หลังจากที่เมื่อช่วงเดือนก่อนมีข่าวเต้า (ซึ่งเป็นข่าวเก่าที่เต้ามาตั้งแต่ปี 2013) ขึ้นมาว่า ศิลปินกราฟฟิตี้ที่คนทั่วโลกต่างเฝ้ารอผลงานอย่าง Banksy ถูกตำรวจอิสราเอลจับกุมตัว และข่าวก็เงียบหายไป พร้อมเสียงเรียกร้องของแฟน ว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นผลงานใหม่ๆ จากศิลปินลึกลับชาวอังกฤษผู้นี้อีก
ผลงานชิ้นก่อนของเขาที่ผ่านตาเราก็คือ The Son of a Migrant from Syria กับภาพของสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้ง apple ในลุคของผู้อพยพชาวซีเรีย รวมถึงโปรเจ็กต์สวนสนุก Disma Land ที่ทำให้ผู้คนจากทั่วโลกตั้งใจไปเยือนสวนสนุกในฐานะชิ้นงานศิลปะนี้กันอย่างคับคั่ง
__________
และล่าสุดกับผลงานสองชิ้นที่จะเรียกว่าเป็นการกึ่งก่อกวนกึ่งสดุดีก็ว่าได้ ในวาระที่ Barbican Art Gallery จัดแสดงนิทรรศถึงศิลปินกราฟฟิตี้ชาวอเมริกาผู้ล่วงลับ Jean-Michel Basquiat ในชื่อนิทรรศการว่า ‘Basquiat : Boom for Real’ ซึ่งถือว่าเป็นนิทรรศการใหญ่ครั้งแรงบนเกาะอังกฤษของเขา
Jean-Michel Basquiat เป็นศิลปินกราฟฟิตี้ชาวอเมริกันที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยผลงานแนว hip-hop / post-punk / street arts ผลงานของเขาถือเป็นตัวขับเคลื่อนวัฒนธรรมสตรีทอาร์ทของฝั่งอเมริกา และหลายชิ้นถูกเก็บรักษาเป็นคอลเล็กชั่นสำคัญใน The Whitney Museum of American Art จุดเด่นของผลงานของเขา คือการวิพากษ์วิจารณ์และสังเกตการณ์การอยู่ร่วมกันของสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว เช่น ความรวย กับ ความจน ภายนอก กับ ภายใน ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานของเขามักพูดประเด็นสังคมด้วยมุมมองหนักๆ อย่างเรื่องการเมือง ลัทธิการล่าอาณานิคมของชาวตะวันตก หรือแม้แต่เรื่องช่องว่างระหว่างชนชั้น
Basquiat เสียชีวิตเพราะเสพโคเคนเกินขนาด แต่ผลงานของเขายังคงอยู่และเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงยังเป็นที่ต้องการของเหล่าคิวเรเตอร์และนักสะสม ภาพวาดหัวกะโหลกขนาดใหญ่เมื่อปี 1982 ถูกซื้อไปในราคา 60 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ และราคาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันภาพนี้ถูกตั้งราคาไว้ที่ 110 ล้านดอลล่าร์สหรัฐแล้ว
__________
กลับมาที่ข่าวของ Banksy ที่แวะมาสร้างผลงานอย่างเงียบๆ ถึงสองชิ้น ที่บริเวณกำแพงของ Barbican Art Gallery ซึ่งถือเป็นการเคารพและโค้งคำนับศิลปินผู้ล่วงลับอยู่กลายๆ
ชิ้นงานแรก คือการนำผลงานในตำนานอย่างภาพ ‘Boy and Dog in a Johnnypump’ (1982) มาพ่นทับด้วยภาพตำรวจกำลังตรวจค้นผู้ชายอยู่ Banksy อธิบายผลงานไว้ใน instagram ของเขาว่า
|
“Portrait of Basquiat being welcomed by the Metropolitan Police – an (unofficial) collaboration with the new Basquiat show.”
|
ซึ่งสะท้อนสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยของกรุงลอนดอนในห้วงยามที่เกิดเหตุก่อการร้ายถี่เหลือเกินได้เป็นอย่างดี โดยตัวผู้ชายผิวดำนั้น คือสิ่งที่ Basquiat ตั้งใจสื่อถึงความเป็นแอฟริกัน ในยุคนั้นที่พูดถึงประเด็นของการค้าทาส และการล่าอาณานิคม
_________
ชิ้นที่สองคือภาพของเด็กและผู้ใหญ่กำลังต่อคิวขึ้นชิงช้าสวรรค์ ที่ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์มงกุฏ ซึ่งถือได้ว่าเป็นลายเซ็นของ Basquiat ก็ว่าได้ โดย Banksy ได้ใส่แคปชั่นใน instagram ไว้ว่า
|
“Major new Basquiat show opens at the Barbican – a place that is normally very keen to clean any graffiti from its walls.”
|
เพื่อเป็นการหยิกแกมหยอกแกลลอรี่ Barbican ว่ากล้ามั้ยที่จะรีบลบชิ้นงานของเขาทิ้งเสีย
__________
สารภาพว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่ตาม Banksy มาตลอด ว่าเขาจะเดินทางไปสร้างสรรค์ชิ้นงานชิ้นต่อไปที่ซอกมุมไหนของโลกกัน และก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า street art มักสร้างคุณูปการต่อสังคมในแง่ใดแง่หนึ่งเสมอ อาจเพราะศิลปินส่วนใหญ่มักนำเอาพื้นที่กำแพงเป็นเสมือนสมุดบันทึกเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจต่างๆ ที่มีต่อสังคมและโลกใบนี้
เช่นกันกับ Basquiat ที่แม้ว่าตัวของเขาเองจะล่วงลับไปนานแล้ว แต่ผลงานของเขาตลอดช่วงชีวิตจะยังคงเปล่งเสียงตลอดไปตราบจนกว่าโลกนี้จะแตกดับไปนั่นเอง
นิทรรศการ Basquiat : Boom for Real
จัดแสดงที่ Barbican Art Gallery กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2017–28 มกราคม 2018
_
RECOMMENDED CONTENT
น่าจับตามองมากที่สุด สำหรับศิลปินคู่หูอินดี้ป๊อปอย่าง “Landokmai” (ลานดอกไม้) ประกอบด้วย “อูปิม - ลานดอกไม้ ศรีป่าซาง” (ร้องนำ) และ “แอนท์ - มนัสนันท์ กิ่งเกษม” (กีตาร์, คอรัส) สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ด้วยความชัดเจนโดดเด่นทางด้านดนตรีที่ผสมผสานความเป็น Dream-pop และความวินเทจแบบ Lo-fi ไว้ด้วยกันได้อย่างมีเสน่ห์