จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีศิลปินรวมตัวกันอยู่มากมายหลายแขนง ‘สิงห์ปาร์ค เชียงราย’ จึงเล็งเห็นความสามารถอันน่าทึ่งของศิลปิน จึงต้องการมอบความสุขให้กับชุมชนรอบข้างรวมถึงผู้คนที่มาเที่ยวพักผ่อน เปิดโอกาสให้ศิลปินได้แสดงผลงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง โดยในทุกปีจะทำการคัดเลือกศิลปินที่มีความสามารถ ผลักงานศิลปะไทยให้ไปสู่การยอมรับของโลก

‘บรรเจิด เหล็กคง’ เกิดและเติบโตที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เห็นศิลปะอันวิจิตรของวัดวาอารามและปราสาทหินพิมายมาตั้งแต่เด็กจนซึมซับกลิ่นอายของศิลปะเหล่านี้ทีละเล็กทีละน้อย และเขายังคลุกคลีอยู่กับบรรดาชิ้นส่วนเหล็กในอู่ซ่อมรถของพ่อมาตลอด นำมาทำเป็นของใช้เองบ้าง นำมาต่อเป็นโมเดลหุ่นยนต์บ้าง รวมถึงได้ศึกษาต่อในคณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา สิ่งเหล่านี้จึงหล่อหลอมแนวทางในการทำงานศิลปะของเขา

ความหลงรักในงานศิลปะปลุกเร้าให้คุณบรรเจิดทำตามสิ่งที่คิดมาตลอดหลายปีด้วยการลงมือสร้างงานประติมากรรมจากเหล็กอย่างจริงจัง โดยใช้นามสกุล ‘เหล็กคง’ ของตัวเองเป็นชื่อที่บ่งบอกถึงตัวตนได้ดีที่สุด

ถึงแม้จะฝ่าฟันอุปสรรคและความท้อแท้จากการถูกปฏิเสธมามากมาย แต่บรรเจิดก็ยังไม่ละทิ้งความพยายามที่จะสร้างผลงานด้วยความศรัทธาต่อไป จนในที่สุดผลงานในชุด ‘หนุมาน’ (Hanuman) ‘รามเกียรติ์’ (Ramakien/ Ramayana) รวมถึงชิ้นงาน ‘สิงห์’ (Singha) ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความวิจิตรงดงามของศิลปะและวรรณคดีไทย ถ่ายทอดผ่านโครงเหล็กที่ดูพลิ้วไหว และแข็งแกร่งก็ไปสะดุดความสนใจของแกลเลอรี่ระดับโลกอย่าง ‘อโกร่า แกลเลอรี่’ นิวยอร์ก (Agora Gallery) ซึ่งเป็นแกลเลอรี่ที่จัดแสดงงานศิลปะของศิลปินดัง และติดอันดับ 1 ใน 5 แกลเลอรี่ของนิวยอร์ก จนได้รับเชิญให้ไปจัดแสดงผลงานเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต ‘Banjerd Lekkong a Solo Exhibition – Metamorphosis’ ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม – 9 มิถุนายน 2559 ณ อโกร่า แกลเลอรี่ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ก่อนผลงานชุดนี้บินลัดฟ้าสู่มหานครนิวยอร์ก สิงห์ปาร์ค เชียงราย ได้จัดงานแสดงผลงานของคุณบรรเจิด เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสได้เข้าชม และได้ร่วมภาคภูมิใจกับศิลปินไทย ณ ไลฟ์สไตล์ฮออล์ ชั้น 2 สยามพารากอน ในระหว่างวันที่ 11-12 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา

หนุมานสู้รบกับวิรุณจำปัง

“เริ่มมากจาการได้ไปดูการแสดงโขนเรื่องศึกวิรุณจำปัง ณ โรงละครแห่งชาติ ซึ่งมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีร่วมทรงดนตรีอยู่ด้วย จึงเกิดความประทับใจและอยากบันทึกลงมาเป็นชิ้นงาน 2 ตัวละครเอกในเรื่องนี้”

หนุมานหาวเป็นดาวเดือน

“เอกลักษณ์ที่หาวเป็นดาวเดือนของหนุมานถูกนำมาเล่าผ่านงานประติมากรรมที่แตกต่าง”

หนุมานไทยหยอกเย้าหนุมานบาหลี

“ความแตกต่างในรูปแบบวัฒนธรรมของ 2 ลิง แต่มีที่มาจากเรื่องรามเกียรติ์เหมือนกัน แสดงให้เห็นว่าแม้จะต่างที่มา ต่างความเชื่อ ต่างชาติ ต่างภาษา แต่สามารถหลอมรวมและผสานกันจนเกิดงานศิลปะชิ้นหนึ่งได้”

