวันสุดท้ายของการแข่ง F1 Singapore Grand Prix
ส่วนในมุมของประเทศสิงคโปร์เอง จากการที่สนามสิงคโปร์ ถูกบรรจุไว้ในตารางการแข่ง F1 Grand Prix ของทุกๆปีตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ก็ช่วยทำให้เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศทั้งในด้านวัฒนธรรม และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับทัศนียภาพของบ้านเมืองอันทันสมัยของสิงคโปร์ยุคใหม่ นับจากตัวเลขในปีล่าสุดแล้ว ถือว่ามีการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึงกว่า100 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (เกือบ 2.6 พันล้านบาท)! ด้วยความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมของชาวเมืองรวมไปถึงรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วประเทศ ทำให้ตลอดการแข่งขันรถสูตร 1 นี้เป็นสิ่งที่ชาวสิงคโปร์ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ อย่างเช่นในช่วงสัปดาห์แข่ง F1 ที่ชาวสิงคโปร์เรียกว่า “Grand Prix Season Singapore (GPSS)” เมื่อวันที่ 12-21 กันยายน ที่ผ่านมา ทางการท่องเที่ยวสิงคโปร์ “YourSingapore” ได้จัดตารางกิจกรรมสุดพิเศษ ภายใต้หัวข้อ “One Stop Non Stop” ที่ชาวเมืองร่วมใจกันจัดกิจกรรมพิเศษในช่วงนี้โดยเฉพาะ จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างสามารถเข้าไปชมได้ที่ www.yoursingapore.com/gpss สำหรับคนที่พลาดปีนี้ก็ไม่ต้องเสียใจไป เตรียมศึกษาตารางเวลาและการจัดแข่งให้ดีแล้วจองตั๋วรอข้ามปีไว้เลยก็ได้ รับประกันว่าถ้าคุณมาเที่ยวสิงคโปร์ในช่วงแข่ง F1 Grand Prix จะต้องเป็นความทรงจำที่ติดอยู่กับคุณไปอีกนานแน่นอน
ขอขอบคุณ การท่องเที่ยวสิงคโปร์ “YourSingapore”
Website: http://www.yoursingapore.com
Facebook: https://www.facebook.com/YourSingaporeThailand
RECOMMENDED CONTENT
อาดิดาส ออริจินอลส์ ประกาศพันธมิตร ดึงตัวเจ้าพ่อเกมส์สตรีมเมอร์ระดับซุปเปอร์สตาร์อย่าง Ninja ! ผ่านการเปิดตัวด้วยคลิปวิดิโอ สร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้ติดตามนับล้านคนผ่านทางชาแนลของเขา