วันนี้ Dooddot ได้รับเกียรติจาก โตโยต้า พาเรามาไกลถึงประเทศญี่ปุ่น เพื่อสัมผัสประสบการณ์ New Hybrid ที่สะท้อนแนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีของโตโยต้าจากวิถีของวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งกับวิวัฒนาการแบบดั้งเดิม ทั้งยังผสานวัฒนธรรมตะวันตกได้อย่างลงตัว ผ่านการเดินทางเรียนรู้เชิงวัฒนธรรมร่วมสมัย ซึ่งสะท้อนเทคโนโลยีไฮบริดที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อทุกคุณภาพของชีวิต
ก่อนอื่นเราขอพูดถึงแนวคิดที่มีชื่อว่า ‘ไคเซน’ (Kaizen) คือ แนวคิดหลักของโตโยต้าในการพัฒนารถยนต์อย่างต่อเนื่องในทุกๆ รุ่น ทั้งในด้านการออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ และสามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอยู่ทุกยุคทุกสมัย
ซึ่งแนวคิดในแบบ Kaizen นั้นถูกนำมาใช้ในแนวทางของโตโยต้า รวมถึงระบบ ไฮบริดใหม่ (New Hybrid) ที่เราจะพูดถึงในครั้งนี้
Hybrid is Cool
ไฮบริดใหม่ คือพลังงานไฟฟ้าที่ให้กับรถได้อย่างไม่มีวันหมด สะท้อนแนวคิดหลัง Kaizen ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ให้เป็นระบบที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น โดยปรับปรุงประสิทธิภาพในการชาร์จและการจ่ายพลังงานไฟฟ้าในที่ปริมาณที่มากขึ้นและเร็วขึ้น ทำให้สามารถใช้งานในโหมดพลังงานไฟฟ้าได้นานขึ้น แถมยังประหยัดเชื้อเพลงมากขึ้นอีกด้วย
ระบบไฮบริดใหม่นี้ นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของโตโยต้า ที่มีบทพิสูจน์ของความนิยมจากผู้ใช้จริงทั่วโลกกว่า 10 ล้านคัน
วันนี้โมเดลที่เราได้ทดลองนั่งนั้นคือรุ่น C-HR ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) คือ เทคโนโลยีโครงสร้างของรถที่ผสานการทำงานในทุกชิ้นส่วนให้เป็นหนึ่งเดียว ผลคือ การขับขี่ที่คล่องตัวและสนุกขึ้น และช่วงล่างที่ดีขึ้นทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ แต่ยังคงให้ความสบายทุกการขับขี่ของผู้ขับและการนั่งของผู้โดยสาร นอกจากนี้โครงสร้าง TNGA ยังรวมถึงการพัฒนาชิ้นส่วนของตัวถังรถให้มีความแข็งแรงมากขึ้นเพื่อความปลอดภัย และยังรวมไปถึงการออกแบบรูปแบบใหม่ ที่ทำให้รถยนต์โตโยต้าเป็นที่จับตามองเมื่อขับขี่
โดยครั้งนี้โตโยต้าได้พาเราเข้าร่วมกิจกรรมมากมาย เพื่อให้เข้าใจแนวคิดแบบ ‘ไคเซน’ (Kaizen) โดยทุกๆ กิจกรรม นอกจากที่แนวคิดหลักแล้ว ยังเกิดขึ้นเพื่อให้พวกเราได้เข้าใจถึง 4 แนวคิดหลักของโตโยต้าอีกด้วย
ประสบการณ์การเขียนตัวหนังสือด้วยพู่กัน
Calligraphy Experience :
“ศิลปะชั้นสูงที่ผสานแนวคิดแห่งการพัฒนา”
การเขียนตัวหนังสือด้วยพู่กันแบบญี่ปุ่น เป็นศิลปะชั้นสูงและดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนและปลูกฝังศิลปะนี้กับเด็กๆ เพื่อให้พวกเขาได้สืบสานวัฒนธรรมนี้ต่อไป
การเขียนตัวหนังสือด้วยพู่กันแบบญี่ปุ่นนี้ สื่อถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่น และความอดทนในการฝึกฝนอย่างยาวนาน ทุกการตวัดลายเส้นล้วนสะท้อนความละเอียดอ่อน ทั้งการจับพู่กัน น้ำหนักในการกด องศาในการเขียน รวมถึงสมาธิที่ตั้งมั่น ล้วนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ที่จะสร้างสรรค์คำหนึ่งคำที่มีความหมายที่สมบูรณ์ และทุกๆ การฝึกฝน ย่อมแสดงถึงการพัฒนาการที่ดีขึ้น จนเกิดความชำนาญ และได้เป็นงานชิ้นเอก (Masterpiece) ที่น่าภาคภูมิใจ
โดยภายในกิจกรรม พวกเราได้ลองเขียนคำว่า 和 ‘วะ’ ซึ่งแปลว่า ‘ความลงตัว’ สื่อถึงการผสมผสานกันของสิ่งต่างๆ อย่างกลมกลืน เฉกเช่น เทคโนโลยีไฮบริดที่ประสานการทำงานของพลังงานจุลกับพลังงานไฟฟ้าได้อย่างลงตัว และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
“Makes Ever Better … พัฒนาการอย่างต่อเนื่อง คือ หัวใจของ ไคเซน!”
