หากพูดถึงเกมและอะนิเมะที่ครองใจผู้คนมายาวนาน หลายยุคหลายวัย เราทุกคนคงปฏิเสธในความน่ารักสดใสของเหล่าโปเกมอนไม่ได้ โดยเฉพาะเจ้าพิคาชูตัวสีเหลือง ที่ไม่ใช่แค่เด็กๆ เท่านั้นที่ชื่นชอบ แต่สำหรับผู้ใหญ่เองก็หลงรักคาแรกเตอร์นี้ไม่แพ้กัน ซึ่งจากกระแสความคลั่งไคล้และชื่นชอบ Pokémon ดังกล่าว จึงทำให้เราเห็นคาแรกเตอร์ของพิคาชูและผองเพื่อนโลดแล่นอยู่ในสื่อหลายรูปแบบมาจนถึงตอนนี้ อะไรทำให้ได้รับความนิยม และทำไมโปเกมอนถูกเลือกให้เป็นสื่อกลางผ่านสินค้าต่างๆ
กำเนิดโปเกมอน
โปเกมอน หรือชื่อเต็มว่า ‘Pocket Monster’ เป็นสื่อแฟรนไชส์ของบริษัท นินเทนโด ผู้ผลิตวิดีโอเกมสัญชาติญี่ปุ่น สร้างขึ้นโดย ‘ซะโตะชิ ทะจิริ’ เมื่อปี ค.ศ. 1996 ซึ่งเริ่มจำหน่ายในรูปแบบของวิดีโอเกมบนเครื่องเล่นสายเกมบอยมาก่อน พร้อมความสำเร็จและได้กำไรมากเป็นอันดับ 2 รองจากเกมมาริโอ หลังจากนั้นเราก็ได้เห็นโปเกมอนในรูปแบบอะนิเมะ มังงะ เกมสะสมการ์ด ของเล่น รวมถึงหนังสือ เป็นต้น
ส่วนในประเทศไทยจะเห็นความโด่งดังอย่างชัดเจนในปี 2015 หรือย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กระแสโปเกมอน (Pokémon) ในไทยมีสีสันขึ้นมาอีกครั้งเมื่อ ทรู คอร์ปอเรชั่น ผนึกความร่วมมือกับทาง เดอะ โปเกมอน คอมพานี เจ้าของแบรนด์โปเกมอนจากประเทศญี่ปุ่น ในการบริหารและสร้างแบรนด์โปเกมอนในไทย โดยทรูฯ ได้เป็นผู้ได้รับอนุญาตใช้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในไทย (Master Licensee) ประเดิมด้วยแคมเปญต่างๆ ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำที่มีการทำกิจกรรม สินค้าและบริการที่เกี่ยวกับโปเกมอนอย่างครบวงจรทั้ง Online และ Offline
กระแสโปเกมอนฟีเวอร์ในไทย
นอกจากความนิยมที่มีมาและยังไม่จางหายของแต่ละประเทศ ไทยเองก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากมีการเปิดตัวเกมบนโทศัพท์มือถืออย่าง Pokemon GO ซึ่งวันแรกที่เปิดให้ดาวน์โหลดก็ได้รับความสนใจจากผู้เล่นจำนวนมาก จนกลายเป็นกระแสมาอย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นจากการที่แต่ละคนไล่ล่าจับโปเกม่อนตามสถานที่ต่างๆ และโชว์ความเจ๋งของตัวเองหลังการต่อสู้ลงบนโลกโซเชียล แม้แต่กลุ่มบริษัทก็จัดอีเวนต์ โรดโชว์ รวมถึงกลุ่มคอสเพลย์ก็สร้างสีสันที่หลากหลาย ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะเรายังเห็นผลิตภัณฑ์เยอะมาก ที่นำคาแรกเตอร์โปเกมอนมาใช้ ทั้ง เสื้อผ้าเด็ก เครื่องเขียน ตุ๊กตา เครื่องสำอางค์ หน้ากากอนามัย ชุดเครื่องนอน ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และโปรโมชั่นแคมเปญ ของพรีเมี่ยมร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ
ใหม่ล่าสุด! โปเกมอนบนบัตรเดบิตรูปแบบใหม่ “พิคาชูฉันเลือกนาย”
