หลังจากเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ดู๊ดดอทของเราได้แนะนำให้รู้จักกับ คุณชิน “ชินวัฒน์ เต็มคำขวัญ” หนึ่งในนักดนตรีที่ได้รางวัลให้ไปชมการแสดงสดของ คุณเบิร์ด “เอกชัย เจียรกุล” แชมป์กีตาร์คลาสสิกระดับโลก กันถึง Carnegie Hall, New York กันแล้ว
มาวันนี้เรามีนักดนตรีอีกคน ที่ได้รับรางวัลในโครงการ SangSom presents คนไทย…ตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก Road to Carnegie Hall คือ คุณตา “กัญฐิตา โกมลพันธุ์” นักศึกษาชั้นปีที่ 5 คณะครุศาสตร์ เอกการสอนดนตรีสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอมาพร้อมกับเครื่องดนตรีที่เราไม่คุ้นเคยนัก อย่าง Marimba เราไปคุยกับเธอกันเลยดีกว่า ว่าทำไมเธอถึงเลือกเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้ และรู้สึกอย่างไรกับการเดินทางครั้งนี้
ทำไมถึงเลือก Marimba ทั้งๆ ที่มีเครื่องดนตรีมากมายให้คุณเลือกเล่น ?
ตอนแรกเลยคือเข้าวงโยธวาทิตของโรงเรียน ได้เล่นเครื่องเป่าแต่โดนย้ายมาเล่น Pit Percussion คือเป็นกลุ่มเครื่องตีข้างสนามในวงโยธวาทิต เพราะมีพื้นฐาน Keyboard มาก่อน ตอนนั้นก็เลยได้รู้จัก Marimba ได้ลองฝึกเล่น ตอนแรกรู้สึกยากมาก เครื่องนี้มันไม่ได้ตีแค่ 2 ไม้ธรรมดาเท่านั้น ยังมี 4 ไม้, 6 ไม้, 8 ไม้อีก! มันค่อนข้างยากมากเลยนะ ทั้งการจับไม้ การควบคุมมือ ใช้ข้อมือ มองคีย์ แล้วก็อ่านโน้ตไปด้วย เป็นอะไรที่ยากมากๆ ตอนนั้นซ้อมจนเจ็บมือ แทบร้องไห้
แต่หลังจากนั้นความคิดเริ่มเปลี่ยน จากความรู้สึกว่า Marimba เป็นเครื่องดนตรีชนิดนึง ก็กลายมาเป็นชอบ แล้วก็กลายเป็นรัก ก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้ศึกษาต่อทางด้านนี้ เพราะที่ตาเรียนอยู่มันไม่ใช่แค่ Marimba นะคะ มีหลายเครื่องเลยที่ตาชอบ แต่ที่ตาหลงรักมากที่สุดก็คือเครื่องนี้แหละ คิดว่าผลมาจากอาจารย์ตาด้วยค่ะ “อาจารย์สุจารีย์” เป็นอาจารย์ที่สอน Marimba ที่จุฬา ด้วยความที่ตาชอบอยู่แล้ว และได้มาฟังเสียง Marimba ที่อาจารย์ตี ตอนนั้นตาก็คิดว่านี่แหละคือสิ่งที่ต้องกาเล่นมากที่สุด ซึ่งไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ตาก็ดีใจที่ได้รู้จัก Marimba
เสน่ห์ของ Marimba คืออะไร ?
ถ้าพูดถึงเสน่ห์ ตาคิดว่าเป็นเรื่องของเสียง เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลองตี เสียงมันอบอุ่น เหมือนมีแรงดึงดูดให้เราตั้งใจฟัง ฟังแล้วสบายใจ คืออยากให้ทุกๆ คนได้ลองมาฟังเสียงจริงๆ แบบสดๆ ดูซักครั้ง ตาคิดว่าทุกคนจะหลงรักได้ไม่ยากเลยค่ะ
หลังจากที่รู้ว่ามีการแข่งขัน คุณเตรียมตัว หรือซ้อมหนักแค่ไหน ?
