ผู้อ่านคงจะจำกันได้เมื่อสองสามเดือนก่อนบนรันเวย์ Balenciaga คอลเลคชั่นใบไม้ร่วงของปี 2016 โดย Demsna Gavasalia ดีไซเนอร์คนใหม่ที่ถือว่าเป็นที่สุดของแจ้ในขณะนี้ ซึ่งตอนนั้นสาวแฟชั่นทั้งหลายก็ต่างใจจดใจจ่อรอคอยว่าคอลเลคชั่นแรกของชีกับห้องเสื้อกูตูว์เก่าแก่แห่งปารีสจะออกมาเป็นยังไง หลังจากโชว์จบได้ไม่กี่อึดใจก็ได้สร้างปรากฎการณ์ไทยตื่นจนเฟสบุ๊คแตกกับการแชร์ภาพถุงสายรุ้งบนรันเวย์แม้กระทั่งไลน์กรุ๊ปต่างๆในโทรศัพท์ของผู้เขียนเองก็เต็มไปด้วยภาพแคปหน้าจอจากแฟสบุ๊คที่ส่งมาพร้อมกับคำถามจากมิตรรักแฟนเพลงว่า “เฮ้ย มันใช่ใช่มะ”
“ใช่สิแก!” มันคือถุงสายรุ้งอย่างที่เข้าใจกันนั่นแหละ ดราม่าถุงสายรุ้งที่หาว่าพี่เดมส์น่าก็อบมาจากถุงสำเพ็งสัญชาติไทย (อาจจะเชื้อชาติจีน) จนเป็นเรื่องเป็นราวไปถึงเรื่องละเมิดสิขสิทธ์ หรือเรื่องที่หาว่าชีอพยพจากรัสเซียมาเมืองไทยโดยผ่านมาทางจีน (มันไปอี๊ก) แล้วได้อินสไปเรชั่นต่างๆนานาจากชีวิตในเมืองไทยจนได้มาทำคอลเลคชั่นนี้ ทั้งหมดทั้งปวงล้วนเป็นเรื่องที่กุขึ้นทั้งสิ้น และที่สำคัญไม่ใช่แค่พี่ไทยนะคุณที่เค้าใช้ถุงแบบนี้ ปารีส ลอนดอน นิวยอร์ค กัวลาลัมเปอร์ บอมเบย์และที่อื่นๆเค้าก็ใช้กัน
(กรอกตาแพรพ)
จะว่าไปการทำให้เกิดความงามกระแทกใจ (Aesthetics) ในงานศิลปะและงานออกแบบโดยใช้เทคนิคการหยิบยกของที่เห็นอยู่ทุกวันจนเบื่อที่เราไม่เห็นคุณค่าใดๆ มาวางไว้ในบริบทหรือสิ่งแวดล้อมอันใหม่ที่ต่างจากที่ที่มันเคยอยู่ ยิ่งที่ใหม่เป็นที่ที่เราไม่คาดคิดว่าสิ่งของนั้นจะไปอยู่ได้มากเท่าไหร่ งานชิ้นนั้นยิ่งกระแทกใจมากขึ้นเท่านั้น ถ้าจะอธิบายให้ง่ายไปอีกก็อารมณ์เดียวกับการดูตลกที่นักแสดงจะพยายามบิ๊วอารมณ์เราให้เชื่อว่าอย่างนึง แล้วมันก็กลายเป็นอีกอย่างนึงแล้วเราก็ขำฮาแตก เทคนิคนี้ในงานศิลปะและการออกแบบมีมานานแสนนาน ที่ชัดๆก็น่าจะเป็นงาน Fountain ในปี 1917 ของ Marcel Duchamp ศิลปินระดับโลกที่เอาโถฉี่มาวางในแกลเลอรี่แล้วบอกว่านี่เป็นงานศิลปะที่ทำให้คนโต้เถียงกันเป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตในยุคนั้น หรือใหม่มาหน่อยเช่นงาน Tree Trunk Bench ของ Jurgen Bey หนึ่งในแก๊ง Droog Design ชาวดัตช์ที่เอาท่อนไม้มาวางแล้วเสียบพนักพิงเก้าอี้สามอันเข้าไปแล้วก็บอกว่านี่คือเก้าอี้ ซึ่งความเจ๋งของงานตลกร้ายจำพวกนี้เกิดจากการลบล้างความคาดหวังของคนดู ความผิดที่ผิดทาง ผิดกาลเทศะ เป็นการขบถเบาๆเพื่อโยนคำถามให้สังคมไปคิดต่อ นึกถึงงานของอาร์ทิสแนวการ์ตูนๆอย่าง Takashi Murakami ซึ่งตามรสนิยมส่วนตัวของผู้เขียนไม่ได้ตื่นเต้นมากนักกับงานแนวนี้ แต่ในปี 2010 เมื่อความการ์ตูนของมุราคามิมาเจอกับความพระราชวังแวร์ซาย ความปังจึงบังเกิด….
