fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

“Top 10 Most Liveable Cities of 2014” รวม 10 อันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดประจำปี 2014
date : 11.ธันวาคม.2014 tag :

เวลาคุณนึกถึงเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ปกติคุณจะนึกถึงเมืองอะไร? ลอนดอน? ปารีส? โตเกียว? เอาเป็นว่าถ้าคุณได้รู้ถึงผลคัดเลือกของเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2014 ที่ทางนิตยสาร Economist ได้ประกาศออกมาแล้วล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกผิดคาดนิดหน่อย เพราะทั้งสามเมืองที่ว่ามา ไม่แม้แต่ติดอยู่ในสิบอันดับแรกด้วยซ้ำ ผลการคัดเลือกดังกล่าวได้อ้างอิงมาจากการศึกษาเมืองต่างๆทั่วโลกถึง  140 เมืองด้วยกัน ในประเด็นของคุณภาพชีวิตที่จัดทำโดยสำนักวิจัย “Economist Intelligence Unit” โดยพิจารณาจากองค์ประกอบต่างๆถึง 30 ปัจจัย ได้แก่ ความปลอดภัย  ระบบสาธารณสุข การศึกษา การเมือง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม อาชญากรรม การคมนาคม และบริการสาธารณะอื่นๆ ซึ่งนอกจากนี้ทางสำนักงานวิจัยดังกล่าวยังค้นพบอีกว่า ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ความน่าอยู่ของชีวิตแบบคนเมืองในประเทศต่างๆ ได้ลดน้อยถอยลงถึง 51 เมือง และเพิ่มขึ้น 31 เมือง แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า โดยรวมแล้วเมืองที่ปกติติดอยู่อันดับท็อปจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่เช่นกัน

สำหรับเมืองน่าอยู่ที่สุดปะจำปี 2014 อันดับ 1 ตกเป็นของเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรียได้อันดับ  2  ส่วนเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ที่เคยครองอันดับ 1 มา 5 ปีซ้อน ปีนี้ตกมาอยู่ที่อันดับ 3  สำหรับใครที่สนใจอยากอ่านผลการคัดเลือกดังกล่าวอย่างละเอียด สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.economist.com/blogs/graphicdetail/2014/08/daily-chart-13

อันดับ 1 เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย

null

 

อันดับ 2 เมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย

null

 

อันดับ 3 เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

null

 

อันดับ 4 เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา

null

 

อันดับ 5 เมืองคัลการี ประเทศแคนาดา

null

 

อันดับ 6 เมืองแอดิเลด ออสเตรเลีย

null

 

อันดับ 7 เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

null

 

อันดับ 8 เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์

null

 

อันดับ 9 เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย

null

 

อันดับ 10 เมืองโอคแลนด์ นิวซีแลนด์

null

Credit: Highsnobiety

RECOMMENDED CONTENT

27.พฤษภาคม.2019

“โรคร้ายไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว” เพราะโรคร้ายไม่ได้ทำร้ายแค่ผู้ป่วยเพียงคนเดียว แต่ยังมีคนในครอบครัวและคนอีกหลายคนที่ต้องเจ็บปวดและได้รับผลกระทบเช่นกัน การช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับการรักษานั้น เท่ากับเราได้ช่วยเหลือคนมากกว่าหนึ่งคน