Back to home
หลังจากที่เราเข้าสู่เดือนมีนาคม และเหล่า designer ชื่อดังจากหลากหลายค่ายนั้นได้เริ่มปล่อยของสำหรับ collection spring/summer ปี 2016 กันมาบ้างแล้ว วันนี้เว็ป fashion retailer ชื่อดังอย่าง MR PORTER นั้นก็ได้ออกมาเกร็งว่าเทรนด์ไหนที่มาแน่ๆในปีนี้ โดยสรุปคือปีนี้สิ่งที่จะมานั้นคือการแต่งตัวแบบง่ายๆ เน้นไปที่ดีเทล แต่นั่นแหละการที่จะแต่งตัวดูง่ายๆ นั้นจะต้องอาศัยความคิดกันหน่อย เพราะบางคนอาจจะบอกว่ายากเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเรามาทำตัวสบายๆ ให้เหมาะกับเทรนด์ปีนี้กันดีกว่า
1. THE SOUVENIR JACKET | เสื้อแจ็คเก็ตพิมพ์ลายที่มาจากประเทศนั้นนี้
เสื้อแจ็คเก็ตลายๆ ที่มาจากประเทศนั้นนี้ หรือ SOUVENIR JACKET โดยเฉพาะเสื้อลายฝั่งเอเซียที่ออกมาให้เห็นกันแล้วไม่ว่าจะเป็น Valentino, Saint Laurent ที่ให้ความรู้สึกแบบ East Meet West ทั้งเรื่องของลวดลายไม่ว่าจะเป็นมังกร เสื้อ หรือดอกไม้ต่างๆ ที่เดินลายด้วยไหมหรือผ้าซาตินนั้นเรารับรองว่ามา และคุณสามารถใส่ได้กับลุคสบายๆ กับกางเกงยีนส์ slim fit แบบคลาสสิก คู่กับเสื้อยืดแบบ retro ก็ดูดีและเพียงพอแล้ว
2. THE BLOUSON JACKET | เสื้อแจ็คเก็ตลายทรงสั้น
THE BLOUSON JACKET นั่นก็เหมือนกับเสื้อคลุมสบายๆ ที่ช่วงตัวสั้น และด้านหน้าอาจจะเป็นซิป มาพร้อมลายผ้าที่สะดุดตา คุณอาจจะใส่กับกางเกงผ้าในชุดทำงานหรือกางเกงยีนส์ก็ยังได้ ถ้าอยากให้ดู Smart คุณสามารถลดทอนโดยการใส่เป็นสีเข้มหรือลายเข้มที่กลืนกับพื้นหลังของผ้า ต้องบอกว่า BLOUSON JACKET นั้นมีหลากหลายรูปแบบทั้งเนื้อผ้า แพทเทิร์น หรือจะเป็นลวดลายให้เลือกได้เยอะเลยหล่ะ
3. THE BOWLING SHIRT | เสื้อโบลิ่งกึ่งชุดนอน
มาด้วยลุคแบบ Loose and easy ที่เจ้า bowling shirt นั้นเหมือนตัวแทนของความสบายๆ ในยุค 50′ ที่ดูเหมือนกับเป็นชุดนอน โดยหลายๆ แบรนด์ก็ได้ทำออกมาให้เห็นกันบ้างแล้วไม่ว่าจะเป็น Marc by Marc Jacobs หรือ Dolce & Gabbana ที่คุณสามารถใส่ทับเสื้อยืดตัวโปรด แต่ห้ามใส่กันชุดสูทเด็ดขาดนะ
4. CREPE-SOLED SHOES | รองเท้าหนัง CREPE-SOLED
CREPE-SOLED SHOES คืออีกหนึ่งสิ่งที่มาจากยุค 50′ สำหรับแฟนๆ วิทเทจคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว โดยคุณสามารถใส่คู่กับอะไรก็ได้ แทบจะทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็น sports jacket กับกางเกงชิโนสีอ่อน ก็สร้างความเท่แบบ smart and casual ได้ไม่ยาก
5. SUMMER SUEDE | หนังกลับตัวบาง
เสื้อหนังกลับในหน้าร้อน? จริงๆ แล้วในสมัยนี้มีเสื้อที่ texture แบบหนังกลับที่ทั้งเบาและสบายไม่หนาอยู่มากมาย ซึ่ง Designer หลายๆ คนก็ได้นำกลับมาใช้ใน collection หน้าร้อน ไม่ว่าจะเป็น Loewe หรือ Gucci ที่คุณสามรถใส่ได้กับเสื้อลินินบาง หรือจะเป็นลุค Robert Redford ยุค 70′ ก็เท่อย่าบอกใคร