Fountain, Marcel Duchamp, 1917
Tree Trunk Bench, Jurgen Bey
Takashi Murakami, พระราชวังแวร์ซาย, 2010
เทคนิคการสร้างความงามกระแทกใจแบบนี้พักหลังๆสายแฟชั่นก็ฮิตกันอย่างแรง ถ้าแบบซอฟๆก็แบรนด์กระเป๋าราคาแพงสัญชาติอังกฤษอย่าง Anya Hindmarch ที่บูมขึ้นมาอีกครั้งเพราะทำกระเป๋าเหมือนถุงฟอยล์ขนมกรุบกรอบที่ทำจากเหล็ก หรือการเอาแบรนด์ของใช้ประจำวันเช่น ซีเรียลอย่าง Kellog’s มาเป็นลายบนกระเป๋าหนัง หรือ Moschino ที่เล่นมุกนี้จนเบื่อ แม้แต่ Celine หรือ Louis Vuitton ก็ยังเคยใช้ถุงสำเพ็งลายสก๊อตในงานออกแบบมาแล้ว หรือจะให้แรงหน่อยก็ถุงก็อบแก็บ Tesco และ Mark and Spencer ที่เอามาปักเลื่อมของแบรนด์เล็กๆแต่น้องใหม่ไฟแรงอย่าง Ashish คือมันมีความขำมุมปากเบาๆในของที่แสนแพงที่มีความต่ำต้อยช่อนอยู่ แต่นี่แหละคือความกระแทกใจที่ผู้เขียนหมายถึง
กระเป๋า Crisp Pocket จากแบรนด์ Anya Hindmarch
กระเป๋าที่มีลายจากแบรนด์ของใช้ประจำวันต่างๆ
Moschino, AW 2014
Celine AW 2013
http://www.thefrontrowview.com/2013/07/celine-take-inspiration-from-laundry.html
Louis Vuitton SS 2007
http://dustyburrito.blogspot.co.uk/2012/07/lois-vuitton-spring-2007-chinatown-bags.html
Ashish ss 14
http://thestylecrusader.com/blog/-ashish-ss14-
ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นยังไม่มีอันไหนเลยที่จะแรงเท่าถุงสายรุ้งของ Balenciaga แม้ตอนนี้จะทำแค่ ready-to-wear แต่จุดกำเนิดของบาลองมาจากกูตูว์ ซึ่งการตัดเย็บแบบแฟชั่นชั้นสูงยังมีอยู่ในทุกอณูของแบรนด์ ผนวกกับตาเหยี่ยวของผู้บริหาร Kering เจ้าของแบรนด์ที่เล็งเห็น ความสวนทางของ Demsna Gavasalia ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งดีไซเน้อร์ของแบรนด์ Vetements ที่สร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญให้กับวงการแฟชั่นโลกโดยการนำของทิ้งๆบ้านๆเบื่อๆที่มีอยู่แล้วมา deconstruct เช่นเอากางเกงยีนส์ levis’s เก่าเก็บสามตัวมาต่อกันเป็นตัวเดียวที่สาว front row ใส่กันให้พรึบ หรือผ้าปูโต๊ะพลาสติกลายดอกไม้เชยๆ หรือชุดพละกางเกงวอล์มเสื้อ hoodie