และล่าสุดเพราะเข้าใจเหล่าเทรนเนอร์ ที่ต้องการตามล่าโปเกมอนและผองเพื่อน จะได้มีอีกหนึ่งความทรงจำมาเก็บไว้ในกระเป๋าสำหรับนักสะสม ธนาคารกสิกรไทยได้จับเหล่าโปเกมอน ทั้งพิคาชูและผองเพื่อนมาใส่ลงในบัตรเดบิตกสิกรไทย จนเกิดเป็น K-Pokémon Debit Card ขึ้น ด้วยการหยิบคาแรคเตอร์โปเกมอนมาเป็นลายหน้าบัตรเดบิตที่ถือเป็นไฮไลท์ของปีนี้ ก็เพราะกระแสความนิยมทั่วโลกอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้น โดยในไทยมีฐานแฟนคลับเฉพาะโมบายเกมอย่าง “โปเกมอนโก” ตั้งแต่เปิดตัวมียอดดาวน์โหลดเกมมากกว่า 12.8 ล้าน ยูเซอร์ และยังมีผู้ชื่นชอบโปเกมอนในรูปแบบการ์ตูนแอนิเมชัน สินค้าลิขสิทธิ์ และภาพยนตร์อีกด้วย ทำให้บัตรเดบิตโปเกมอนกสิกรไทย จะเป็นบัตรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชื่นชอบได้อย่างแน่นอน
ควันหลงของงาน ‘โลกของโปเกมอน By K-Pokémon Debit Card’
จากกระแสทั้งหมดที่พูดมา บอกได้คำเดียวว่าโปเกมอนได้เข้าไปครองใจทุกคนอย่างเหนียวแน่น ซึ่งนอกจากพาพิคาชู และผองเพื่อนมาไว้บนหน้าบัตร ธนาคารกสิกรไทยก็ได้นำความสนุกมาเอาใจเหล่าเทรนเนอร์ในงาน ‘โลกของโปเกมอน By K-Pokémon Debit Card’ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18–19 กันยายนที่ผ่านมา ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีมาก เพียงแค่ปล่อยทีเซอร์ก็มีเสียงเรียกร้องเข้ามาล้นหลาม โดยภายในงานมีคนรักโปเกมอนเข้ามาสัมผัสโลกโปเกมอนอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการแสดงบนเวที โดยผู้เข้าร่วมงานก็ได้ร่วมสนุกกับบูธต่างๆ ได้แก่ Poke Gift ที่จะชวนคนในงานมาจับโปเกมอนขนาด Big Size นำกลับบ้าน ผ่านกิจกรรมสนุกๆ ในงาน และยังมีสิทธิ์ซื้อสินค้าลิขสิทธิ์โปเกมอนได้ในราคาพิเศษ, Poke food สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าบัตรเดบิตกสิกรไทย ที่สามารถแลกซื้อช็อคโกแลตปั้น รูปโปเกมอน และ 3D Printing รูปตัวเองหรือเหล่าโปเกมอนได้ในราคาพิเศษ และสุดท้าย Poke Art คือการทำ Airbrush Painting ลงบนร่างกาย ด้วยลวดลายโปเกมอนตามที่แฟนๆ ชื่นชอบ
รายละเอียดการสมัคร
เพียงสมัครผ่าน K PLUS ก็มีแบบให้เลือกถึง 5 ลาย หรือสมัครที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา มีให้เลือก 2 ลาย นอกจากนี้ ทุกการสมัครจะได้รับกระเป๋าพิคาชูสุดน่ารัก
*เงื่อนไขการสมัคร : มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือทำบัตรทดแทน ในราคา 250 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 350 บาท เมื่อสมัครผ่าน K PLUS มีค่าจัดส่ง 37 บาท ทั่วประเทศ จัดส่งภายใน 7 วันทำการ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
www.kasikornbank.com
—
RECOMMENDED CONTENT
แซมรู้สึกว่ายังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ของแซมมากๆ แซมยังเป็นคนนึงที่แซมมองเรื่องดนตรีเป็นเรื่องของความสนุกอยู่ แซมชอบที่จะได้ทดลองเพลงต่างๆ วิธีการเขียนต่างๆ เหมือนกับดนตรีมันยังเป็นงานอดิเรกของแซมด้วย แล้วพอเราได้ออกมาทำเป็น Job ด้วยจริงๆ มันก็แฮปปี้ดี ไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าศิลปินเต็มตัวได้ไหม แต่ว่าก็ทำอยู่เรื่อยๆ