วันนี้เราพามาชิมไส้กรอกแสนอร่อย ณ ร้าน Sloane’s ในย่านซอยลาซาล ซึ่งหลายคนอาจคุ้นหูคุ้นตามาบ้างตาม Farmer Market ซึ่งเชฟชาวอังกฤษผู้คลุกคลีอยู่ในวงการอาหารบ้านเรามานานกว่า 10 ปีอย่างคุณ Joe Sloane ได้นำประสบการณ์การเป็นเชฟอาหารฝรั่งเศสทำ ผลิตภัณฑ์จากเนื้อชั้นดีด้วยตัวเอง จนร้านอาหารไทย Fine Dining แถวหน้าของเมืองไทยอย่าง ร้านโบ.ลาน เห็นถึงความตั้งใจของคุณโจ จึงเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อช่วยค้นหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดให้กับ Sloane’s
วัตถุดิบที่ดีในความหมายของ Sloane’s ไม่ใช่แค่ต้องสดสะอาดเท่านั้น แต่ต้องเริ่มจากต้น ทางที่ดีด้วย หมูที่นำมาผลิตเป็นไส้กรอกเป็นหมูที่เลี้ยงแบบออร์แกนิกในฟาร์มเปิด (Free-range) ให้กินสมุนไพรเป็นอาหาร ไม่มีการใช้สารเร่งฮอร์โมน หมูที่ได้จึงปลอดสารเคมี เพราะปรัชญาข้อสำคัญของ Sloane’s คือการได้อุดหนุนผู้ผลิตรายเล็กในประเทศให้มี รายได้ พร้อมกับใส่ใจผู้บริโภคให้ได้รับของที่ดีที่สุด จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ผลิตภัณฑ์ Sloane’s ถึงได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจานอร่อยในร้านอาหาร Fine Dining และคาเฟ่ชื่อดังหลายแห่งในบ้านเรา
ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ ที่เน้นผลิตเพื่อส่งให้กับร้านอาหาร แต่ถ้าใครอยากแวะเวียนมาซื้อปลีกไปปรุงเองที่บ้านก็ได้เหมือนกัน ผลิตภัณฑ์ของ Sloane’s มีด้วยกันหลากหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมักแบบดิบ (Cured Meat) อย่างแฮมและเบคอนนานาชนิด ไส้กรอกที่มีกว่า 10 อย่าง ซึ่งมีซิกเนเจอร์ของร้านที่ต้องลองให้ได้คือเจ้า Cumberland ไส้กรอกเนื้อแน่นเวอร์ต้นตำรับอังกฤษแท้ๆ และมีไส้กรอกทำจากเนื้อไก่เป็นทางเลือกสำหรับใครที่ไม่กินหมูด้วย
นอกจากไส้กรอกที่นี่จะเริ่ดมากแล้ว ภายในร้านยังมีซอสโฮมเมดและมัสตาร์ดชนิดต่างๆ ไว้กินคู่กันอีกเพียบ ยังไม่พอ Sloane’s ได้รวบรวมถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพจากผู้ผลิต Local ที่เป็นพันธมิตรแน่นปึก อย่าง โยเกิร์ต เบียร์ ไข่ไก่ออร์แกนิก ขนมปังและครัวซองต์นุ่มๆ จาก Maison Jean Phillipe ชีสจาก Heaven on Cheese และอื่นๆ อีกเพียบบรรยายไม่หมดจริงๆ เอาเป็นว่ามาที่นี่ที่เดียวได้ของดีเป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมติดไม้ติดมือกลับบ้านไปยิ่งกว่ามางานโอท็อปแน่นอน บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ!
Sloane’s
อยู่ระหว่างซอยลาซาล 34-36 สุขุมวิทซอย 105 (สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง)
โทร. 0-2398-2294
เปิดเวลา 8.00-17.00 น.
Facebook: sloanesbkk
Website: http://www.sloanes.co.th/
RECOMMENDED CONTENT
“People on Sunday” (2562) เป็นการตีความ บทสนทนาโต้ตอบ และสาส์นแสดงความนับถือต่อภาพยนตร์บุกเบิกจากประเทศเยอรมันเรื่อง “Menshen Am Sonntag” (2473) หรือ “ผู้คนในวันอาทิตย์” ผลงาน “People on Sunday” (2562) ได้นำภาพยนตร์ต้นฉบับดังกล่าวกลับมาตีความใหม่ผ่านบริบทที่แตกต่างจากเดิม ทั้งยุคสมัย ภูมิประเทศ ตลอดจนสภาพในการทำงาน