เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้นำ “9 สุดยอด Collaboration ที่เขย่าวงการแฟชั่นปี 2014” มาฝากกันไปแล้ว (https://www.dooddot.com/best-collaboration-of-2014/) สัปดาห์นี้จึงเป็นทีของรองเท้าสนีกเกอร์กันบ้าง ซึ่งในปี 2014 ก็เป็นอีกหนึ่งปีที่วงการรองเท้าสนีกเกอร์นั้นเต็มไปด้วยความคึกคักของการ Collaboration หรือการจับมือกันระหว่างศิลปิน ดีไซเนอร์ และแบรนด์รองเท้าต่างๆ รวมถึงเทรนด์ของการนำรองเท้ารุ่นคลาสสิคหลายๆรุ่นมาปัดฝุ่นใหม่ เพิ่มความโมเดิร์นและลูกเล่นแปลกตา ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไปดูตลอดทั้งปีแล้ว เรียกได้ว่ามีร้องเท้าสนีกเกอร์รุ่นพิเศษต่างๆออกมาไม่เว้นแต่ละวัน จนเหล่า Sneakerhead ไม่เป็นอันได้พักหายเหนื่อยจากการตามคว้ารองเท้าแต่ละรุ่นเลย เพื่อเป็นการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ของวงการรองเท้าสนีกเกอร์ วันนี้เราจึงรวม “10 สุดยอดรองเท้าสนีกเกอร์ประจำปี 2014” มาให้ชาว Dooddot ได้ชมกัน จะมีรองเท้ารุ่นเด็ด รุ่นโดนของคุณอยู่ในลิสต์นี้หรือไม่ ไปดูพร้อมๆกันตอนนี้เลย

Y-3 Qasa ‘All Black’

นี่คือรองเท้าของดีไซเนอร์ชื่อดัง “Yohji Yamamoto” ที่ทำให้เรารู้สึกว่า การใส่รองเท้าสนีกเกอร์สีดำล้วน all black รูปทรงอย่างกับรองเท้านินจานั้นเป็นอะไรที่โคตรเท่ รองเท้ารุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ป๊อปปูล่าสุดๆตอนช่วงที่ออกวางจำหน่ายใหม่ๆเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่นาทีที่วางจำหน่าย เชื่อว่าเหตุผลหลักๆที่เหล่า Sneakerhead ต่างหลงไหลรองเท้ารุ่น “All Black” คู่นี้ ก็เพราะตัวดีไซน์ที่ดูเรียบเท่ แต่แฝงไว้ด้วยลูกเล่นและรายละเอียดเจ๋งๆ นั่นก็คือถ้าสังเกตดีๆรองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าที่รัดรูป และมีส่วนบนที่เหมือนถุงเท้า โดยมีสายรัดแบบ neoprene เพื่อความกระชับ อีกทั้งยังมีโลโก้ของแบรนด์ติดอยู่ที่หัวและส้นเท้า เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าสนีกเกอร์อีกหนึ่งรุ่นที่สามารถเพิ่มดีกรีความคูลให้กับผู้สวมใส่ได้อย่างร้ายกาจ

CNCPTS x New Balance 997 ‘Rose’

รองเท้ารุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษที่ทาง New Balance ร่วมทำกับร้านขายรองเท้าคอนเซ็ปต์สโตร์จากบอสตัน อเมริกา “CNCPTS” ซึ่งถือเป็นรองเท้ารุ่นแรกที่ร้านนี้ร่วมออกแบบกับแบรนด์ใดๆ โดยใช้ชื่อรุ่นว่า “Rosé”  ผลิตในอเมริกา ซึ่งมีสีโทนออกดอกกุหลาบแดงอมม่วงตรงกับชื่อรุ่น วัสดุที่ใช้เป็นหนังกลับอย่างดี อีกทั้งตัวลิ้นและส้นรองเท้ายังทำจากวัสดุพิมพ์ลายหนังจระเข้ คงจะไม่เว่อร์เกินไปนัก หากเราจะบอกว่านี่คือรองเท้า New Balance รุ่นหนึ่งที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

