fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#TRAVEL — ตีตั๋วแล้วขึ้นรถไฟไปกันเลย! กับ 6 เส้นทางรถไฟที่สวยและโรแมนติกที่สุดในยุโรป
date : 15.มกราคม.2016 tag :

6-most-scenic-train-rides-in-europe-dooddot-COVER

สำหรับคนที่ท่องเที่ยวไปในยุโรปนั้น แน่นอนว่าการเดินทางด้วยรถไฟเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจเสมอในการเดินทาง  ซึ่งแม้จะใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยวิวสุดสวยสองข้างทาง และพื้นที่ในห้องโดยสารที่เราสามารถจะเดินเล่นไปไหนก็ได้ในขบวน จึงทำให้หลายๆ คนนิยมเดินทางด้วยวิธีนี้ วันนี้มาดูกันว่าเส้นทางรถไฟในยุโรปที่ไหนบ้างที่เรารับรองว่าเด็ด จนคุณวางกล้องไม่ลง

6-most-scenic-train-rides-in-europe-dooddot-01

[ 01 – The Bernina Express, Switzerland ]

หนึ่งในเส้นทางที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของธรรมชาติใน Switzerland โดยเริ่มต้นจากเมือง Chur หรือ St. Moritz ถึง Tirano ในระยะทาง 123 กิโลเมตร (ประมาณ 4 ชั่วโมง) ใครที่มีโอกาสขึ้นสายนี้จะได้เห็นวิวของภูเขา Swiss Alps ธารน้ำแข็ง รวมไปถึงทะเลสาบ และเมืองเล็กๆต่างๆ ซึ่งบางส่วนของเส้นทางนั้นยังได้ถูกยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

6-most-scenic-train-rides-in-europe-dooddot-02

[ 02 – The Glacier Express, Switzerland ]

อีกหนึ่งเส้นทางรถไฟใน Switzerland ที่สวยจนเราขอเพิ่มลงไปอีกในลิสต์ ทางรถไฟสายนี้เริ่มจากเมือง Zermatt ถึง St. Moritz โดยใช้เวลา 7 ชั่วโมง วิ่งผ่านถึง 91 อุโมงค์ และ 291 สะพาน โดยสองข้างทางนั้นจะทำให้คุณหยิบกล้องออกมาตลอดเวลากับวิวของทุ่งหญ้าสีเขียวและภูเขาสูง รวมไปถึงความน่าตื่นเต้นที่ได้ไปถึงความสูง 6,600 ฟุตจากระดับน้ำทะเลบนเส้นทาง Oberalp Pass ของ Swiss Alps อีกด้วย

6-most-scenic-train-rides-in-europe-dooddot-03

[ 03 – Arlbergline, Austria ]

เส้นทางรถไฟสุดโรแมนติกของ Austria จากเมือง Innsbruck ถึง Landeck และ Bludenz ซึ่งเป็นเส้นทางที่เรียกว่าเชื่อมเมืองระหว่างภูเขาฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน โดยมีมาตั้งแต่ปี 1884 ในส่วนของไฮไลท์ของขบวนนี้ คือการวิ่งข้ามสะพาน Trisanna ที่มีความสูงกว่า 286 ฟุต ปราสาท Weisberg อุโมงค์ Alberg ที่มีระยะทาง 6.4 ไมล์ และเมือง Tyrol ซึ่งนอกจาก Albergline จะเชื่อมต่อภายในประเทศแล้ว ยังเป็นสายเชื่อมต่อไปยัง Zurich ได้โดยเปลี่ยนขบวนได้ที่เมือง Innsbruck ซึ่งเส้นทางนี้จะได้ชมความงามของทะเลสาบ Zurich อีกด้วย

6-most-scenic-train-rides-in-europe-dooddot-04

[ 04 – Bergen Line with Flåm Railway, Norway ]

