วันนี้เราได้รับเกียรติจาก NIKE THAILAND ที่จะมาเปิดตัวรองเท้าสุดพิเศษรุ่นหนึ่งที่เราได้รับแจ้งว่า DOODDOT เป็นสื่อที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก NIKE THAILAND และนี่คือการเปิดตัวโมเดลพิเศษที่มีชื่อว่า AIR MAX LD ZERO H ผลงานระหว่าง NIKE และ Hiroshi Fujiwara (ฮิโรชิ ฟูจิวาระ) ที่สายแข็งของเหล่า Street Culture นั้นต้องรู้จักเป็นอย่างดี แต่ขอท้าวความกันหน่อยว่า Hiroshi Fujiwara คือผู้ก่อตั้งแบรนด์ Fragment Design เป็นหนึ่งในผู้นำการสร้างสรรค์แฟชั่นแนว Street Culture ของโลก โดยเจ้าพ่องาน design ชาวญี่ปุ่นผู้นี้ได้โด่งดัง จากการเติบโตที่ประเทศอเมริกา และเมื่ออายุ 18 ปีเขาได้นำวัฒนธรรมดนตรี Hip Hop กลับมาที่ Tokyo ในเวลาต่อมาเขาได้โด่งดังไปทั่วโลกในเวลาอันสั้น Hiroshi Fujiwara ได้ส่งผ่านแรงบันดาลใจสู่นักคิดและนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ๆ โดยการผสมสานสไตล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ตกับแฟชั่น หรือ งานออกแบบและดนตรี รวมเข้าไว้ด้วยกัน เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากมายของไนกี้ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ทั้งรองเท้าในกลุ่ม HTM รองเท้าไนกี้ แอร์ เทรนเนอร์ 1 เอส และรองเท้าไนกี้โรชี่ แอลดี-1000 ที่มีดีไซน์ที่สวยงามและร่วมสมัย และยังถูกขนานนามว่า เป็น Godfather of Harajuku Fashion และ Influential Streetwear Designer
ในช่วงเวลานั้น ก่อนที่ในปี 1987 เขาจะได้มีโอกาสร่วมงานกับนิตยสารชื่อดังและทุ่มเทที่ความพยายามในการนำเสนอวัฒนธรรมต่างๆ ผ่านแบรนด์เสื้อผ้าของตนเองที่ชื่อ Goodenough และเปรียบเสมือนแก่นของสตรีทแวร์ระดับโลกอย่าง Ura-Harajuku
ความผูกพันกับรองเท้าไนกี้รุ่น “คอร์ท ฟอร์ซ” ที่เขาใส่เล่นสเก็ตบอร์ดในวัยเด็ก นำไปสู่การร่วมงานกับไนกี้อย่างเป็นทางการในปี 2000 โดยได้รับโอกาสให้เป็นที่ปรึกษาในการสร้างสรรค์รองเท้าหลากหลายรุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการสร้างสรรค์สีใหม่ๆ ให้กับรองเท้ารุ่น “แอร์-วูฟเว่น” โครงการแรกที่ฮิโรชิร่วมทำกับไนกี้อย่างเป็นทางการคือ การสร้างสรรค์รองเท้า “ไนกี้ ซูม ซีสมิก” “ไนกี้แอร์แม็กซ์ 120” และ “ไนกี้แอร์ แทร์รา ฮูมารา” ภายใต้คอลเล็กชั่นพิเศษ คอนเซ็ปต์เจแปน (CO.JP) ที่วางจำหน่ายในปี 2001 และถือเป็นคอลเล็กชั่นที่ยังคงเป็นที่นิยมแม้จะผ่านมา 14 ปีแล้วก็ตาม
นี่คือการเปิดตัวรองเท้ารุ่นนี้ที่แรกของ SEA. กับรุ่น NIKE AIR MAX LD ZERO H ภายใต้โปรเจกต์ HTM ที่เราต้องขอบคุณ NIKE THAILAND ที่ให้เกียรติเราอย่างมาก โดยการที่จำลองห้องทำงานของ Hiroshi Fujiwara มาเป็นสถานที่พูดคุยกัน โดย NIKE AIR MAX LD ZERO H นั้นเกิดมาจากการรวมความเจ๋งของ Upper จากรุ่น NIKE Boston (ที่ตอนหลังถูกพัฒนามาเป็น NIKE LD-1000) และ Midsole จากรุ่น NIKE AIR MAX 2014 ที่ทำให้เกิดเป็นรุ่นนี้ขึ้นมา โดยรองเท้าสองคู่นี้ต่างกันมาก NIKE Boston เป็นรองเท้าวิ่งยุคเก่า และ NIKE AIR MAX 2014 ที่เป็นสาย Performance ยุคใหม่ จากปี 2014 และนี่คือการเจอกันระหว่างรุ่นเก่าและใหม่นั่นเอง
เริ่มกันเลยจากส่วนของ Upper ที่ประกอบด้วยวัสดุไนลอน และหนังกลับวางบริเวณส้นเท้ารวมถึงแนวเชือกรองเท้า ที่ทำให้เจ้า AIR MAX LD ZERO H นั้นดูเท่มากๆ บริเวณลิ้นรองเท้าและหลังส้นเท้านั้นปักสัญลักษณ์ลาย AIR MAX รวมถึงเทคโนโลยี flywire บริเวณแนวเชือกรองเท้าถึงด้านข้างของรองเท้า ตัว midsole ป็นพื้น Max Air เต็มผืนตัวเดียวกับ AIR MAX 2014 โดยส่วนของ Outsole ถูกออกแบบให้เป็นลายวาฟเฟิล นี่คือเรื่องเล่าจากอดีตสู่ปัจจุบัน ที่จะทำให้รองเท้าตระกูล AIR MAX นั้นสามารถก้าวไปอีกขั้น และฉีกกฎที่เคยมี แสดงให้เห็นพรสวรรค์ของ Hiroshi Fujiwara ในงานออกแบบที่ไม่มีขีดจำกัด ที่เขามอบให้กับ NIKE นั่นเอง โดยรุ่นนี้นั้นทำมาเพื่อเฉลิมฉลอง midsole
สำหรับรองเท้ารุ่นนี้ เราเชื่อว่าจะสร้างรูปแบบรองเท้าใหม่ๆของวงการ โดยเฉพาะ NIKE AIR MAX ที่ทาง DOODDOT นั้นชวนให้ทุกคนไปร่วมสัมผัสกับรุ่นพิเศษ AIR MAX LD ZERO H
RECOMMENDED CONTENT
หลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับบ้านหลังใหม่กับค่ายเพลง “High Cloud Entertainment” ไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาไปไม่ทันไร งานนี้จึงได้ฤกษ์ปล่อยผลงานเพลงในฐานะศิลปินเดี่ยวเต็มตัวในชื่อ “PEARWAH” หรือ “แพรวา - ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์” กับเพลงที่มีชื่อว่า “จีบป่ะ”