Riccardo Tisci x Nike Air Force 1

คงจะไม่มีใครเหมาะไปกว่า Riccardo Tisci คนนี้ ครีเอทีฟหัวเรือใหญ่แห่ง Givenchy ผู้เป็นเจ้าของรองเท้า Nike กว่า 400 คู่ ที่จะมาเป็นผู้ออกแบบรองเท้ารุ่นพิเศษให้กับแบรนด์ Nike คุณว่าไหม? ซึ่งแน่นอนว่าผลที่ออกมาก็คือคอลเล็คชั่นรองเท้าสุดเปรี้ยวและลักชัวรี่ ที่หนุ่มสาวสตรีทแวร์และไฮแฟชั่นเห็นแล้วเป็นต้องตาโต กับการแปลงโฉมรองเท้ารุ่นอมตะอย่าง Air Force 1 ให้มีกลิ่นอายความเป็นแฟชั่นยิ่งกว่าเดิม โดยยังคงเอกลักษณ์ของรองเท้ารุ่นดังกล่าว ด้วยการให้ตัวรองเท้ามีพื้นเป็นสีขาวทำจากหนังวัวระดับพรีเมียม แต่ได้แต่งเติมสีสันและลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์จากรันเวย์คอลเล็คชั่นรัน Spring/Summer 2014 ของ Givenchy เข้าไปให้ดูสดใสและเฉี่ยวยิ่งขึ้น เพื่อสื่อถึงความเป็นแฟชั่นแอกเซสเซอรี่ส์ของรองเท้า Nike โดยมีให้เลือกใส่ถึง 4 สไตล์ด้วยกัน ทั้งแบบ Low, Mid และ High ตามตัวโมเดลของรองเท้ารุ่น Air Force 1 และแบบ Knee-high boots ความสูงระดับเข่า เรียกได้ว่าเป็นคอลเล็คชั่นรองเท้าของ Nike ที่เปรี้ยว เฉี่ยว แรง และล้ำสมัยที่สุดคอลเล็คชั่นหนึ่งที่เหล่า Sneakerhead ทุกคนปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของ

Nike Air Yeezy II ‘Red October’

เมื่อช่วงต้นปี รองเท้ารุ่นนี้เป็นรองเท้าที่เหล่า Sneakerhead ทั่วโลกจับตามอง และเฝ้าคอยกันนานแสนนาน ว่าเมื่อไหร่รองเท้ารุ่น Nike Air Yeezy II ‘Red October’ จะออกวางจำหน่ายเสียที หลังจากมีข่าวช่วงปลายปีที่แล้วว่าจะมีวางจำหน่ายที่ช็อป Footlocker แต่สุดท้ายก็มีการยกเลิกไป จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์จู่ๆทาง Nike ก็ได้ปล่อยรองเท้ารุ่นดังกล่าวออกวางจำหน่ายแบบสายฟ้าแลบบนเว็บ Nike.com โดยที่ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า และภายใน 11 นาทีรองเท้าผ้าใบรุ่นนี้ก็ขายหมดเกลี้ยงภายในพริบตาในราคา $245 หรือประมาณ 8,000 บาท แต่ในภายหลัง เนื่องจากความต้องการของเหล่า Sneakerhead มีมากมายมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้ราคาของรองเท้ารุ่นนี้วิ่งขึ้นสูงลิ่วอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 USD หรือประมาณ 150,000 บาทเลยทีเดียว รองเท้ารุ่นนี้ถือเป็นรองเท้าสนีกเกอร์รุ่นที่ทุกคนเฝ้ารอคอยกันอย่างเหนี่ยวแน่น เพราะถือเป็นรองเท้ารุ่นสุดท้ายที่ Kanye West ได้ออกแบบให้กับ Nike ก่อนที่เขาจะย้ายข้ามไปอยู่กับทาง adidas อย่างเต็มตัว ส่วนความพิเศษในเรื่องของดีไซน์ก็ถือว่าหายห่วง เพราะไหนจะพื้นรองเท้าที่เป็นแบบ glow in the dark, วัสดุที่ทำจากหนังกลับ, หนังพิมพ์ลาย python, วัสดุที่ทำจาก Ballistic Mesh Nylon, เชือกรองเท้าที่มีปลายเชือกเป็นสีทอง และด้านหลังรองเท้าที่เป็นรูปทรงหนามนั่นอีก คือเอาเป็นว่าถ้าจะเรียกรองเท้ารุ่นนี้ว่าเปรี้ยวยังถือว่าน้อยไป

Converse Chuck Taylor 1970s Woven Textile Hi ‘Twilight’