โตโยต้าเองก็เข้าใจและเชื่อมั่นในปรัชญานี้อย่างถ่องแท้ และได้นำเอามาเป็นหัวใจหลักของการพัฒนารถยนต์มาอย่างยาวนาน โดยเรียกปรัชญานี้ว่า ‘ไคเซน’ (Kaizen) ซึ่งหมายถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้งเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
โตโยต้าใส่ใจทุกรายละเอียดการพัฒนาเทคโนโลยีทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคิดริเริ่ม ไปจนขั้นตอนการส่งมอบถึงมือลูกค้า เพื่อให้แน่ใจว่าผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ ทั้งนี้แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่อยู่ในการพัฒนารถยนต์เท่านั้น แต่ยังอยู่ใน DNA ของชาวโตโยต้า ที่มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเพื่อผู้บริโภคและขับเคลื่อนสังคมให้มีความสุขอย่างไม่หยุดยั้ง ผลคือ ความสุขที่มีอยู่ในทุกการขับขี่รถโตโยต้า (Mobility of Happiness)
ประสบการณ์การแต่งชุดประจำชาติกิโมโน
Kimono Wearing Experience :
“Quality of Japanese Craftsmanship
คุณภาพและความประณีต คือ สัญลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่น”
ชุดกิโมโน เป็นชุดประจำชาติของประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติอย่างยาวนาน และเป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่น สมัยดั้งเดิมชุดกิโมโนเป็นชุดที่ใส่กันทั่วไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปผู้ที่สวมกิโมโนในชีวิตประจำวันจะมีเพียงผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับศิลปะญี่ปุ่นแต่โบราณเท่านั้น หรือสวมใส่เฉพาะงานพิธีการต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานปีใหม่ เป็นต้น
หัวใจสำคัญของชุดกิโมโน อยู่ที่การตัดเย็บและการออกแบบลวดลาย ที่ต้องอาศัยทักษะชั้นสูงผสานกับความประณีตในการลงรายละเอียด เพื่อให้ได้ชุดกิโมโนที่มีคุณภาพและสวยงามทั้งผืน คนญี่ปุ่นพัฒนาเทคนิคการตัดเย็บเสื้อผ้าแบบใหม่ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่ อีกทั้งยังเลือกวัสดุที่เหมาะกับการสวมใส่ทุกสภาพอากาศ
นอกจากนี้ผู้ตัดเย็บจะคิดค้นหาวิธีผสมผสานลวดลายสมัยใหม่ที่ทำให้ชุดกิโมโนมีสีสันและรูปแบบที่หลากหลายและสวยสะดุดตา ทำให้ชุดกิโมโยยังคงเข้าถึงคนญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย และเหมาะสมกับยุคสมัย รวมถึงความต้องการของผู้สวมใส่อยู่เสมอ
ถึงแม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ชุดกิโมโนก็ยังคงไม่ละทิ้งความดั้งเดิมของคุณภาพในการตัดเย็บด้วยมือ และความประณีตของลวดลาย จนกลายเป็นมรดกล้ำค่าที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น
และนั่นคือ ‘แรงบันดาลใจ’ ที่ทำให้โตโยต้ายังคงเน้นความประณีตในทุกรายละเอียดการผลิตและออกแบบรถยนต์ รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้มีคุณภาพและเสถียรภาพสูง อีกทั้งยังคงทนต่อการใช้งานที่หลากหลายในระยะยาว
ผลคือ ความมั่นใจและความน่าเชื่อถือของรถยนต์และเทคโนโลยีของโตโยต้า ซึ่งเป็นจุดเด่นสำคัญที่โตโยต้ายังคงสืบทอดกันมาอย่างยาวนานและยังคงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตามยุคสมัย
“Passion That Passes Through Generation … คุณภาพและความประณีตยังคงสืบต่อในทุกเทคโนโลยีของโตโยต้า”
ประสบการณ์การร่วมพิธีชงชาและการผสมชาแบบญี่ปุ่น
Tea Ceremony & Tea Blend Experience :
“งดงามในทุกความเคลื่อนไหว ดั่งการแสดงชุดเยี่ยมยอด”
การดื่มชาเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอนเลยก็ว่าได้ วัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นนี้รับเข้ามาจากวัฒนธรรมจีน แล้วดัดแปลงให้เข้ากับรสนิยมจนกลายเป็นวัฒนธรรมของตนเองในที่สุด ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่นและเป็นที่สนใจของคนทั่วโลก