เส้นทางกว่า 371 กิโลเมตรที่สวยงามระหว่างเมือง Bergen และ Oslo ของ Norway สายนี้นั้น ถือว่าเป็นสายที่อยู่ในระดับความสูงที่สุดของยุโรปเหนือ โดยข้ามผ่านที่ราบ Hardangervidda ของ Norway ที่ความสูง 4,057 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล นอกจากนั้นแล้วในช่วงระหว่างเมือง Myrdal ถึง Flam จะมีไฮไลท์ของทางรถไฟที่ชันที่สุดในโลก รวมไปถึงวิวของธารน้ำแข็ง หรือ Fjord ที่ลึกและยาวที่สุดของยุโรปอย่าง Sognefjorden อีกด้วย ใครมา Norway ไม่ควรพลาด

6-most-scenic-train-rides-in-europe-dooddot-05

[ 05 – Rhine Valley Line, Germany ]

เส้นทางรถไฟสายโรแมนติกของ Germany ที่รายล้อมไปด้วยไร่ไวน์ของประเทศหรือ Rhine Valley เริ่มต้นจาก Koblenz ถึง Mainz ซึ่งนอกจากจะได้ชมความงามภูมิภาคหลักแล้ว ยังสามารถชื่นชมความงามของแม่น้ำ Rhine และ Moselle ที่มาบรรจบกันที่เมือง Koblenz  นอกจากนั้นยังสามารถเดินทางต่อไปยังเมืองใหญ่อย่าง Cologne ได้อีกด้วย ตลอดเส้นทางของสายนี้ยังมีเมืองน่ารักให้ได้แวะชมเช่น Bacharach, St. Goar และ Rüdesheim ถ้าใครมีโอกาสได้ขึ้นรถไฟเส้นทางนี้ แนะนำให้ลองเช็คข้อมูลของตั๋วของคุณดู เพราะสามารถเปลี่ยนมาขึ้นเรือเพื่อชมวิวสองข้างแม่น้ำได้ด้วย

6-most-scenic-train-rides-in-europe-dooddot-06

[ 06 – Madrid and Oviedo, Spain ]

ปิดท้ายด้วย Spain กับเส้นทางจากเมืองหลวง Madrid สู่ Oviedo เมืองหลวงของแคว้น Asturias ทางชายฝั่งตอนเหนือของประเทศ ตลอดเส้นทางของรถไฟสายนี้รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ ของสเปนสุดคลาสสิคตามแบบฉบับของยุโรปใต้ นอกจากนั้นในช่วงหนึ่งของเส้นทางยังวิ่งผ่านภูเขา Picos de Europa ภูเขาชื่อดังทางเหนือของสเปนที่กินพื้นที่ของประเทศไปกว่า 20 กม.

—————

นอกจากเส้นทางที่ยกมาข้างต้นแล้ว ยังมีเส้นทางอีกมากมายในยุโรปที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามหรือโรแมนติก ใครที่มีโอกาสมาเที่ยวยุโรปอย่าลืมเช็คโปรแกรม แล้วหาโอกาสเดินทางด้วยรถไฟดู รับรองว่าแม้จะถึงช้าหน่อย แต่รับรองว่าคุ้ม

สำหรับใครที่สนใจเดินทางด้วยรถไฟ เราขอแนะนำ www.eurail.com และ www.raileurope.com สำหรับ Pass ต่างๆ ในการเดินทาง ส่วนถ้าใครคิดว่าอยากเดินทางเป็นเที่ยว เราแนะนำว่าให้ลองเข้าไปเช็คในเว็บไซต์ของการรถไฟของประเทศนั้นๆ เพราะเราเคยเจอตั๋วเดินทางที่ถูกมากจนน่าตกใจมาแล้ว

RECOMMENDED CONTENT

24.พฤศจิกายน.2020

น่าจับตามองมากที่สุด สำหรับศิลปินคู่หูอินดี้ป๊อปอย่าง “Landokmai” (ลานดอกไม้) ประกอบด้วย “อูปิม - ลานดอกไม้ ศรีป่าซาง” (ร้องนำ) และ “แอนท์ - มนัสนันท์ กิ่งเกษม” (กีตาร์, คอรัส) สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ด้วยความชัดเจนโดดเด่นทางด้านดนตรีที่ผสมผสานความเป็น Dream-pop และความวินเทจแบบ Lo-fi ไว้ด้วยกันได้อย่างมีเสน่ห์