แน่นอนว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์รองเท้าผ้าใบที่มีอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปีอย่าง Converse เพราะเป็นรองเท้าที่ใส่ได้ตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูกได้อย่างไม่มีวันตกยุค แถมยังเป็นรองเท้าเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ยิ่งเก่าเท่าไหร่ ก็ยิ่งดูสวยได้อย่างน่าประหลาด และสำหรับรองเท้า Converse รุ่น Woven Textile Hi ‘Twilight’ นี้ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่ธรรมดา เพราะตัวรองเท้าได้ทำจากเส้นด้ายหลากหลายสีมาถักทอเข้าด้วยกัน ทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีความสวย มีเอกลักษณ์ และเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของยุค 70’s อย่างแท้จริง ส่วนหัวรองเท้าและปลายของลิ้นรองเท้าทำจากหนังสีน้ำตาลอ่อน พื้นรองเท้าเป็นสีขาว เรียกว่าเป็นรองเท้าผ้าใบรุ่นที่โดดเด่นอันดับต้นๆประจำปีนี้เลย เพราะมีความเท่แบบไม่ซ้ำใครจริงๆ

adidas Consortium Stan Smith

ปีนี้ถือเป็นปีที่รองเท้ารุ่นสุดคลาสสิคอย่าง Stan Smith ของ adidas กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในแวดวงร้องเท้าสนีกเกอร์ ซึ่งทาง adidas  ถือว่าประสบความสำเร็จในการนำรองเท้ารุ่นนี้กลับมาปัดฝุ่นและมีชีวิตอีกครั้ง โดยในคอลเล็คชั่นของรองเท้ารุ่นดังกล่าว ได้ประกอบไปด้วยรองเท้าทั้งหมด 4 เวอร์ชั่นด้วยกัน ที่ทำออกมาในสไตล์แบบดั้งเดิม โดยยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของรองเท้ารุ่นนี้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งในเรื่องของดีไซน์และ colorway ที่มาในโทนสีขาว/เขียว แต่เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัว upper หรือตัวรองเท้า ด้วยการใช้วัสดุหนังที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่  cracked leather, textured ostrich, pebble phoenix  และ reptilian ซึ่งทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีความแปลกตา ดูสดใหม่ และมีความเป็นพรีเมียมขึ้นมาอีกหลายระดับเลยทีเดียว

END. x Saucony Shadow 5000 ‘Burger’

รองเท้าสีดูน่ากินนี้…เอ๊ย! ดูสวยนี้ เป็นผลผลิตจากการจับมือร่วมกันระหว่าง END. ร้านสตรีทแวร์ชื่อดังจากอังกฤษ และ Saucony แบรนด์รองเท้าวิ่งจากอเมริกา โดยมีคอนเซ็ปต์สนุกๆกวนๆคือเบอร์เกอร์ตามชื่อรุ่น ส่วนโทนสีที่ใช้ก็แน่นอนว่าต้องถอดเอามาจากเบอร์เกอร์ล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นสีส้มอมน้ำตาลของตัวขนมปัง สีเขียวของผักกาดแก้ว หรือสีแดงของบีทรูท แถมด้วยวัสดุที่นำมาใช้ล้วนแต่โดดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นตัว upper ที่ทำจากหนังนูบัค (Nubuck หรือหนังที่ทำจากแผ่นหนังวัวด้านนอก) และหนังกลับ ส้นรองเท้าที่ทำจากยางอย่างดี นอกจากนี้รองเท้ารุ่นดังกล่าวยังมีดีเทลสนุกๆแฝงไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นลิ้นรองเท้าที่มีภาพแฮมเบอร์เกอร์ติดอยู่ เชือกรองเท้าที่สามารถเปลี่ยนได้ ที่ถูกใส่ไว้ในซองเล็กๆรูปทรงเหมือนซองซอสบาร์บีคิว และซอสมาโย่ในกล่องรองเท้า อีกทั้งตัวกล่องรองเท้าก็ยังถูกออกแบบคัสตอมเมด มีลวดลายที่สื่อถึงอเมริกันไดเนอร์ ถือว่าเป็นรองเท้ารุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ที่คงคอนเซ็ปต์ของเบอร์เกอร์ทุกกระเบียดนิ้วจริงๆ