การฝึกซ้อมเหมือนมันอยู่คู่กับนักดนตรีอยู่แล้ว ตั้งแต่ตัดสินใจเล่นดนตรีแล้ว ตาก็ฝึกซ้อมมาโดยตลอดค่ะ บทเพลงที่ใช้เล่นในรอบแรก ถือเป็นความตั้งใจอย่างหนึ่งที่ได้เล่นเพลงของ Anders Koppel ซึ่งเป็น Concerto อ่ะคะ เค้าตั้งใจแต่งให้นัก Marimba เอาใว้ใช้ในการแข่งขันโดยเฉพาะ ซึ่งเพลงนี้ใช้เวลาในการฝึกซ้อมประมาณ 5 เดือนค่ะ ก่อนตัดสินที่จะสมัครแข่งขัน (ยิ้ม)
ส่วนเพลงที่ใช้ในรอบชิงชนะเลิศ ตาเลือกเพลง “Prism” ของ Keiko Abe นักประพันธ์ชาวญี่ปุ่น ด้วยความเป็นเอเชียเหมือนกัน เลยทำให้ตารู้สึกเข้าถึงได้ง่าย อีกอย่างตาอยากถ่ายทอดความรู้สึกสนุกๆ บนเวทีให้ทุกคนได้ลองฟังบ้างว่า Marimba สามารถสร้างได้หลายเสียง
รู้สึกอย่างไรกับการแข่งขันครั้งนี้ ?
ดีมากๆ เลยคะ เพราะตาอยากให้วงการดนตรีคลาสสิกมีคนรู้จักเยอะขึ้น และตาคิดว่าดนตรีของเราก็ไม่ได้เป็นสองรองใคร ก็อยากจะให้คนไทย และคนต่างชาติได้เห็นความสามารถของพวกเรา อีกอย่างตาคิดว่าการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลัง และรุ่นต่อไปอีกด้วยคะ
รู้สึกอย่างไรที่คุณจะได้ไปนั่งฟัง คุณเบิร์ด “เอกชัย เจียรกุล” แสดงสดที่ Carnegie Hall ?
ตารู้สึกว่า Carnegie Hall เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับนักดนตรีทุกคนคะ การเดินทางครั้งนี้ทำให้ตารู้สึกดีใจที่ได้เห็นคนไทยในเวทีโลก ได้ไปฟังพี่เบิร์ดเล่นสด มันไม่เหมือนเมืองไทยที่เราจะซื้อบัตรเข้าไปฟังกันได้ทุกที่ใช่ไหมค่ะ จริงๆ แล้วต้องขอบคุณ SangSom ที่ให้โอกาสตาได้ไปดูการแสดงในครั้งนี้ มันแสดงให้เห็นว่าคนไทยตั้งใจทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก จริงๆค่ะ
ในทางกลับกันถ้าคุณได้มีโอกาสเล่นใน Carnegie Hall เพลงที่คุณจะเล่นคือเพลงอะไร และคุณคิดว่าการแสดงของคุณบนเวทีจะแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร ?
อยากเล่น “Marimba Concerto and Orchestra” ประพันธ์โดย Anders Koppel เพลงที่ตาส่งแข่งรอบแรกค่ะ เพราะชอบเพลงนี้ มีความหมายกับตามากจริงๆ เป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกอยากเล่น ซึ่งตอนที่เข้าปี 1 จะมีให้หาเพลงที่ตัวเองจะเล่น เลยลองบอกอาจารย์ดู แต่ตอนนั้นสกิลเรายังไม่ถึงอาจารย์เลยให้เล่นเพลงอื่นเพื่อฝึกสกิลไปก่อน พอสกิลเราพัฒนาขึ้นค่อยเล่นเพลงที่เราต้องการได้ เพราะมันยากจริงๆ นะ (หัวเราะ) แต่เป็นเพลงที่เพราะ และสนุกมากๆ จริงๆ คะ
ส่วนเรื่องการแสดงของเราจะแตกต่างจากคนอื่นๆ มั้ยอันนี้ไม่รู้ แต่อย่างน้อยคนที่มาดูจะต้องมีความสุข และจดจำการเล่นของตาได้อย่างแน่นอนค่ะ(ยิ้ม)
ในความคิดของคุณ คิดว่าดนตรีมีความสำคัญต่อโลกมากแค่ไหน ?