6. ESPADRILLES | รองเท้ารัดส้น
รองเท้ารัดส้นแบบ ESPADRILLES นั้นเป็นที่นิยมมาระยะหนึ่งแล้วตั้งแต่ผู้ที่ทำให้ดังไปทั่วโลกอย่าง TOMS หรือจะเป็นเหล่า Hi Fashion อย่าง Saint Laurent ที่ถูกนำมาใช้ในทุกๆ วันมากขึ้น เช่น การที่คุณสามารถใส่ชุดทำงานกับเจ้า ESPADRILLES ได้อย่างไม่ต้องเขิล และให้ความรู้สึกว่าเป็นหน้าร้อนมากๆ แต่ต้องระวังว่าร้องเท้า ESPADRILLES นั้นเป็นงานลำลองเท่านั้น และห้ามใส่ถุงเท้าเด็ดขาด
7. STRIPES AND CHECKS | ลายเส้นและลายตาราง
ลายขวางและลายตารางนั้นมีมานานแสนนานแล้ว แต่ช่วงหลังได้แบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นนั้นได้นำกลับมาทำใหม่ (จริงๆ ก็ทำมาตลอด) ไม่ว่าจะเป็นลายเส้น Sacai หรือ Haider Ackermann หรือตารางจาก Designer Brand อย่าง Raf Simons ที่คุณสามารถแมทช์ลายกราฟฟิกสองลายเข้าด้วยกันก็สนุกไม่น้อย
8. TECHNICAL RAINWEAR | เสื้อกันลม
ในเมืองที่ฝนตกบ่อยอย่างทางฝั่ง Britain นั้นอาจจะไม่มีโมเม้นท์แบบ spring มากนัก แต่เหล่า designer นั้นได้สร้างสรรค์เสื้อผ้าที่ไม่ทำให้คุณตัวเปียกกลางสายฝน แต่ยังดูดีและสามารถใส่ไปได้ทุกที่แบบง่ายๆ ที่คนบ้านเราก็สามารถนำมาใช้ใส่เป็นเสื้อกันลมได้ในทุกฤดู หรือใช้เพิ่ม layer ในการแต่งตัวก็ได้
9. EASTERN PRINTS | ลายพิมพ์ทางฝั่งตะวันออก
งานศิลปะทางวัฒนธรรมของฝั่งตะวันออกนั้นเป็นที่สนใจในเหล่า Designer อย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะ season นี้ที่หลายแบรนด์นำมาเป็น motif ของงานเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Alexander McQueen , Gucci ที่แค่คุณนำมาใส่กับเสื้อ plain แบบสบายๆ ก็ดูดีแล้วหล่ะ
กางเกงปลายเล็ก นั้นแน่นอนว่ามา จากช่วงที่ผ่านมาที่ถูกเริ่มโดย jogger ที่ได้แรงบันดาลใจมากจาก sport style แต่ DRAWSTRING TROUSERS นั้นช่วยให้คุณดูดีและเรียบร้อยมากขึ้น เพียงแค่หารองเท้าสวยๆ มาคู่กับเสื้อ Oxford shirt กับ เสื้อ blazer ก็สามารถจบวันได้ในทุกโอกาส แต่ที่สำคัญคือคุณต้องดู pattern ที่เหมาะกับช่วงขาคุณเท่านั้นเอง
Source : mr porter
RECOMMENDED CONTENT
“Epic Worlds” โปรเจ็กต์ภาพยนตร์สั้นสุดพิเศษซึ่งถ่ายทำด้วย Galaxy S23 Ultra สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของการสร้างคอนเทนต์โดยใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งการถ่ายทำผ่านขั้นตอนการระดมทุนจากมวลชนก่อนจะนำมาตัดต่อเข้าด้วยกันและเผยแพร่สู่สาธารณะ โดย “Epic Worlds” เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของการทำงานร่วมกัน
