fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Entrepreneur : ธุรกิจสุดแนว 4 ร้านตัดผมยกระดับความหล่อของคนเมือง
date : 27.เมษายน.2016 tag :

4 barber shop bangkok dooddot cover 1

ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ผู้ชายสมัยนี้ห่วงหล่อไม่แพ้กันเลย กว่าจะออกจากบ้านแต่ละวันเสียเวลาเซ็ตผมกันหลายนาที ทรงผมเรียกได้ว่าเป็นสิ่งเติมเต็มความมั่นใจให้กับผู้ชาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเริ่มมองเห็นร้านตัดผมผู้ชายมากขึ้น และไม่ใช่ร้านตัดผมดาษเดื่อนธรรมดานะ ร้านตัดผมผู้ชายแต่ละร้านมีสไตล์เฉพาะตัว แค่เดินผ่านหน้าร้านก็เหมือนถูกแม่เหล็กดึงดูดให้เข้าไปใช้บริการ ส่วนร้านตัดผมชายที่เราเลือกมาเล่าให้ฟังกันวันนี้จะมีร้านไหนบ้าน ตามมาอ่านกัน

4 barber shop bangkok Dooddot 1

4 barber shop bangkok dooddot 2

4 barber shop bangkok dooddot 3

1. Never Say Cut

เรายกให้ร้านตัดผมร้านนี้เป็นผู้บุกเบิกร้านตัดผมชายเลย Never Say Cut เป็นร้านตัดผมร้านแรกๆ ที่รับตัดเฉพาะผู้ชาย แถมทรงเอกลัษณ์ที่ผู้คนไว้วางใจในฝีมือคือทรงสกินเฮดหรือการกันผมที่คบกริบ เนี๊ยบละเอียด ถ้าเข้าไปในร้านนี้จะได้กลิ่นอายความเป็นกันเองแบบพวกพ้องของชาว HipHop ไม่ต้องแปลกใจไปเพราะเจ้าของร้านตัดผมไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพี่เวย์ ไทเทเนียม วง HipHop  อันดับหนึ่งของเมืองไทย ตอนนี้ Never Say Cut ขยายหลายสาขาตามจุดสำคัญของกรุงเทพ ด้วยราคามาตรฐานเริ่มต้น 350 บาท ทำให้หนุ่มแฟชั่นไว้วางใจและสมัครเป็นลูกค้าประจำ

Facebook: https://www.facebook.com/Neversaycutz

4 barber shop bangkok dooddot 4

4 barber shop bangkok dooddot 5

4 barber shop bangkok dooddot 6

2. Three Brother

ผมเรียนไม่เก่ง แต่ตัดผมเก่งมาก อาจารย์ไว้วางใจจนมอบหน้าที่คนแก้ทรงผมของโรงเรียนให้เรื่องราวไม่ธรรมดาของหนึ่งในเจ้าของร้านตัดผมแห่งนี้ทำให้เราเชื่อว่าการตัดผมเป็นพรสรรค์และความชอบที่ฝังอยู่ในใจเขาตั้งแต่เด็ก และการเริ่มเปิดธุรกิจด้วยความชอบ ไม่ใช่หวังเพียงผลกำไร ร้านตัดผมแห่งนี้เน้นความละเอียด งานต้องเนี๊ยบเท่านั้นถึงจะปล่อยลูกค้าให้เดินออกจากร้าน ลูกค้าที่ตัดผมกับ Three Brother จึงต่อเผื่อเวลาซักนิด มีเวลาให้ช่างค่อยๆเล็มและแต่งผม หากใครรีบร้อนร้านนี้อาจไม่เหมาะนัก นอกจากเรื่องเล่าของเจ้าของร้านแล้วแนวคิดการบริหารก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ร้านนี้จะให้ช่างแต่ละคนตัดผมแค่ 7 คนต่อหัว ต่อวันแค่นั้น พอครบ 7 หัวก็ถึงเวลาพักผ่อน เพราะช่างเองถ้ายืนนานเกินไปจะเสียสุขภาพ เรียกว่าดูแลดีทั้งลูกค้าและช่าง นับถือในอุดมการณ์ของเจ้าของร้านจริงๆ

