fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

ผลงานภาพถ่ายชุด “1972” ของ Noritaka Minami ช่างภาพญี่ปุ่น ที่นำเสนอความเป็นอยู่แต่ละห้องใน “Nakagin Capsule Tower” อพาร์ทเมนต์แคปซูลอันโด่งดัง
date : 10.ตุลาคม.2013 tag :

ผลงานภาพถ่ายชุด “1972” ของช่างภาพ Noritaka Minami ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นอยู่ของคนญี่ปุ่นในอพาร์ทเมนต์แบบ Capsule ที่เคยโด่งดังในอดีต แล้วสภาพในวันนี้จะเป็นอย่างไรเราลองไปดูกัน

Subject คืออาคารที่ชื่อว่า “Nakagin Capsule Tower” ผลงานชิ้นสำคัญของสถาปนิกรุ่นใหญ่ชาวญี่ปุ่น “Kisho Kurokawa” (1934-2007) อีกหนึ่ง Landmark ของ Tokyo ที่คนญี่ปุ่นรู้จักกันดีในฐานะสัญลักษณ์ความรุ่งเรืองของวงการสถาปัตย์ญี่ปุ่นในยุค Modernism ที่ตอนนั้นกำลังบูมอย่างมาก ย้อนไปตามชื่อผลงาน ในปี 1972 เป็นปีที่ตึกนี้สร้างเสร็จพอดี ช่วงนั้นญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวได้หลังจากที่โดนถล่มย่อยยับแพ้สงครามโลกครั้งที่สองมา สำหรับ Kurokawa และอีกหลายสถาปนิกในยุคนั้นเองด้วยความที่ซึมซับศิลปะและการออกแบบแนวโมเดิร์นมาเยอะ จึงเกิดการเคลื่อนไหวทางวงการสถาปัตย์ของญี่ปุ่นแนวใหม่เรียกว่า “Metabolist” แนวทางการออกแบบที่ให้ความสำคัญเรื่องการใช้ Space ภายใต้พื้นที่จำกัดและการใช้งบประมาณที่ประหยัดด้วย ไม่ต่างจากหลักเมตาบอลิซึ่มทางการแพทย์ ที่พูดถึงเรื่องการสร้างและการละลายตัวในกระบวนการผลิตของเซลล์ ตึก Capsule นี้ใช้หลักการผลัดเปลี่ยนเก่าใหม่เหมือนกัน เริ่มต้นด้วยการวางโครงสร้างแกนหลักตรงกลางเป็นคอนกรีตอย่างหนาแข็งแรง จากนั้นจึงค่อยๆนำห้องแต่ละห้อง (ในที่นี้คือกล่อง Capsule) เข้ามาประกอบเสียบเข้าไปชั้นๆรวมกันเป็นที่อาคารพักอาศัยหน้าตาไม่เหมือนใครอย่างที่เห็น… ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงในวงการสถาปัตยกรรมทั้งในญี่ปุ่นหรือในโลกเลยก็ว่าได้ ตามเป้าที่ Kurokawa วางไว้มันสามารถอยู่ได้ถึง 200-300 ปี แต่ต้องเปลี่ยนห้อง Capsule ตลอดเวลารอบละไม่เกิน 25 ปี ซึ่งเรื่องจริงมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อลูกค้าซื้อขาดแต่ละห้องแล้วกระบวนการที่ว่าก็ทำได้ยากขึ้น ประจวบกับเจ้าของ Nakagin Tower เกิดล้มละลายงบประมาณก็มีไม่พอ จนผ่านไปกว่า 40 ปีแล้วก็ยังไม่เคยได้เปลี่ยน Capsule เลย  สภาวะของสถาปัตกรรมชิ้นนี้ก็เลยตกอยู่ในสภาพที่ไม่มั่นคง ดูเป็นอันตรายและกำลังจะถูกรื้อทิ้ง

โปรเจคต์ชุดนี้ของ Noritaka Minami จึงเหมือนกับเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของชาวญี่ปุ่นเอาไว้ พอเห็นภาพในแต่ละห้อง(ทุกวันนี้ยังมีเจ้าของอาศัยอยู่เป็นปกติ) แล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าจะสร้างในต้นยุค 70’sจริงๆ การออกแบบข้างในเอามาเทียบกันกับทุกวันนี้ก็ยังดูทันสมัยอยู่ (เผลอๆล้้ำสมัยเราไปอีกด้วยซ้ำ) Noritaka เลือกใช้มุมมองนำเสนอแต่ละภาพแบบตรงๆมี Perspective จุดเดียวตรงกลางได้ออกมาสวย เรียบๆ เหมาะกับห้องแคปซูลเหล่านี้ที่มีหน้าต่างกลมๆกลางห้องบานเดียว นอกนั้นภาพรอบๆก็เป็นสิ่งของเครื่องใช้ เตียงที่นอน บอกเล่าบรรยากาศความเป็นอยู่ของแต่ละห้องแตกต่างกันออกไป ต่อให้บางห้องจะรกหรือบางห้องดูหรูยังไงรวมๆแล้วก็ยังดูสวยและโมเดิร์นสุดๆ แสดงให้เห็นเลยว่ามันเป็นผลงานออกแบบของสถาปนิกที่อยู่เหนือกาลเวลาจริงๆ เป็นชุดภาพถ่ายที่ทั้งเรื่องราวในภาพและองค์ประกอบของภาพถ่ายบอกได้คำเดียวว่าเป็นผลงานที่ดู “ญี่ปุ่น” สุดๆ (สามารถเข้าไปดูรูปเพิ่มเติมได้ที่เวปไซต์ของช่างภาพ http://www.noritakaminami.com/project_1972)

Writer: Pakkawat Tanghom 

Image By: Noritaka Minami

RECOMMENDED CONTENT

27.พฤษภาคม.2019

“โรคร้ายไม่ใช่เรื่องของคนคนเดียว” เพราะโรคร้ายไม่ได้ทำร้ายแค่ผู้ป่วยเพียงคนเดียว แต่ยังมีคนในครอบครัวและคนอีกหลายคนที่ต้องเจ็บปวดและได้รับผลกระทบเช่นกัน การช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้รับการรักษานั้น เท่ากับเราได้ช่วยเหลือคนมากกว่าหนึ่งคน