ต้องบอกว่าภาพยนต์ทุกเรื่องของดิสนีย์มักสอดแทรกนัยยะทางสังคมและประเด็นเกี่ยวกับ Feminist มาเสมอ ตั้งแต่การเปลี่ยนบทบาทของเจ้าหญิงที่ต้องรอคอยความรักจากเจ้าชายมาเป็นผู้หญิงที่ดูแลตัวเองได้ตั้งแต่ Rapunzel มาถึง Brave และ Frozen หรือแม้กระทั่งภาพยนต์ที่พูดถึงการ Stereotype อย่างชัดเจนอย่าง Zootopia ซึ่งในปีนี้ดิสนีย์ก็ได้ก้าวสู่อีกหนึ่งประเด็นสำคัญอย่างเรื่อง LGBTQ ผ่านฉากที่ “เกย์ที่สุด” ในประวัติศาสตร์ Live-Action ของดิสนีย์
การเสียดสีเรื่องเพศไม่ใช่ประเด็นที่แปลกใหม่ของดิสนีย์ ประเด็นทางสังคมอย่าง LGBTQ และตัวตอนของก็มักถูกสอดแทรกอยู่ในการ์ตูนของดิสนีย์เช่นเดียวกัน เพราะเราเห็นได้ตั้งแต่ตัวละครจากนางเงือกน้อยอย่าง Ursula , Scar ใน The Lion King, Jafar ใน Aladdin และ Prince John ใน Robin Hood ซึ่งตัวละคร “เกย์” หรือ “เพศที่สาม” ทั้งหมดนั้นจะเป็น ”ตัวร้าย” แต่ถ้าคุณเป็น ”เด็กสาว” และเป็นคนดีจะได้เป็น “เจ้าหญิง” แล้วเธอจะถูกปกป้องโดย “เจ้าชาย” จากเหล่าวายร้ายที่ “เบี่ยงเบนทางเพศ”
Bill Condon ผู้กำกับของ Beauty and the Beast เวอร์ชั่นภาพยนต์บอกว่าเขาจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับดิสนีย์ โดยการนำเรื่องราวที่ถูกเก็บไว้ออกมาเผยให้ทุกคนได้ชม ซึ่งสิ่งแรกคือ “ช่วงเวลาที่ดีของคาแรกเตอร์เกย์ในภาพยนตร์ดิสนีย์” ของ LeFou และ Gaston
“LeFou คือคนที่ในวันหนึ่งอยากเป็น Gaston แต่อีกวันหนึ่งเขาก็อยากจูบ Gaston” Bill Condon ผู้กำกับของเรื่องพูดถึงตัวละคร LeFou ซึ่งเป็นคนรับใช้ของ Gaston ตัวร้ายของเรื่อง “ เขามีความสับสนเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองต้องการ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคนเมื่อเขากำลังตกหลุมรัก ซึ่ง Josh ( ผู้รับบท LeFou ) ก็สามารถแสดงเรื่องราวที่ละเมียดและอ่อนหวานนี่ออกมาได้อย่างดี แม้เขาจะได้รับสิ่งตอบแทนที่เราก็ไม่อยากที่จะมอบให้ แต่อย่างไรก็ตามนี่คือ Gay moment ที่พิเศษที่สุดที่เคยเกิดในภาพยนต์ของดิสนีย์ ”
เมื่อไม่ถึงเดือนที่ผ่านมาการ์ตูนเรื่อง Star vs. The Forces ทางช่อง Disney Channel ได้นำเสนอภาพคู่รักเกย์เป็นครั้งแรกในการ์ตูนสำหรับเด็ก และแม้ภาพของตัวละคร LeFou จะยังคงอยู่ในวงเวียนคาแรกเตอร์ “เกย์” ของดิสนีย์ที่มักเป็น “ตัวร้าย” หรือ “ฝ่ายอธรรม” แต่เราคิดว่าการเรื่อง Beauty and the Beast จะเป็นการปูทางให้เหล่าคาแรกเตอร์ LGBTQ ในภาพยนต์ดิสนีย์รวมถึงในสื่อกระแสหลักเกี่ยวกับเพศทางเลือกมากขึ้น
สำหรับภาพยนต์เรื่อง Beauty and the Beast นั้นจะเข้าฉายในไทย วันที่ 16 มีนาคมนี้ ทุกโรงภาพยนต์
RECOMMENDED CONTENT
เพลงนี้เล่าถึงแรงเสียดทานในชีวิตที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกก็ล้วนแล้วแต่ต้องพบเจอแรงเสียดทานนี้ ที่เกิดขึ้นจากการกดทับโดยบริบททางสังคม วัฒนธรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันในแบบต่าง ๆ ที่คนคนหนึ่งต้องเจอ เพราะถึงแม้จะนับ 1 ถึง 100 เพื่อที่จะทำให้ตัวเองสงบใจ แต่สุดท้ายวันหนึ่งสิ่งนี้มันก็อาจจะเกินกว่าที่จะทนไหว และปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ออกมาก็เป็นได้