ในยุคที่ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดแบบนี้ การจะหาร้านค้าที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองและมีสินค้าคุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่านั้น นับว่ายากพอ ๆ กับงมเข็มในมหาสมุทร แต่ถ้าคุณเป็นสาวหวานแล้วล่ะก็ จะต้องคุ้นเคยกับแบรนด์ VARITHORN BOUTIQUE อย่างแน่นอน เพราะนี่คือเสื้อผ้าแบรนด์แรก ๆ ในประเทศไทยที่ทำการตลาดผ่านทาง Instagram แถมยังมีเอกลักษณ์จนโด่งดังติดตลาดไปไกลถึงต่างประเทศ
แม้ธุรกิจจะประสบความสำเร็จมากในระดับนี้ แต่สาวสวยสองพี่น้องกันท์ไพบูลย์นั้นอายุเพียง 25 และ 27 ปีเท่านั้น Dooddot จึงอดไม่ได้ที่จะขอไปพูดคุยกับ คุณบูบี วารีนิธิ กันท์ไพบูลย์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์ของแบรนด์ VARITHORN BOUTIQUE ด้วยดีกรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ด้าน Business Management Accounting and Marketing จาก University of Exeter ประเทศอังกฤษ
จุดเริ่มต้นของ VARITHORN BOUTIQUE
ปกติแล้ว บี กับ พี่เป้ (เปเป้ วาริธร กันท์ไพบูลย์) เราสองคนรักการแต่งตัวและชอบซื้อเสื้อผ้าทั้งคู่ แต่ละเดือนเราช้อปปิ้งกันเยอะมาก ก็เลยคิดว่าลองทำเสื้อผ้าขายกันดีกว่า โดยพี่เป้จะช่วยถ่ายรูปให้ แล้วบีเป็นนางแบบ คอลเลคชั่นแรกที่ออกมาก็มีไม่กี่ตัวแต่ผลตอบรับดีมาก ๆ หลังจากนั้นก็เลยตั้งใจทำกันจริงจัง แล้วลูกค้าก็เพิ่มมากขึ้นอย่างที่เห็นค่ะ
คอนเซปท์ของแบรนด์
VARITHORN จะเป็นเสื้อผ้าเเนว “Classy and Elegant” โดยจะเน้นที่เนื้อผ้าเป็นหลัก ผ้าของเรานำเข้าจากต่างประเทศทุกชิ้น ส่วนใหญ่จะมาจากประเทศญี่ปุ่นเพราะซักแล้วก็จะยังได้ทรงเดิม มีความทนทาน คุณภาพดี ส่วนราคาเสื้อผ้าของเราก็จะเริ่มตั้งแต่ 1,400 ไปจนถึง 8,000 บาท ชุดราตรีของเราอาจจะมีราคาสูงสักหน่อย แต่เราอยากให้ลูกค้าได้ใส่เสื้อผ้าดี ๆ และเราไม่อยากตั้งราคาที่สูงเกินไป ถึงจะไม่ได้กำไรเยอะแต่เราก็ตั้งใจทำ เพราะเราชอบเวลาที่เห็นคนใส่เสื้อผ้าของเรา
แรงบัลดาลใจในการออกแบบมาจากไหน
จริง ๆ แล้วเราได้แรงบัลดาลใจจากสิ่งรอบตัวเลยค่ะ อันไหนที่บีชอบและอยากใส่ บีก็จะออกแบบโดยไม่ได้อิงจากใครเป็นพิเศษ และจากการที่เราก็ชอบแต่งตัวอยู่แล้ว ก็จะดูจากเทรนด์แฟชั่นต่างประเทศ ว่าอะไรกำลังมาแรง เทรนด์ตอนนี้เป็นยังไง เราจะคอยอัพเดตอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเทคโนโลยีช่วยเราได้มาก เพราะเราสามารถค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ได้จากอินเทอร์เน็ตเสมอ ส่วนคอลเลคชั่นที่ทำออกมาจะแตกต่างจากสไตล์เดิม ๆ มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเรา อย่างในคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด varithorn X nieabtrinn ซึ่งเนี๊ยบ (ฐฤณณรัตน์ เดชะทวีวัฒน์) เป็นเพื่อนของบีอยู่แล้ว และบีก็ชอบสไตล์การออกแบบของเขาเลยชวนมาร่วมกันออกแบบคอลเลคชั่นนี้
