สำหรับคอลัมน์ Chillax ในวันนี้ ดู๊ดดอทขอเอาใจคนรักอาหารทะเล ด้วยการพาไปชิมเมนู seafood ไซส์ XL สุดพิเศษจาก Another Hound Cafe สาขา The Emporium ร้านอาหารในเครือ Greyhound Cafe ที่มาพร้อมความแตกต่างภายใต้คอนเซ็ปต์ “Chic & Glam Italian-Asian Twist with Seafood & Champagne Bar” โดยจะเน้นไปที่เมนูอาหารสไตล์ลูกครึ่งไทย-อิตาเลียน ซึ่งจะแตกต่างจากเมนูอาหารสไตล์ไทยๆเอเชียนๆของร้าน Greyhound Cafe อย่างสิ้นเชิง จากคราวที่แล้วที่เราได้พาชาวดู๊ดดอทมาสัมผัสกับความอร่อยของอาหารทะเลอันเลิศรสของร้านนี้กันไปแล้ว (https://www.dooddot.com/another-hound-cafe-the-emporium-bts-phrom-phong-bangkok-dining-restaurant/) ต้องบอกว่าครั้งนั้นเมื่อเทียบกับครั้งล่าสุดที่เราเพิ่งได้ไปมา ถือว่ากลายเป็นแบบซอฟต์ๆไปเลย เพราะครั้งนี้ทาง Another Hound Cafe เขาจัดเต็มกับเมนู seafood ใหม่ของเขามากค่ะ กินกันจนอิ่มแปล้กันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นวันนี้เราขอเน้นในเรื่องของเมนูอาหารเป็นหลัก ว่าที่เขาบอกว่าไซส์ XL น่ะ จะยิ่งใหญ่อลังการขนาดไหน ว่าแล้วก็ตามไปดูพร้อมๆกันเลยดีกว่า

ก่อนที่เราจะพาไปชิมเมนูอาหาร เราขอสตาร์ทด้วยเครื่องดื่มใหม่ต้อนรับเทศกาลเฉลิมฉลองของ Another Hound Cafe กันก่อนเลย   ดื่มแล้วเย็นสดชื่นถึงใจ ละลายความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้งจริงๆ แถมแต่ละแก้วก็ตกแต่งได้อย่างสวยงาม น่ารักมากๆ สาวๆเห็นแล้วจะต้องอยากหยิบมือถือมาถ่ายรูปแชร์ลงใน IGกันเป็นแถวแน่ๆ กับแก้วแรก “Virgin Fresh Kiss” เฟรซคิส สดชื่นแบบเบาๆ โดดเด่นด้วยรสชาติของแตงโมและลิ้นจี่ เติมความเปรี้ยวอีกนิดด้วยน้ำมะนาว รสชาติออกหวานนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ ดื่มแล้วดับกระหายได้เป็นอย่างดี ส่วนแก้วที่สองที่เรามีโอกาสได้ชิมคือ “Lychee Delight” ลิ้นจี่ดีไลท์ รสชาติหอมหวานจากเนื้อและน้ำลิ้นจี่ เพิ่มความซ่าด้วยโซดา ตกแต่งด้วยสตรอเบอร์รี่ลูกโตและเนื้อลิ้นจี่ รสออกเปรี้ยวๆหวานๆ ดื่มแล้วชื่นใจไม่แพ้กัน

Virgin Fresh Kiss และ Lychee Delight

Fresh Oyster-Barron Point Premium Size Platter

Grilled Jumbo Canadian Lobster Set

คราวนี้ก็มาถึงเมนู Seafood ไซส์ XL กันเลย ซึ่งถือเป็นเมนูอาหารที่ทาง Another Hound Cafe ได้จัดเตรียมเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองช่วงท้ายปีโดยเฉพาะ มาพร้อมกับรสชาติเข้มข้น ถึงเครื่องสไตล์ Another Hound Cafe เริ่มกันที่ “Grilled Alaska King Crab Leg” (2,900 บาท) ขาปูยักษ์อลาสก้าย่าง เนื้อนี่หวาน สดแน่นเน้นๆ จะทานกับชอสเนยก็ได้ หรือจะทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซ่บแบบไทยๆก็ยิ่งเข้ากั๊น เข้ากัน ต่อด้วย “Grilled Jumbo Canadian Lobster Set” (900-1,000 กรัม/ตัว เซ็ทละ 2,900 บาท) กุ้งล็อบสตอร์ไซส์จัมโบ้ที่คัดมาเป็นพิเศษ ย่างสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมซอสมันกุ้งสูตรพิเศษที่มาราดบนล็อบสเตอร์กันสดๆบนโต๊ะ จะทานแบบที่ย่างอย่างเดียว หรือจะคลุกทานกับข้าวสวยร้อนๆก็อร่อยไม่แพ้กัน มีมะนาวซีกและกระเทียมแผ่นทอดช่วยเพิ่มรสด้วย พร้อมซุปใส หรือจะเป็น “Thai Style Canadian Lobster Spaghetti” (ไซส์ L ราคาอยู่ที่ 2,090 บาท ส่วนไซส์กลาง ราคา 1,290 บาท) สปาเก็ตตี้ผัดพริกเกลือกับแคนาเดียนล็อบสเตอร์ไซส์บิ๊กเบิ้มคับจาน เนื้อสดแน่นพร้อมก้ามชิ้นโต เป็นสปาเก็ตตี้ผัดแห้ง รสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ น่าจะถูกลิ้นคนไทยได้ไม่ยาก