ชาญี่ปุ่นมีความพิเศษกว่าชาติอื่นๆ เนื่องจากความพิถีพิถันและเข้มงวดตั้งแต่ในการคัดเลือกใบชา จนไปถึงขั้นตอนในการชงซึ่งเป็นพิธีกรรมสำหรับชนชั้นสูง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามที่เรียบง่าย งดงามในทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหว ซึ่งสื่อถึงสุนทรียศาสตร์ของชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี โดยในกิจกรรมนี้ได้แบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมย่อย ได้แก่ วิธีการคัดเลือกและผสมชา และ พิธีการชงชา
“Mixology of the Perfect Taste … ศาสตร์แห่งการผสมผสานเพื่อความสมบูรณ์แบบแห่งรสชาติ”
วิธีการคัดเลือกชาและผสมชา
ชาที่นิยมนำมาบริโภคมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ‘เซนฉะ’ (Sencha) เป็นชาที่มีรสชาติอ่อนที่สุดและแพร่หลายอย่างมาก เนื่องจากวิธีการปลูกและดูแลที่ง่าย ‘คาบุเซนฉะ’ (Kabusencha) เป็นชาที่จะมีรสชาติเข้มข้นขึ้นมาอีกนิด และวิธีการเก็บเกี่ยวและดูแลรักษายากกว่าเซนฉะ (Sencha) โดยจะต้องเอาตาข่ายมาคลุมใบชาทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ถึงจะสามารถเด็ดใบชาได้เพื่อรักษาคุณภาพจากแมลงและสภาพอากาศ
สุดท้ายคือ ‘เกียวคุโระ’ (Gyokuro) เป็นใบชาคุณภาพที่ดีที่สุด และเป็นใบชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของชาวญี่ปุ่น รสชาติเข้มที่สุดและมีการเก็บรักษาที่ใช้เวลานานที่สุด โดยใช้ตาข่ายคลุมใบชาไว้เป็นเวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะสามารถเด็ดใบชาได้ ทั้งนี้วิธีการชงชาในแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไปตามลักษณะของแต่ละใบชา ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิของน้ำ ปริมาณของน้ำ หรือจะเป็นระยะเวลาในการชง
“Aesthetic of Beauty … ความสุนทรีย์และความงามที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับยุคสมัย”
วิธีดื่มคือ ยกถ้วยชาขึ้นมาด้วยมือขวาและวางลงบนฝ่ามือข้างซ้าย หมุนถ้วยชาเข้าหาตัว หลังจากดื่มเสร็จแล้ว ใช้ปลายนิ้วเช็ดขอบถ้วยชา และใช้ไคชิ (กระดาษรองขนม) เช็ดนิ้ว
แต่องค์ประกอบที่สำคัญของพิธีชงชาไม่ใช่แค่การชงและการดื่มชา สิ่งสำคัญอยู่ที่การชื่นชมคุณค่าและความงามของสิ่งต่างๆ เช่น ถ้วยชา เครื่องใช้ในพิธีชงชา ชื่นชมความงามของบรรยากาศรอบๆ ตัว และการสื่อประสานใจระหว่างเจ้าบ้านผู้ชงชาและแขกผู้มาเยือน จึงเป็นสาเหตุที่อยากให้ค่อยๆ จิบชาอย่างช้าๆ นั่นเอง
เดิมพิธีการชงชาจะปฏิบัติกันในวงสังคมชนชั้นสูง มีอุปกรณ์ที่มากมายและขั้นตอนที่ซับซ้อนและจะเกิดขึ้นภายในห้องพิธีชงชาเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน ถูกลดทอนขั้นตอนพิธีการและสถานที่ลง เพื่อความสะดวกของเวลาและความเหมาะสมกับที่อยู่อาศัยของชาวญี่ปุ่น ซึ่งมักจะปฏิบัติเฉพาะในงานวันเกิด หรือ เทศกาลสำคัญๆ ของขาวญี่ปุ่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ความงามและหลักการยังคงเป็น ศิลปะขั้นสูงที่ทรงคุณค่า ซึ่งถูกเก็บรักษาและถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น สะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดและวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นที่มีมาแต่โบราณ แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมานานแล้ว วิถีชีวิตนี้ยังคงสืบสานมาอย่างต่อเนื่องและประยุกต์เข้ากับโลกปัจจุบันอย่างลงตัว
นั่นคือเหตุผลที่โตโยต้าต้องการนำเสนอเทคโนโลยีแห่งการผสมผสานอย่างไฮบริดที่สืบทอดแนวคิดและพัฒนามาจนถึงรุ่นปัจจุบัน ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างพลังงานเครื่องยนต์กับพลังงานไฟฟ้าอย่างลงตัว โตโยต้าเชื่อมั่นว่า การประสานกัน ย่อมจะทำให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าและกำเนิดคุณค่าใหม่ที่ผู้บริโภคตื่นเต้นอยู่เสมอ และนั่นคือพลังงานไฮบริดใหม่จากโตโยต้า