เศียรพระพิฆเนตร

“เกิดจากการอยากสร้างเศียรครูบาอาจารย์อย่างมีเอกลักษณ์ในแบบของตนเอง จนได้งานที่ดูอ่อนช้อย แต่มีมนต์ขลัง”

ทศกัณฐ์นั่งเจรจา

“แรงบันดาลใจจากการได้ไปเห็นจิตรกรรมฝาหนังที่วัดพระแก้ว และบังเอิญสะดุดตากับอิริยาบถท่านั่งของทศกัณฐ์ จึงเกิดเป็นผลงานชิ้นนี้”

11 พญาวานรต่อกายเป็นช้างสามเศียร

“ยุคที่บ้านเมืองเริ่มมีความแตกต่างทางความคิด เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวกจนกลายเป็นกลียุค แต่เรายังมีความหวังว่าจะมีผู้เข้มแข็งดั่งวานรที่จะรวมตัวกันสร้างความยิ่งใหญ่ เปรียบดังช้างสามเศียรที่จะพาประเทศชาติไปในทิศทางที่ถูกต้อง”

ต่างกาล ต่างวาระ

“ไม่มีใครเก่งเสมอไป ขึ้นอยู่กับความสามารถของพรสวรรค์ที่มีอยู่ ใช้การเปรียบเทียบเหมือนนกอินทรีย์โฉบขย้ำพระอาทิตย์ คู่กับนกโฉบขย้ำพระจันทร์ ความเป็นเจ้าเวหาที่ต่างกาลเวลา”

มวยไทยหญิง

“มวยไทยหญิงเป็นชื่อยุทธวิธีการจู่โจม มีชื่อว่าหนุมานเหยียบกรุงลงกา โดยแต่งกายแบบผู้หญิงสมัยโบราณ เน้นทรวดทรงสรีระของความเป็นผู้หญิง”

พระรามแผลงศร

“หนึ่งในตัวละครจากวรรณคดี ‘รามเกียรติ์’ ซึ่งเป็นตัวเอกของฝ่ายธรรมะ และเป็นชิ้นงานในยุคแรกของบรรเจิด เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการสร้างผลงาน”

องค์พระพิฆเนศ 16 กร

“ด้วยความนับถือในองค์พระพิฆเนศ จึงเริ่มสร้างงานชิ้นนี้ขึ้นมา และต้องการให้มีลักษณะเฉพาะตัวของชิ้นงาน จึงสร้างให้องค์พระพิฆเนศมี 16 กร พร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งสื่อถึงชัยชนะ”

ปู่ฤาษีนารอท

“ปู่ฤาษีนารอท หรือที่เรียกว่า ‘พ่อแก่’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือ จึงต้องการถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นงานที่อ่อนช้อยแบบครบอารมณ์”

ฟูมฟักให้ชีวิต

“ผลงานที่ทำงานขึ้นมาเพื่อช่วยครอบครัวของเพื่อนที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งให้มีกำลังใจสู้กับโรคร้าย โดยสื่อเป็นนกฮูกพ่อแม่ลูกช่วยการฟูมฟักจนฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน”

การได้แสดงผลงานในนิวยอร์กครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจของทั้งตัวศิลปินอย่างคุณบรรเจิด เอง รวมถึงเป็นการปูทางให้กับศิลปินไทยคนอื่นๆ ที่กำลังต่อสู้ในเส้นทางของตัวเองให้ลุกขึ้นมา สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ต่อไป ซึ่งต้องชื่นชมแนวคิดของสิงค์ ปาร์ค เชียงราย ที่ยังคงช่วยผลักดันให้คนไทยมีเวทีในการแสดงความสามารถอย่างต่อเนื่อง ให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ว่าคนไทยก็เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน

จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 13 ปีนับจากครั้งที่สร้างผลงาน ‘องค์พระพิฆเนศ’ ชิ้นแรกในวันนั้น คุณบรรเจิดยอมรับว่าเขาไม่เคยนึกว่าตัวเองจะมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ “ผมทำต่อไปโดยไม่รู้ว่าเป้าหมายอยู่ตรงไหน รู้แต่ว่าผมไม่เคยหยุดเดินเลยแม้แต่นาทีเดียวครับ” คุณบรรเจิดกล่าวปิดท้ายด้วยแววตามุ่งมั่น

สนใจผลงานและข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่
Website: www.lekkong.com
Facebook: Bj Lekkong Lkk