หากหนึ่งในเป้าหมายในปีนี้ของคุณคือ “ท่องเที่ยวให้เยอะที่สุด” แต่ไม่รู้จะเริ่มจากที่ไหนดี เราขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นกับแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่เอื้อม แถมเดินทางได้ง่ายดาย สะดวกสบาย ในราคาประหยัดและคุ้มค่าเงินในกระเป๋า อีกทั้งยังได้สัมผัสกับประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลายในหนึ่งเดียวอีกด้วย ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ว่าก็คือ กรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมืองที่มีฉายาว่า “ไข่มุกแห่งโลกตะวันออก” นั่นเอง
สำหรับโฮจิมินห์นั้นพูดได้เลยว่า “เป็นเมืองที่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี” ในอดีตเมืองแห่งนี้มีชื่อว่าไซ่ง่อน ปัจจุบัน กรุงโฮจิมินห์ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่นักเดินทางทั่วโลก เนื่องจากมีสภาพอากาศดี มีศิลปวัฒนธรรมอันน่าทึ่ง ย่านชุมชนที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม และโซนธุรกิจที่มีตึกระฟ้าสำหรับการดำเนินธุรกิจที่คึกคัก นอกจากนี้ยังมีวัดและเจดีย์ที่สวยงามแทรกตัวอยู่เป็นจำนวนมาก ภายในโฮจิมินห์ยังมีบริการบาร์เครื่องดื่มบนยอดตึกสูงสำหรับการสังสรรค์และชื่นชมทัศนียภาพของเมืองไซ่ง่อนได้อย่างเต็มตา พร้อมบริการอาหารเลิศรสจากภัตตาคารชั้นเยี่ยมอีกหลายแห่ง ที่นำเสนอวัฒนธรรมอาหารทั้งฝรั่งเศส จีน และอาหารพื้นบ้านเวียดนาม ให้เลือกกันได้อย่างเต็มอิ่ม
และต่อไปนี้คือทริปแนะนำ 5 ทริป 5 สไตล์เพื่อการตะลุยเมืองโฮจิมินห์ในแบบที่เป็นคุณ!
ทริปสายชิลล์ – ย้อนอดีตอันงดงามกับสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสยุคอาณานิคม
ประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะกรุงโฮจิมินห์ มีความโดดเด่นด้านความหลากหลายในด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรมและอิทธิพลด้านจริยธรรมจากหลากความเชื่อ ขณะเดินไปตามท้องถนนในกรุงโฮจิมินห์ คุณจะได้ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสยุคอาณานิคมที่โอ่อ่าสง่างาม แวะนั่งชิลล์ในร้านคาเฟ่เก๋ๆ จิบกาแฟชั้นยอดตามสไตล์ที่ชอบ เพราะโฮจิมินห์ถือเป็นศูนย์รวมร้านกาแฟที่หอมอร่อยและเข้มถึงใจคอกาแฟอันดับหนึ่งของชาวเวียดนามเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงโฮจิมินห์ที่คุณห้ามพลาด ได้แก่ โบสถ์นอร์เธอดาม (Notre Dame Cathedral) ซึ่งสร้างในช่วงปลายทศวรรษที่ 1880 โดยนักล่าอาณานิคมชาวฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แค่เดินออกจากโบสถ์แล้วข้ามถนนมาก็จะเจอไปรษณีย์กลางแห่งนครโฮจิมินห์ (Central Post Office) สถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงามในกรุงโฮจิมินห์
ถ้าหากพูดถึงสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิคที่นี่ยังมีโรงอุปรากร (Opera House) อาคารเก่าแก่สไตล์เฟรนช์โคโลเนียลที่งดงาม และศาลากลางโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Hall) ที่คุณจะเพลิดเพลินกับการเดินชมความงดงามของแลนด์มาร์คสำคัญของโลกและสนุกกับการถ่ายรูปจนลืมเวลาไปเลย การเดินชมกรุงโฮจิมินห์ยังสามารถเริ่มต้นจากถนนเลอ ลัวร์ อะเวนิว (Le Loi Avenue) ซึ่งมีจุดท่องเที่ยวให้ชมมากมาย เหมาะสำหรับเริ่มทริปแบบชิลล์ๆ สโลว์ไลฟ์ และปล่อยใจไปกับความงดงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมอันเปี่ยมเสน่ห์
โบสถ์นอร์เธอดาม (Notre Dame Cathedral)
ไปรษณีย์กลางแห่งนครโฮจิมินห์(Central Post Office)
ทริปสายบุญ – สักการะเทพเจ้าเสริมสิริมงคลเพื่อเข้าถึงความสงบอันเปี่ยมสุข
หากคุณกำลังมองหาทริปพักผ่อนเบาๆ สำหรับสมาชิกครอบครัวที่เป็นผู้สูงอายุ เพื่อให้พวกท่านได้ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอพรร่วมกันในช่วงปีใหม่ เมืองไซ่ง่อนแห่งนี้เต็มไปด้วยวัดวาอาราม วิหารศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่สำคัญทางศาสนามากมายให้คุณไปแสวงบุญตามกำลังศรัทธา ไม่ว่าคุณและครอบครัวจะนับถือศาสนาหรือมีความเชื่อในรูปแบบใดก็ตาม
เจดีย์จักรพรรดิหยก (Jade Emperor Pagoda) คือวัดนิกายเต๋าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในกรุงโฮจิมินห์ ก่อสร้างในปี ค.ศ. 1909 โดยผู้อพยพชาวจีน พุทธศาสนิกชนสามารถเดินทางมานมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สัมผัสมนต์ขลัง และฝึกจิตท่ามกลางกลิ่นธูปเทียนที่ล่องลอยอยู่ทั่วไปในบริเวณวัด สถานที่น่าเที่ยวอีกแห่งหนึ่งคือ เจดีย์บู้ล่อง (Buu Long Pagoda) ซึ่งมีสถูป Gotama Cetiya ที่เป็นศิลปะการก่อสร้างระดับมาสเตอร์พีซ มีความสวยงามโดดเด่นจากการผสมผสานอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมของอินเดีย พม่า ไทย และเวียดนาม เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นักเดินทางที่มาสักการะต้องไม่พลาดการเก็บภาพบรรยากาศอันน่าประทับใจและการได้มานั่งผ่อนคลายในสถานที่แห่งนี้
เจดีย์จักรพรรดิหยก คือวัดนิกายเต๋าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในกรุงโฮจิมินห์
ศาลเจ้าที่ภายใน เจดีย์จักรพรรดิหยก
บรรยากาศร่มรื่นภายในบริเวณเจดีย์บู้ล่อง
ทริปสายช้อป – สนุกกับการจับจ่ายทั้งในศูนย์การค้าชั้นนำและร้านท้องถิ่นหลากสไตล์
การช้อปปิ้งคือกิจกรรมไฮไลท์อย่างหนึ่งหากคุณได้มาเยือนเมืองแห่งการค้าที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างโฮจิมินห์ ปัจจุบันเมืองไซ่ง่อนแห่งนี้มีการสร้างศูนย์การค้าที่ทันสมัยหลายแห่งทั่วเขตตัวเมือง โดยตลาดที่ใหญ่ที่สุดและพลาดไม่ได้เมื่อมาท่องเที่ยวเมืองอันคึกคักแห่งนี้คือ ตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market) ส่วนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินช้อปแบบสวยๆ สบายๆ ต้องไปที่ห้างวินคอมเซ็นเตอร์ (Vincom Center) ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่หรูหรากลางกรุง ภายในอาคารที่แยกเป็น 2 โซนเต็มไปด้วยร้านค้าชื่อดังกว่า 250 ร้าน ให้เลือกจับจ่ายกันแบบจุใจ