ตาว่าสำคัญมากพอกับอากาศหายใจเลย ดนตรีมันอยู่กับคนเราในทุกๆ ช่วงของชีวิตจริงๆ นะ ทั้งเวลาสุข และเศร้า บางคนโกรธเครียดก็ฟังเพลงเพื่อผ่อนคลาย ดนตรีมันอยู่ในทุกๆ ที่คุณรู้มั้ย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน ที่ทำงาน ร้านกาแฟ โรงพยาบาล ทั้งมือถือ ข้างทาง ในรถ แม้แต่ในป่านกร้องยังเป็นเพลงได้เลย เสียงดนตรีมันคือธรรมชาติโน้ตดนตรีก็เหมือนภาษาสากล เพราะไม่ว่าใครจะเชื้อชาติอะไร อยู่ที่ไหน ฟังดนตรีก็จะรู้สึกดีไม่แตกต่างกัน ไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไงนะคะ แต่ถ้าโลกนี้ไม่มีดนตรี ตาคิดว่าก็เหมือนหายใจไม่ออก ขาดสีสันที่ยิ่งใหญ่ไป ความสุขคงลดลงไปเยอะมากจริงๆ
เป้าหมายสูงสุดของการเป็นนักดนตรีคืออะไร ?
ดนตรีเป็นภาษาสากล ทุกคนสามารถสัมผัสดนตรีได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ ความฝันสูงสุดคือการได้อยู่ในวงการดนตรี ได้เป็นนักดนตรีที่สร้างความสุขให้กับทุกคน ไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงเสมอไป ขอเป็นคนที่ทุกคนอยากมาฟังดนตรีที่เราเล่น ค่ะ
อยากฝากอะไรถึงคนที่กำลังติดตามการเดินทางของคุณในมหานครนิวยอร์ก ครั้งนี้!
อยากบอกเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ว่าทุกคนสามารถมีโอกาสดีๆ แบบนี้ได้ เพียงแค่เปิดใจ แล้วลองทุ่มเท มุ่งมั่นตั้งใจ! เพราะเชื่อว่าทุกคนล้วนมีความสามารถที่เจ๋งๆในตัวอยู่แล้ว อยู่ที่ความพร้อม โอกาส และความกล้าที่จะทำค่ะ อยากบอกว่าดีใจมากๆ ที่จะได้ไปสัมผัสกับประสบการณ์สุดยูนีคกับทางแสงโสมแบบ Money Can’t Buy ในครั้งนี้มาก และขอบคุณทุกๆ กำลังใจทั้งครอบครัว ญาติๆ ครูอาจารย์ เพื่อนๆพี่ๆ น้องๆ รวมไปถึงตอนนี้มีนักเรียนด้วย ขอบคุณกำลังใจที่มีให้ตาเสมอมานะคะ อย่างไรเมื่อกลับมาแล้วจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ให้เพื่อนๆพี่ๆทุกคนนะคะ
SangSom
Website: http://www.thesangsom.com/
Facebook: https://www.facebook.com/sangsomexperience
RECOMMENDED CONTENT
นิโคล่ แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกจากญี่ปุ่นประกาศเปิดตัวนิตยสาร LifeWear (ไลฟ์แวร์) เล่มที่ 2 ภายใต้หัวข้อ “Livable Cities” หรือ เมืองน่าอยู่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในเมือง พร้อมเน้นย้ำถึงปรัชญา LifeWear ของยูนิโคล่ นิตยสาร LifeWear เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเดือนสิงหาคม ปี 2562