โดน Copy ใน Instagram บ่อยๆด้วย
ใช่ค่ะ โดนก๊อปเกือบทุกตัวเลย แต่เราก็คิดว่าไม่เป็นไรเพราะตลาดเขากับตลาดเราไม่เหมือนกัน คุณภาพก็แตกต่างเหมือนกัน บีเคยแอบซื้อมาเหมือนกัน เพราะอยากรู้ว่าสินค้าเป็นอย่างไร พอมาดูของจริงแล้วก็รู้ว่ามันไม่เหมือนเลย แต่เราไม่เคยรู้สึกแย่เลยนะ ถ้าถามว่าเคยเครียดไหมก็เคยค่ะ แต่คิดในแง่ดีว่าคนที่ซื้อของก๊อปเค้าน่าจะชอบสไตล์การออกแบบของเรา เพียงแค่เขาอาจไม่ได้กังวลกับคุณภาพจึงไม่อยากจ่ายเงินเยอะขึ้น แต่มันก็ทำให้แบรนด์เราเป็นที่รู้จัก แต่ฐานลูกค้าประจำของเราก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม
กระแสขายของใน Instagram ปัจจุบัน
ร้านค้าใน Instagram ตอนนี้มีเยอะมาก แต่โชคดีที่เราขายเป็นเจ้าแรก ๆ และขายมานาน สินค้าจึงค่อนข้างติดตลาดและมีลูกค้าประจำเยอะ การเข้ามาของร้านค้าใหม่จึงไม่ได้มีผลกับเรามาก บางช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี เราก็จะออกแบบและปรับวัสดุที่ใช้ทำให้ราคาไม่สูงมากนักเพื่อให้ทุกคนสามารถซื้อได้ แต่ก็ยังคงควบคุมมาตรฐานของเราไว้ ด้วยคุณภาพสินค้าและราคาที่ไม่สูงมากนัก รวมถึงบริการที่ดีของเรา ทำให้เรามีลูกค้าประจำเสมอ
สไตล์ของคุณบี
บีเป็นคนหวานๆ สบายๆ แต่เวลาทำงานเราจริงจังมากนะและก็ละเอียดมากสำหรับทุกรายละเอียดในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสิ่งของเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับทำงานจะต้องมีฟังก์ชันครบและเร็ว เเล้วบีก็ชอบ Innovation และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เสริมให้ชีวิตประจำวันเราง่ายขึ้นด้วย
แสดงว่าเทคโนโลยีช่วยเราได้มาก
ไม่ใช่แค่อินเทอร์เน็ต มันรวมถึงการมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ที่ดีด้วย เพราะมันช่วยให้การทำงานของเรารวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ Upload รูป การตกแต่งรูป เเละทำบัญชีต่าง ๆ ผ่านโปรแกรมอย่าง Microsoft Office ก็ทำให้การทำงานง่ายขึ้นมาก ๆ
อุปกรณ์ต้องตอบโจทย์
อุปกรณ์ที่บีเลือกจะต้องพกพาสะดวก บีแรงน้อยด้วยก็เลยต้องมองหา Notebook ที่น้ำหนักเบามากๆ พกไปทำงานนอกสถานที่ได้สบาย แต่ขณะเดียวกันของที่บีใช้ก็ต้องสวยงามด้วยค่ะ ต้องมีสีที่แตกต่างทำให้ดูเป็นแฟชั่น จะได้เหมาะกับอาชีพและลุคของบี อย่างโน้ตบุ๊กคู่ใจของบี Dell Inspiron 7460 รุ่นนี้ที่มีให้เลือกทั้งสีเงินและสีทอง สวยทั้งสองสีแต่ถ้าจะให้ in-trend ตอนนี้ ก็ต้องสีทองเหมือนของบีค่ะ