Steamed Blue Mussel and Clam in White Wine Cream Sauce

Thai Style Canadian Lobster Spaghetti

นอกจากนี้ยังมี “Chargrilled Squid” (350 บาท) ปลาหมึกหอมย่างกับซอสมะนาวเหลือง ผสมน้ำมันมะกอก กระเทียม และถั่วลิสง คั่วกับมิริน เสิร์ฟพร้อมขนมปังโฮลวีทไว้ปาดเลมอนซอสกินแบบเพลินๆ “Steamed Blue Mussel and Clam in White Wine Cream Sauce” (390 บาท) หอยแมลงภู่สีน้ำเงิน และหอยตลับ ในซอสครีมไวน์ขาว เสิร์ฟพร้อมขนมปัง จานนี้เป็นอีกหนึ่งจานที่เราชอบมากๆ โดยเฉพาะเวลาบิขนมปังปาดซอสไวน์ขาว แล้วกินพร้อมกับหอย รสชาติออกเค็มๆมันๆ เข้ากันได้ดี จนเราติดใจกินไปหลายคำอยู่เหมือนกัน และสุดท้าย “Single/Double Decker Soft-Shell Crab Burger” (290 / 520 บาท) แฮมเบอร์เกอร์ปูนิ่มทอด ใส่อะโวคาโด และ วาซาบิมาโย สามารถเลือกได้ว่าปูนิ่มจะมาเดี่ยวหรือมาคู่แบบ double decker ทานแกล้มกับอาจาดกะหล่ำปลีฝอย ปูนิ่มที่ทอดนั้นสามารถตัดทานได้ทุกส่วน กัดเข้าไปแล้วจะกรุบกรอบให้ความรู้สึกฟินอย่างบอกไม่ถูก

Single/Double Decker Soft-Shell Crab Burger

Chargrilled Squid

Grilled Alaska King Crab Leg

และนั่นคือเมนูทั้ง 6 จาน สมกับไซส์ขนาด XL จริงๆ เพราะแต่ละจานที่นำมาเสิร์ฟนั้น มีขนาดใหญ่แบบจัดเต็มทั้งนั้น รู้ตัวอีกทีนี่กินกันจนพุงกางกันเลยทีเดียว แต่ละจานนั้นอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพ ไม่ว่าจะปูยักษ์อลาสก้า หรือกุ้งล็อบสเตอร์ไซส์จัมโบ้ ก็ต่างถูกนำเข้ามาจากอเมริกาแบบสดๆ เป็นๆ เพื่อเวลาทานจะได้สัมผัสถึงความสด และเนื้อที่กัดเข้าไปแต่ละคำมีแต่ความหวานอร่อย แนะนำว่าถ้าคุณคิดจะมาลองทานเมนู seafood ไซส์ XL นี้ ให้มากันอย่างน้อยสัก 4-6 คน จะพามากินกันทั้งครอบครัว หรือมากับแก๊งเพื่อนสุดซี้ก็ได้ เพื่อจะได้ช่วยกันกิน ช่วยกันแกะ ช่วยกันแทะ เพิ่มอรรถรส และบรรยากาศในการกินให้สนุก และเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะยิ่งขึ้น

เตรียมมาอิ่มอร่อยไปกับเมนู Seafood ไซส์ XL และอีกหลากหลายเมนูสุดพิเศษที่ Another Hound Cafe ได้ที่สาขา The Emporium และ Siam Paragon ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

ตั้งอยู่ที่: ชั้น 1 The Emporium

Tel: 02-664-8663
Website: http://www.anotherhoundcafe.com/
Facebook: https://www.facebook.com/AnotherHoundCafe

Writer: Thip S. Selley
Photographer: Kongkarn Sujirasinghakul