adidas Originals Tubular

รองเท้ารุ่นนี้ถือเป็นรองเท้าจาก adidas ที่หลังจากปล่อยออกมาได้ไม่นาน ก็สามารถสร้างกระแสให้กับวงการรองเท้าสนีกเกอร์ และบรรดาเหล่า Sneakerhead ทั่วโลกให้ต้องหันกลับมามองร้องเท้าแบรนด์ 3 แถบนี้ทันที ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้เป็นการรวมความลักชัวรี่แบบไฮแฟชั่นเข้ากับความเป็นสปอร์ตได้อย่างลงตัวมากๆ ด้วยโทนสีแดงเลือดหมูดูล้ำสมัย และรูปลักษณ์ที่แปลกตาแต่สวยงาม พร้อมกับการใช้วัสดุที่หลากหลายมาผสมกัน อีกทั้งตัว midsole ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้ารุ่น Y-3 Qasa ยิ่งทำให้รองเท้ารุ่นนี้ดูโดดเด่น รับรองว่าใส่กับชุดอะไร วันนั้นคุณจะดูล้ำเกินใครแน่นอน

Nike Dunk High Premium SB ‘Diamond’

48 ชั่วโมง นั่นคือระยะเวลาที่แฟนพันธุ์แท้รองเท้า Nike ยอมนอนรอต่อแถวเพื่อที่จะได้รองเท้ารุ่นนี้มาครองเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะคิดว่าพวกเขาเหล่านี้บ้าไปหรือเปล่า อะไรมันจะคลั่งไคล้กันได้ขนาดนั้นกับอีแค่รองเท้าสนีกเกอร์ แต่ในวงการสนีกเกอร์ นี่ถือเป็นรองเท้าที่พิเศษมากๆคู่หนึ่ง เพราะนอกจากจะใช้โมเดลรองเท้าสุดคลาสสิคอย่าง Nike Dunk High แล้ว รองเท้ารุ่นนี้ยังมีดีไซน์ที่เยี่ยมมากๆอีกด้วย กับตัว upper ที่ใช้สีเป๊ปเปอร์มิ้นท์ ขอบรองเท้าพิมพ์ลายจระเข้ และจบด้วยตัว ‘swoosh’ สีเงิน คือไม่รู้จะพูดหรืออธิบายยังไง นอกจากว่ารองเท้ารุ่นนี้มันดู “หล่อ” จริงๆสิให้ตาย

Odd Future x Vans Syndicate Old Skool Pro ‘S’

เป็นการจับมือที่จี๊ดได้ใจจริงๆ เมื่อทาง Vans Syndicate ได้ร่วมงานกับ “Odd Future” หรือ OFWGKTA กลุ่มศิลปินฮิปฮอปสุดจี๊ด สุดเพี้ยนจาก ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย นำทีมโดย Tyler, The Creator วงนี้ถือเป็นวงฮิปฮอปที่มีสมาชิกเยอะเสียเหลือเกิน ซึ่งแต่ละคนก็ช่างมีสีสันและความจี๊ดไปกันคนละแบบ และสำหรับการจับมือกับ Vans ในครั้งนี้ พวกเขาก็ใส่ความสนุกและสีสันมันส์ๆตามแบบฉบับของพวกเขาลงไปในคอลเล็คชั่นรองเท้ารุ่นดังกล่าว โดยจับเอารองเท้า Vans รุ่นสุดคลาสสิกอย่าง Old Skool Pro “S” มาปัดฝุ่นใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ, สีน้ำเงิน, สีแดง และสีคาราเมล ในส่วนของ Upper นั้นได้ใช้วัสดุหนังกลับระดับพรีเมี่ยม ตัดกับพื้นรองเท้าในแบบ Gum Rubber Sole  ที่มีให้เลือกทั้งสีน้ำตาลและสีชมพูบับเบิ้ลกัม นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยลายปักที่บริเวณส้นเท้าด้านหลังที่ปักว่า “Golf Wang” รวมทั้งมีลายกราฟฟิก และอาร์ตเวิร์ค “Golf Wang” อยู่บนลิ้นรองเท้า และพื้นรองด้านใน ถือเป็นรองเท้าอีกหนึ่งรุ่นที่ดูป๊อปและสดใสที่สุดจาก Vans ที่แฟนพันธ์แท้ทุกคนเห็นแล้วเป็นต้องร้องว้าว!

Writer: Thip S. Selley