คอหนังล้วนตื่นเต้นเสมอ เมื่อวงการทีวีมีการพัฒนามาตรฐานความละเอียดหน้าจอสูงขึ้น บ่อยครั้งที่เราอดถามตัวเองไม่ได้ว่า จะเอาทีวีที่ละเอียดมากมายขนาดนั้นไปทำไม แต่หลังจากมาตรฐานใหม่กำเนิดขึ้นความละเอียดระดับเก่าก็จะกลายเป็นของล้าสมัยไป และ โลกก็จะหมุนตามความละเอียดใหม่แทน เช่น วงการภาพยนต์ที่แผ่นบลูเรย์ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกวัน ทุกวัน ในขณะที่ยอดขาย CD DVD ซบเซาลงเรื่อย ๆ

4K หรือ Ultra High Definition(UHD) มาตรฐานจอทีวีใหม่มีความละเอียดมากถึง 3840 x 2160 พิกเซล หากเทียบกับความละเอียดแบบ FullHD ที่คุ้นเคย มาตรฐานนี้จะมีความละเอียดมากกว่าของเก่าถึง 4 เท่า ! นั่นหมายถึงเราสามารถมีจอทีวีขนาดใหญ่ระดับโรงภาพยบนต์ย่อมๆในบ้านเอาไว้เสพหนังเรื่องโปรดได้อย่างไม่มีรอยต่อเม็ดพิกเซลมาให้สากตาแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หนังเรื่องนั้นจะลาโรงไปแต่เมื่อไหร่ก็ตามที

ขนาดจอของทีวี 4K ในตอนนี้มีตั้งแต่ 40 นิ้ว ไล่ไปจนถึง 85 นิ้ว ถูกสร้างโดยบริษัทผลิตทีวีชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Samsung, LG, Sony ฯลฯ ความละเอียด 4K คือรถด่วนที่นำไปสู่ตลาดไฮเอนด์ใหม่ๆที่ไม่มีใครอยากตกรถ และในอนาคตราคาของทีวี 4K ก็น่าจะลดลงมาในระดับที่คนทั่วไปสามารถเอื้อมถึงได้ เหมือนเช่นสมัยที่จอ Full HD ออกมาใหม่ ๆ

ความต้องการของผู้บริโภคนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง การเสพศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์นิยมกันมาช้านาน ยิ่งในโลกอนาคตที่ศิลปะย้ายขึ้นไปอยู่บนหน้าจอมากขึ้น ความละเอียดของคอนเท้นท์และความละเอียดของหน้าจอจะกลายเป็นสิ่งที่เติบโตไปพร้อมๆกัน ความจุของ DVD จะไม่เพียงพอรองรับความละเอียดของคอนเท้นท์ใหม่ๆอีกต่อไปและค่ายภาพยนต์ก็จะออกแผ่นหนังความละเอียดสูงออกมาเรื่อยๆ รองรับปริมาณของผู้ชมที่มีทีวี 4k ในครอบครองที่เพิ่มขึ้น

ทำไมเราต้องการทีวีที่มีความละเอียดมากมายขนาดนั้น? เพราะความละเอียดหน้าจอคือคุณภาพที่จับต้องได้ด้วยสายตา เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจเสมอเมื่อพบเจอความคมชัดในระดับที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน ยิ่งละเอียดยิ่งคมชัดเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกถึงความสมจริงมากขึ้นเท่านั้น การได้ใช้เวลาละเมียดละไมไปกับหนังเรื่องโปรดที่ความคมชัดในระดับ 4k มันจึงแตกต่างกับการดูหนังเรื่องเดียวกันในระดับ Full HD อย่างเทียบกันไม่ติด เหมือนไวน์ที่ผลิตจากองุ่นชนิดเดียวกัน แต่คุณภาพการดูแลต่างกัน มันก็กลายเป็นไวน์คนละชั้นนั่นเลยทีเดียว

Writer: Shiraz