หรือแม่แต่เอาแบรนด์ส่งของอย่า DHL มาเล่นคือทั้งหมดนี้นำมาใส่ความต่ำตมสไตล์สตรีทบวกกับความมึนสไตล์ Club kids ของเด็กเที่ยวกลางคืนในย่านอโคจรซึ่งถือเป็นขบถต่อแฟชั่นสายหลักที่ต้องเนี๊ยบเฉียบหรูและดูแพง หรือแม้แต่โชว์ก็พ่วงจัดไปกับ Paris Couture Week ซะงั้นด้วย ความที่ Vetements เกิดจากการรวมตัวของดีไซเนอร์ที่เบื่อระบบแฟชั่นที่เป็นอยู่ ดังนั้นความคิดความอ่านของแบรนด์จึงสวนทางกับทุกสิ่งทุกอย่างในวงการแฟชั่นโดยสิ้นเชิง คิดดูว่าเมื่อความอโคจรของพี่เดมส์น่ามาปะกับความกูตูว์ของ Balenciaga ทั้งคอลเลคชั่นจึงเป็นการผสมผสานระหว่างการเอาของเบื่อๆมาแปลงร่างกับการตัดเย็บแบบเนี๊ยบกริ๊บตามแบบฉบับกูตูว์
Vetements ss 16
Vetement ss 16
Vetement ss 16
พูดมาแค่นี้เราก็ต้องรีบวิ่งไปซึ่งถุงสายรุ้งบาลองมาครอบครองเอาไปเดินช้อปสำเพ็งเกร๋ๆ แต่บอกไว้ก่อนว่าหายากมากที่สุด! ตามที่ผู้ใหญ่จากกรมทรัพย์ทางปัญญาได้กล่าวไว้ว่า Balenciaga ไม่ได้ก็อบถุงสายรุ้งสัญชาติไทยแต่อย่างใดเนื่องจากทำจากหนังและมีขนาดเล็กกว่า … ที่อยากจะบอกคือท่านพูดถูกแต่ไม่หมดซะทีเดียวนะคุณ บอกก่อนว่าใบเล็กๆที่เห็นในช็อปที่ทำจากหนังธรรมดาราคาหกเจ็ดหมื่นเนี่ย….ดูไม่เหมือนถุงสายรุ้งนักหร๊อก สีมันเข้มๆทำมาขายราคาเบาะๆ ไอ้ใบที่เจ๋งจริงที่เห็นบนรันเวย์ที่เหมือนถุงสายรุ้งใบใหญ่บิ๊กเบิ้มจริงๆเนี่ย พรีออเดอร์นะจ๊ะทำจากหนังงูราคาไม่ต้องพูดถึง (กระแทกใจไปอี๊ก) ….. โอเค…เข้าใจตรงกันนะ…
Balenciaga Fall 2016 Camapign
Balenciaga Fall 2016 Campaign
Balenciaga Fall 2016 Camapign
Balenciaga Fall 2016 Camapign
Balenciaga Fall 2016 Camapign
Balenciaga Fall 2016 Camapign
Writer: Neil
Images by: thetimes, designgallerist, flickriver, luxpresso, fashionunited, Bloomberg, eclectic-magazine, eclectic-magazine, fashiongonerogue, zhiboxs
RECOMMENDED CONTENT
Netflix ผู้นำบริการสตรีมมิงความบันเทิงระดับโลก ประกาศฉายภาพยนตร์ไต้หวันเรื่อง Your Name Engraved Herein (ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนว LGBTQ ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของไต้หวัน