Facebook: https://www.facebook.com/ThreeBrothersBarberShop/

4 barber shop bangkok dooddot 7

4 barber shop bangkok dooddot 8

3. Silver Cut

300 บาทราคาเดียวก็หล่อได้ ร้านคิดคิดแบบเหมาจ่าย ราคาเดียวเลือกทรงได้ไม่จำกัด แต่ถ้าถามความถนัดเฉพาะของร้านนี้ เดาคำตอบได้ไม่ว่าเลยว่าต้องเป็นสไตล์วินเทจอย่างแน่นอน ด้วยโลเคชั่นที่ซ่อนตัวอยู่ในตลาดรถไฟตลาดวินเทจของคนเมือง แถมการตกแต่งร้าน การแต่งตัวและทรงผมของช่างตัดผมล้วนกลมกลืนเป็นสไตล์วินเทจทั้งหมดจึงดึงให้ลูกค้าชาววินเทจเข้ามาฝากเนื้อฝากตัวและฝากหัวทางร้านเนรมิตทรงหล่อเนี๊ยบที่ไม่ว่าจะเซ็ทเปียกหรือเซ็ทแห้งก็ดูเข้าทรงไปเสียหมด

Facebook: https://www.facebook.com/thesilvercutbarbershop

4 barber shop bangkok dooddot 9

4 barber shop bangkok dooddot 10

4. 9limit

ร้านนี้เป็นจุดรวมตัวศิลปิน ช่างทุกคนของร้านมีแนวคิดเดียวกันว่า การตัดผมเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งเพราะต้องสร้างสรรค์ให้เกิดความงามที่สอดรับกับใบหน้าของแต่ละคน และด้วยอารมณ์ศิลปิน การตัดผมต่อหัวใช้เวลานานร้านนี้จึงเปิดรับลูกค้าแค่ 9 คนต่อวันเท่านั้นและนี่เองเป็นที่มาของชื่อร้าน ใครที่ชอบทรงผมที่แปลกและแตกต่าง ร้านนี้เป็นร้านที่ตามหาแน่นอน

Facebook: https://www.facebook.com/9limit-cut-788626254520645/

โดยเฉลี่ยคุณผู้ชายจะตัดผมกันเดือนละครั้ง พอผมเริ่มยาวไม่เข้าทรงก็เดินเข้าร้านตัดผม ร้านตัดผมจึงเปรียบเสมือนเพื่อนสนิทมิตรสนิท เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความชอบ เปิดอกพูดคุยกันแบบแมนๆ เป็นคอมมูนิตี้ที่ดึงดูดคนประเภทเดียวกันให้มาเจอกัน ปกติเมื่อเจอร้านตัดผมที่ถูกใจ คนมักใช้บริการร้านเดิม เพราะไม่มีใครอยากเสี่ยงทดลองร้านใหม่ การตัดผมด้วยความใส่ใจจึงสำคัญ เพราะหากตัดดี ลูกค้าย่อมฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกค้าประจำอย่างแน่นอน ไม่เชื่อลองย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวของทั้ง 4 ร้านดู ทุกร้านพูดเรื่องความละเอียดความใส่ใจกันทั้งนั้นเลย

Writer: methawee thatsanasateankit
Images by Never Say Cut, Three Brother, Silver Cut, 9limit

RECOMMENDED CONTENT

1.พฤศจิกายน.2019

ต่อไปนี้หากคุณและเราถูกผรุสวาทด้วยคำประเภทว่า ไอ้สัตว์, ไอ้สัด, ไอ้สัส หรือ ไอส๊าสสสสส ก็อย่าเพิ่งโกรธไป เพราะเราเองนี่แหละที่อาจกำลังกลายเป็นสัตว์ (ป่า) กันอยู่ในทุกๆ วัน! I Gone wild (everyday) คือเอ็กซิบิชั่นที่อยากให้เรากลับไปทบทวนความ ‘ดิบ’ ในตัวเอง ว่าสัตว์ในตัวเราคืออะไร และเรายังเหลือความเป็นมนุษย์กันอยู่มากน้อยแค่ไหน!?