หากคุณต้องการสัมผัสตลาดค้าปลีกและค้าส่งของคนท้องถิ่นขนานแท้ ต้องไม่พลาดตลาดอันดอง (An Dong Market) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าส่งและค้าปลีกมากมาย และที่สำคัญคือชั้นบนสุดจะเป็นที่ตั้งของแผงขายสินค้าพื้นเมือง ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้องานหัตถกรรมและงานศิลปะของเวียดนามแท้ๆ ที่แสดงถึงวัฒนธรรมของเวียดนามหลากหลายรูปแบบ เรียกได้ว่า ตลาดแห่งนี้ถือเป็น The Must ที่ดีที่สุดของกรุงโฮจิมินห์เลยทีเดียว
ตลาดเบนถั่น แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเวียดนาม
ทริปสายสังสรรค์ – ตระเวนราตรีกับแหล่งแฮงเอาท์ชั้นนำในกรุงโฮจิมินห์
บรรยากาศยามราตรีในกรุงโฮจิมินห์มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ที่โซนไหนของเมือง โดยโซนตัวเมืองในเขต 1 จะเต็มไปด้วยสถานบันเทิงทั้งบาร์เครื่องดื่มชั้นดาดฟ้าบนตึกสูง คาสิโน และคลับเพลงแจ๊สหลากสไตล์ ส่วนผู้ที่ต้องการความโรแมนติก สามารถใช้บริการล่องเรือชมแม่น้ำไซ่ง่อนยามค่ำคืน โดยบริการบอนไซ ดินเนอร์ ครูซ (Bonsai Dinner Cruise) จะนำคุณท่องลำน้ำไปในยามราตรีบนเรือหรู ท่ามกลางบรรยากาศริมฝั่งที่ผสมผสานความสวยงามในแบบเวียดนามและตะวันตก เสิร์ฟอาหารค่ำเลิศรส พร้อมการแสดงสดดนตรีแจ๊สขับกล่อมไปตลอดเส้นทาง ปิดท้ายด้วยการแสดงระบำพื้นบ้านเวียดนามอันน่าประทับใจ
คุณสามารถนั่งจิบค็อกเทลรสเยี่ยมที่บาร์ชั้นดาดฟ้า โดยเลือกได้ทั้งที่ ไซ่ง่อน ไซ่ง่อน บาร์ (Saigon Saigon Bar) ชื่อดังหรือจะเป็น ชิลล์ สกายบาร์ (Chill Skybar) บาร์สุดโมเดิร์น หากต้องการดื่มด่ำบรรยากาศการแฮงเอาท์ตามริมทางในแบบดั้งเดิม เราขอแนะนำย่าน ฟามงู่หลาว (Pham Ngu Lao) ซึ่งเป็นที่สังสรรค์ยอดฮิตในกลุ่มแบ็คแพ็คต่างชาติและวัยรุ่นเวียดนามที่ชอบการสังสรรค์แนวอาร์ตและการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดของคนรุ่นใหม่ ทั้งยังมีเครื่องดื่มในราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับปาร์ตี้ได้แบบไม่ต้องห่วงเงินในประเป๋า นอกจากนี้กรุงโฮจิมินห์ยังมีคลับดนตรีสดฝีมือดีหลายแห่งไม่แพ้เมืองใหญ่อื่นๆ ในเอเชีย
กรุงโฮจิมินห์ริมแม่น้ำไซ่ง่อนยามค่ำคืน
ทริปสายกิน – เต็มอิ่มกับอาหารเวียดนามรสเลิศหลากเมนู
สำหรับนักชิมตัวจริงที่ชื่นชอบประสบการณ์รสชาติของอาหารรสเลิศ ห้ามพลาดการมาเยือนกรุงโฮจิมินห์อย่างเด็ดขาด! เพราะเวียดนามมีเมนูหลากหลายให้คุณลิ้มลองแบบไม่มีซ้ำ อาทิ บั๋นหมี่ หรือแซนวิชในสไตล์เวียดนาม อาหารยอดฮิตของชาวเวียดนามที่หารับประทานได้ทุกมุมเมืองของโฮจิมินห์ อีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อคือ เฝอ ซึ่งชาวไทยต่างติดอกติดใจกันถ้วนหน้า เนื่องจากในประเทศไทยก็มีภัตตาคารอาหารเฝอ ให้เห็นจำนวนไม่น้อย แต่ถ้าคุณต้องการชิมรสชาติต้นตำหรับแท้ๆ ต้องเดินทางมาที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีอาหารจานเด็ดอื่นๆอีกมากมาย ที่ต้องลองให้ได้ เช่น หอยทากต้มเลิศรส ปากหม้อญวน และ บะหมี่หมูย่างแบบเวียดนาม ที่รสชาติอร่อยแบบห้ามพลาดเลยทีเดียว