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้เราเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น เราเรียนรู้และปรับปรุงพัฒนาเพื่อให้ยานยนต์ของโตโยต้านั้นตอบสนองและตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
เราทำให้พื้นที่ในห้องโดยสารเพิ่มมากขึ้น เราพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกสรรวัสดุอุปกรณ์ให้มีคุณภาพที่ดีที่สุด รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานให้คุ้มค่ามากที่สุดอีกด้วย
กล่าวคือ พลังงานที่เกิดขี้นจากการผสานกันของเทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้า ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนรถยนต์ให้มีประสิทธิภาพ แต่ยังให้ความสุนทรียทุกการขับขี่และให้คุณค่าใหม่กับชีวิตคุณอีกด้วย
ตลอดทั้งทริป พวกเราได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับนานาอาหารฟิวชั่น ที่ผสมผสานความกลมกลืนของวัฒนธรรมอาหารตะวันออกแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เข้ากับอาหารตะวันตกจากหลากหลายชาติได้อย่างลงตัวและน่าสนใจ
ไม่ว่าจะเป็นอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน–ญี่ปุ่น ที่ร้าน โซโด ฮิงาชิยามะ (Sodoh Higashiyama) ณ เมืองโอซาก้า หรืออาหารสไตล์ฝรั่งเศส–ญี่ปุ่น ที่ร้าน ฟอร์จูน การ์เดน เกียวโต (Fortune Garden Kyoto) ณ เมืองเกียวโต
ไฮไลท์สำคัญของอาหารในทริปนี้อยู่ที่ร้าน ฟุกุจุเอน เกียวโต ฮอนเตน (Fukujuen Kyoto Honten) ณ เมืองเกียวโต ที่นำเสนออาหารสไตล์โมเดิร์นเฟรชกับญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเอาไว้อย่างลงตัว
ยิ่งเมื่อได้รับรู้แนวคิดของเชฟผู้ปรุง ที่รังสรรค์เมนูอาหารที่เกิดจากการผสมผสานของวัตถุดิบแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น นั่นคือ ชาเชียว นำเสนอออกมาในสไตล์อาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย เกิดเป็นรสชาติใหม่ซึ่งไม่เคยมีแบบที่ไหนมาก่อนในญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ร้านอาหารนี้เป็นที่นิยมของทั้งหนุ่มสาวสมัยใหม่และชาวต่างชาติที่อยากจะลิ้มลองรสชาติรูปแบบใหม่นี้
“Perfect Fusion for Your Endless Energy … ประสานพลังงานที่สมบูรณ์แบบเพื่อขับเคลื่อนทุกชีวิต”
โตโยต้าตั้งใจเลือกสรรร้านอาหารฟิวชั่นสุดประทับใจเหล่านี้ เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริ
อีกทั้งยังคงรักษาหน้าตาและรสชาติอาหารที่เป็นอั
แนวคิดแบบ ‘ไคเซน’ (Kaizen)
กับการพัฒนาอย่างไม่รู้จบเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
คิดใหม่อย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีไฮบริดที่สร้างคุณค่าใหม่ให้ทุกชีวิต
โตโยต้าพยายามคิดค้นนวัตกรรมใหม่
—————
อยากสัมผัสเทคโนโลยี Hybrid engine รุ่นใหม่
ที่วันนี้เดินทางจากประเทศญี่ปุ่น มาถึงเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พบกับงาน Toyota Hybrid Discovery ที่ 3 เมืองใหญ่
• Central Festival Chiangmai วันที่ 7 -11 กุมภาพันธ์ 2561
• Central Chonburi วันที่ 23-27 กุมภาพันธ์ 2561
• Central World กรุงเทพฯ วันที่ 7-11 มีนาคม 2561
ติดตามข้อมูลและข่าวสารเพิ่มเติมจากโตโยต้า
facebook.com/toyotamotor.th
www.toyota.co.th
RECOMMENDED CONTENT
เรื่องราวของ Christopher Robin พาเรามาถึงช่วงเวลาที่คริสโตเฟอร์ โรบิ้น โตขึ้นและต้องเข้ามาทำงานในกรุงลอนดอน พร้อมภรรยาและลูกสาว เขาตรากตรำทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว แม้แต่วันที่เขาตั้งใจจะไปเที่ยวกับครอบครัวนอกเมือง แต่งานด่วนก็ดันเข้ามาทำให้เขาคิดหนักว่าจะเลือกงานหรือครอบครัวดี