Item ที่ขาดไม่ได้
เวลาเราออกไปทำงานข้างนอก สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ มือถือ Smartphone ที่ใช้งานได้ครบทุกอย่าง และโน๊ตบุ๊คที่พกพาได้สะดวก ตัวของ Dell Inspiron 7460 มีขนาดเล็ก แถมมีขอบจอที่บางมาก ทำให้ได้หน้าจอ 14 นิ้ว ในโน๊ตบุ๊คขนาดเทียบเท่า 13 นิ้วเลย ด้วยวัสดุที่ใช้ก็ดูพรีเมี่ยม ทำให้เราดูดีทุกครั้งเวลาหยิบออกมาใช้ นอกจากนั้นหน้าจอแบบ Full HD ก็ทำให้เราพรีเซนต์งานได้ดีมาก ไม่ได้ต้องพกอุปกรณ์เยอะ แค่ Dell เครื่องเดียวก็จบแล้ว
การเป็น Working Women เหนื่อยหรือเปล่า บาลานซ์ชีวิตส่วนตัวกับการทำงานยังไง
โชคดีว่านี่เป็นสิ่งที่เราชอบก็เลยเหมือนไม่ได้ทำงาน บางครั้งก็เครียดบ้างแต่ก็มีความสุข และนีก็ถือเป็นธุรกิจของครอบครัว เราก็ยิ่งอยากทำงานให้ดีที่สุด ซึ่งบีว่ามันสำคัญมาก ๆ เลยนะในการหางานที่เราจะทำมันได้อย่างมีความสุข ส่วนถ้าวันไหนบีพอมีเวลาว่าง นอกจากออกไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ แล้ว กิจกรรมที่บีชอบมากๆ ก็คือการได้อยู่บ้านดูซีรีส์ชิลๆ ซึ่งก็ได้ Dell Inspiron 7460 นี่แหละค่ะ ที่อยู่กันตลอด ไม่ว่าจะวันทำงานและวันพักผ่อน ด้วยความที่จอชัดแบบนี้ ยิ่งทำให้เราดูซีรี่ส์เพลินเลย เชื่อมั้ยคะ บางทีไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด บียังพกไปด้วยเลย คือถัดจากมือถือก็คอมนี่แหละ ที่บีมักจะพกติดตัวจริงๆ
Dell Inspiron 7460 โน้ตบุ๊คที่ตอบทุกโจทย์ของ บูบี-วารีนิธิ
- มาพร้อมวัสดุพรีเมี่ยมสีเงิน (Elegant Silver) และสีทอง (Rich Gold) ให้ความรู้สึกหรูหราทุกครั้งที่ใช้งาน
- ขอบจอบางที่มาพร้อมจอขนาด 14 นิ้ว ในตัวเครื่องขนาดเทียบเท่าโน๊ตบุ๊ค 13 นิ้ว
- มีไฟคีย์บอร์ด ทำให้ไม่ต้องกังวลเมื่อใช้งานในที่มืด
- พกพาไปทำงานที่ไหนก็สะดวก เพราะตัวเครื่องทั้งบางและเบา ด้วยน้ำหนัก 1.65 กิโลกรัมและบางเพียง 18.95 มิลลิเมตร
- ประกัน Premium Support 3 ปีเต็ม รวมถึง On-Site service ให้คุณได้รับบริการหลังการขายสุดประทับใจตลอด 24 ชั่วโมง
- ราคาสุดคุ้มในคุณภาพระดับ Premium เริ่มต้นเพียง 31,990 บาทเท่านั้น
หรือเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ http://www.dell.com/th/p/inspiron-14-7460-laptop/pd และ https://www.facebook.com/DellThailand
RECOMMENDED CONTENT
[Review] Dooddot : Under Armour HOVR Phantom RN รองเท้า […]