บั๋นหมี่ อาหารยอดฮิตของชาวเวียดนามที่หารับประทานได้ทุกมุมเมืองของโฮจิมินห์
แบ๋งห์ ก๋วน หรือ ปากหม้อญวน เป็นอาหารว่างรองท้องรสชาติอร่อยระหว่างเดินชมกรุงโฮจิมินห์
วันนี้ นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางไปยังโฮจิมินห์ได้อย่างสะดวกสบายด้วยสายการบินเวียตเจ็ท การันตีคุณภาพด้วยรางวัล “สายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในเอเชีย (Best Asian Low Cost Carrier)” จากงาน TTG Travel Awards 2015 โดยเวียตเจ็ทมีบริการเที่ยวบินเส้นทางกรุงเทพฯ – โฮจิมินห์ จำนวน 3 เที่ยวต่อวันโดยใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 30 นาที, เส้นทางกรุงเทพฯ – ฮานอย จำนวน 1 เที่ยวต่อวัน และเส้นทางกรุงเทพฯ – ไฮฟอง จำนวน 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสามเมืองใหญ่ของเวียดนามได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่าสูงสุด
ให้รางวัลตัวเองด้วยการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุด กับสายการบินเวียตเจ็ทที่จะพาท่านเหินฟ้าสู่เมืองท่องเที่ยวชั้นนำในอาเซียน พร้อมกับโปรโมชั่นบัตรโดยสารราคาสุดประหยัด ภายใต้แคมเปญฉลองครบรอบ 5 ปี ของสายการบินเวียตเจ็ท “Win a 1kg gold airplane, Fly to a happy future” เปิดจองบัตรโดยสารราคาเริ่มต้น 5 บาทในช่วง Golden Hours เวลา12.00 – 14.00 น. ตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2560 ผ่านทางเว็บไซต์ www.vietjetair.com ซึ่งสามารถนำไปใช้บริการเที่ยวบินภายในประเทศทั้งเส้นทางในไทยและเวียดนาม เที่ยวบินระหว่างประเทศจากกรุงเทพฯ สู่เวียดนาม และเที่ยวบินระหว่างประเทศจากเวียดนามสู่ฮ่องกง, ไทเป เกาสง ไทจง ไถหนัน (ไต้หวัน), โซล ปูซาน (เกาหลีใต้), สิงคโปร์, กัวลาลัมเปอร์ (มาเลเซีย), ย่างกุ้ง (พม่า) และ เสียมราฐ (กัมพูชา) โดยใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2560 (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ผู้โดยสารชาวไทยที่จองบัตรโดยสารราคาโปรโมชั่นในช่วง 12.00 – 14.00 น. ตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2560 ที่เว็บไซต์ www.vietjetair.com ยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลอีกมากมาย ได้แก่ รางวัลทองคำแท่งหนัก 3.75 กรัมทุกสัปดาห์ และรางวัลใหญ่เป็นโมเดลเครื่องบินทองคำหนักถึง 1 กิโลกรัม พิเศษอีกต่อสำหรับผู้โดยสารที่ใช้บริการเที่ยวบินในช่วงนี้ ยังสามารถร่วมลุ้นรางวัลบัตรโดยสารไปกลับฟรีได้ทุกวันกับกิจกรรมบนเที่ยวบินเวียตเจ็ท
RECOMMENDED CONTENT
Netflix ปล่อยตัวอย่างของสารคดีเรื่องใหม่ Neymar: The Perfect Chaos เรื่องราวของกองหน้าปารีส แซงต์-แชร์กแมง อย่าง เนย์มาร์ จูเนียร์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก