วันนี้เรามีคอลัมน์ท่องเที่ยวแบบประหยัดงบมาฝากกัน เอาในงบประมาณ 20,000 บาท ที่เราเชื่อว่าคนทำงานเงินเดือนสามารถเก็บได้ไม่ยาก ถ้าคิดว่าจะไปเที่ยวประมาณ 3 วันถึง 5 วัน เราสามารถไปเที่ยวไหนกันได้บ้างนะ?

|
เที่ยว 20,000 บาทเลเวลระดับเบสิค
— อยู่แบบสบายๆ หลายวันใช้เงินเหลือแบบไม่เครียด
|

— พม่า —

อะ อะ อ้าว เพื่อนบ้านเพื่อนแท้ของเรา หลังจากที่เพิ่งเปิดประเทศปุ๊บ ก็มีนักท่องเที่ยวแห่กันเข้าไปชมความงามของพม่ากันปั๊บ ค่าตั๋วบินสู่พม่าถ้าจองล่วงหน้ากับสายการบิน Low-Cost มีตั้งแต่ 1,500 ไปจนถึง 2,500 บาท ค่ากินอยู่ของบ้านเขาก็ถูกกว่าบ้านเรา บวกลบไม่เกิน 50 บาท คือจริงๆ จะเรียกว่าเหมือนเที่ยวอีกจังหวัดของประเทศก็ไม่มีผิด

แต่รับประกันเลยว่าบ้านเมืองเขาจะผิดกับประเทศไทยทำให้เรา Amazing ได้ไม่น้อยเลยล่ะ ยิ่งถ้าคุณมีงบอยู่ 20,000 แบบนี้ เราขอแนะว่าให้ไล่เก็บนอกจากแลนด์ดิ้งย่างกุ้ง แล้วก็เดินสาย มัณฑะเลย์ พุกาม ได้เลย ซึ่งถ้าจะเดินทางในประเทศแบบ Domestic Flight บินระหว่างเมือง ก็อาจจะต้องใช้งบการกินอยู่ระวังหน่อย แต่ถ้าคุณเป็นคนลุยๆ มีเวลาเหลือเฟือ เราแนะนำเดินทางรถบัสในพม่า รับรองว่าสนุกชัวร์ๆ

— เวียดนาม —

เราออกสตาร์ทกันด้วยประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกันก่อน เวียดนามในงบ 20,000 บาทนี่ต้องเรียกว่ามีเหลือใช้ ไปได้ครบเลยจริงๆ เพราะหากไปเมืองเดียวประมาณสามวันสองคืน รวมค่าเครื่องบินแค่ 10,000 ต้นๆ ก็อยู่แล้ว ถ้าหากมีงบ 20,000 บาทอยู่ในมือแล้วอยากเที่ยวเวียดนามให้คุ้ม เราขอแนะนำให้เก็บเป็นภาคๆ ทีละสิบวันไปเลย เพราะทุกวันนี้ ถ้าตั้งใจหาตั๋วสายการบิน Low Cost กรุงเทพฯ–โฮจิมินห์ ก็เที่ยวละไม่ถึง 2,000 บาทได้แบบไม่ยาก ส่วนค่าเงินตอนนี้ไทยบาทตกอยู่ที่ประมาณ 650 ดอง (แต่ค่าครองชีพเขาใช้เงินกันเป็นหมื่นๆ แสนๆดอง) ค่าข้าวตีเป็นเงินไทยก็ประมาณไม่เกิน 100 บาทต่อหนึ่งมื้อ หรือที่พักก็สามารถหาได้ถูกๆ ตามพวกโอสเทล เช่นกัน เรียกว่าถ้าคุณมีงบอยู่ 20,000 บาทสามารถตะลอนเที่ยวไปแตะเวียดนามเหนือเลย หรือจะเก็บภาคใต้แบบเต็มๆ สัมผัสทะเลทรายมุยเน่ที่ตอนนี้คนกำลังนิยมกันได้แบบเต็มๆ ก็ย่อมได้

— มาเลเซีย —

สำหรับมาเลเซีย เมืองท่องเที่ยวที่ต้องนึกถึงเป็นที่แรกคงต้องเป็น ปีนัง มีสายการบินที่สามารถบินจากบ้านเราไปลงได้เลย ราคา Low-Cost ตกอยู่ที่ประมาณขาละ 2,500–3,500 บาท (หรือบางทีก็มีโปรฯ ราคาไม่ถึง 2,000 ถ้าคุณโชคดี) จากประสบการณ์ที่เคยไปมาแล้ว ปีนังเป็นเมืองน่ารักๆ ที่มีวัฒนธรรมอัดแน่นเต็มเปี่ยม ค่าครองชีพก็ราคาไม่แพงมาก ข้าวตกอยู่ที่จานละไม่เกิน 100 บาท (อาหารปีนังอร่อยโคตรๆ เพราะจะมีความผสมผสาน ทั้งจีน มาเลย์ อินเดีย) ส่วนที่พักมีทั้งระดับหรูและโฮสเทลที่คืนละไม่เกิน 500–1,000 ก็นอนสบายแล้ว จัดว่าถ้ามีพกไป 20,000 บาทสามารถกินอยู่สบายๆ หรือถ้าใช้แบบประหยัดเราเชื่อว่าอยู่ได้เป็นอาทิตย์เลยทีเดียว เพราะการเดินทางบนเกาะใช้บริการแต่รถเมล์ก็อยู่ ถ้าหากใครยังคิดว่า โอ้ย ค่าเครื่องบินจองเท่าไรก็ได้แต่แพงๆ ไม่สมใจ เราแนะนำลองหาบินในประเทศไปลงหาดใหญ่ แล้วต่อรถเข้ามาเลไป จะราคาถูกกว่า (แต่ใช้เวลานานขึ้นนะ) เผลอๆ เก็บตังค์ลงไปเที่ยวถึงกัวลาลัมเปอร์ หรือ พิชิตยอดเขา ‘โคตาคินาบาลู’ ก็ยังได้

—————

|
เที่ยว 20,000 บาทเลเวลระดับกลาง
—เริ่มอยู่แบบพอมีพอกิน ใช้มากก็ต้องมีอดใช้น้อยก็อยู่ได้ชิลล์ๆ
|

— สิงคโปร์ —

จริงๆ สิงคโปร์เป็นเมืองที่ค่าตั๋วเครื่องบินไม่ได้แพงอะไรเลย ถูกกว่าบาหลีเสียอีก แต่สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวหวาดกลัวต่อสิงคโปร์ก็คือ ‘ค่าครองชีพ’ ซึ่งจากที่เคยไปมาแล้วทั้งแบ็คแพ็คและไปเหมือนทัวร์ เรากลับมองว่าสิงคโปร์ไม่ใช่ประเทศที่ใช้จ่ายแพงอย่างที่คิด โอเคในช่วงที่มีโปรฯ เราสามารถจองตั๋วได้ในราคา 2,000 ต้นๆ แต่ราคาปกติ ตั๋ว Low-Cost จะอยู่ที่เที่ยวละ 2,500–3,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายโฮสเทลที่สิงคโปร์ ที่หาได้ต่ำๆ แล้วก็จะเรตประมาณ 700 บาท (แต่ถ้าหวังห้าดาวหรือระดับหรูของที่นี่ ก็คงถือว่าอยู่คนละสเต็ปกับงบ 20,000 ละ) ค่าข้าวทั่วไปอยู่ที่ประมาณมื้อละ 200 บาท (แนะนำทานอาหารตามศูนย์อาหารหรือ Hawkers ที่มีอยู่ทั่วไป มื้อละ 100–150 บาท) เพราะฉะนั้นก็ตีไว้เลย รวมค่าเดินทาง ใช้จ่ายน่าจะวันละ 1,500 บาท งบ 20,000 รวมค่าเครื่องแล้ว ก็ถือว่าอยู่ได้แบบกินมื้อโหดได้ ช็อปได้ แต่ฟู่ฟ่ามาก อาจจะหมดก้นเอาง่ายๆ เหมือนกัน

— บาหลี —

ไข่มุกเม็ดงามแห่งมหาสมุทรอินเดียนี้ มีค่าครองชีพและค่าเงินที่น่าคบหากับนักท่องเที่ยวงบประหยัดพอสมควร ค่าข้าวข้างทางจานละ 40 บาท ส่วนค่าที่พักย่านอูบุด สามารถหาแบบคืนละ 500 บาท นอนสบายๆ มีอาหารเช้าเสร็จสรรพเลยทีเดียว ทีนี้ปัญหามาอยู่ที่ค่าเครื่องบิน จากที่เราลองเช็คราคา Low-Cost มาตกอยู่ที่เที่ยวละ 3,000–4,000 บาทซึ่งก็ถือว่าถูกแล้ว (แต่รอโปรฯ ดีๆ ก็ไม่แน่ได้ถูกกว่านี้ประมาณสัก 2,000  ต่อคนก็ได้นะ) อย่างไรก็ตามถ้าคุณมีงบอยู่ 10,000 เดียว บาหลีอาจจะดูไปเที่ยวยาก แต่ถ้ามีไว้ในกระเป๋าไว้ 20,000 ล่ะก็ ที่นี่ก็คือสวรรค์บนดินดีๆ นี่เอง

— ฮ่องกง —

มาถึงประเทศที่เป็นขวัญใจนักช็อปทั้งหลาย เกาะฮ่องกง การจะเดินทางไปยังท่ีนี่เดี๋ยวนี้มีสายการบิน Low–Cost มากมายไว้บริการแล้ว ค่าตั๋วก็ตกอยู่ที่ประมาณขาละ 3,500–4,000 หรือบางทีพุ่งไปเป็น 5,000 กว่าบาทเลยก็มี แต่เชื่อเหอะว่าเราเคยเห็นตั๋วโปรฯ หรือช่วงวันที่ราคาลงพอดีประมาณแถวๆ 2,500 บาทก็มี ส่วนค่าครองชีพที่นี่ เงินดอลลาร์บ้านเขาแปลงเป็นเงินไทยอยู่ที่ 4 HKD ต่อ 1 THB ค่ากินตกอยู่ที่มื้อละ 150–300 บาท ค่าเดินทางวันละ 200+ บาท (เติมบัตรปลาหมึกคุ้มสุด) โรงแรมถ้าหาโฮสเทล หรือที่ไม่ต้องหรูหราอะไรมากก็ประมาณ 1,000–2,000 บาท (แต่ถ้าเป็น 3 ดาวขึ้นไป งานนี้มี 3,000+ ละ) ก็เรียกว่าถ้ามีงบ 20,000 บาท เราสามารถมาเยือนฮ่องกง 3 วัน 2 คืน ซื้อของสักถุงกลับไปบ้านได้หอมปากหอมคอ แต่ถ้าคิดจะช็อปแบบลืมตัวล่ะก็ อาจมีกินแกลบเอาได้ง่ายๆ เหมือนกัน ซึ่งถ้าใครมีความสามารถประหยัดและหาตั๋วได้ถูกจริงๆ อาจมีเงินเหลือไปเยือนดิสนีย์แลนด์ด้วยก็ได้~

— อินเดีย —

อินเดียเป็นประเทศที่ค่อนข้างกว้างมาก กว้างทั้งในแง่พื้นที่อาณาเขตและขอบข่ายการใช้สอย จริงๆ แล้วบางคนอาจจะมองว่าอินเดียในงบ 20,000 บาท สามารถไปเที่ยวได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าจะไปอินเดียทั้งที เราเชื่อว่าคุณต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็ประมาณ 5–7 วันเป็นอย่างต่ำ (3 วัน นั่งรถแป๊บเดียวก็กลับบ้านละ) ซึ่งค่าตั๋วหลังจากที่หลายสายการบิน เริ่มบินน้อยเส้นทางลง ทำให้ราคาเริ่มสูงขึ้น เรายกตัวอย่าง โกลกาตา เท่าที่ดู Low–Cost ก็อยู่ที่เที่ยวละ 4,500–6,500 บาท (โอ แม่เจ้า) แต่บางโปรฯ ที่นานๆ จะมีให้เห็นอาจจะเจอถูกแบบผิดคาดเลยก็ได้เช่นกัน ค่ากินอยู่ในอินเดีย อยู่ในระดับที่ไม่แพงมาก เอาแบบหากินสะอาด นอนสบาย เราเชื่อว่าวันละ 1,000 บาทก็อยู่ เพราะฉะนั้นถ้าวางแผนเส้นทางดีๆ จะรถไฟรถบัสภายในประเทศ เงิน 20,000 น่าจะใช้อยู่เกือบอาทิตย์ได้สบายๆ แต่ถ้าคิดจะบินภายในประเทศ เน้นเมืองไกลๆ เราว่าเริ่มยากล่ะ กับงบเท่านี้

—————

|
เที่ยว 20,000 บาทเลเวลระดับโหด
—ใช้คำว่า ‘จำเป็น’ ต้องเที่ยวแบบมนุษย์ประหยัด
|

— จีน —

ค่าเงินหยวนตอนนี้ 1 หยวน เท่ากับ 5 บาทบ้านเรา ส่วนค่าตั๋วขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากไปลงที่ไหน เพราะ Destination ของจากกรุงเทพสู่แผ่นดินจีนมีอยู่มากมาย แล้วราคาก็ไม่เท่ากันซะด้วย เมืองยอดฮิตอย่าง ปักกิ่ง คุนหมิง กวางโจว ค่าตั๋ว Low–Cost จะอยู่ที่ขาละประมาณ 5,500–7,500 บาท (แต่ตั๋วจะเต็มไวมาก) หรือถ้าคุณโชคดี คุณอาจจะได้ตั๋วโปรที่ราคาขาละไม่ถึง 4,000 บาท ก็ได้ ส่วนค่ากินมีหลายราคา ถ้าคุณเดินกินร้านข้างทาง แบบตักราด อยู่ตามซอย ก็ไม่ต่างกับไทยเลย จานละ 30–50 บาท หรือถ้าหากินง่ายๆ พวก 7–Eleven ก็ประมาณมื้อละ 100 บาท มีไปจนถึงขึ้นเหลานี่ก็… ครับ รู้กัน เอาเป็นว่าราคาส่วนใหญ่ของการเที่ยวจีนน่าจะไปหมดอยู่ที่ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว เอาแบบที่ยอดฮิต มีอย่างต่ำคนละ 1,000 บาทแน่นอน เราตีว่าใช้เงินวันละ 2,000 บาทไม่ขาดไม่เกิน ไป 3 วัน 2 คืน ลองตั้งใจหาที่พักที่ถูกๆ แล้วนอนได้ ก็น่าจะไหว แต่ต้องระวังการใช้จ่ายพอสมควรเลยล่ะ

— เกาหลีใต้ —

ซารางเฮโย! เกาหลีใต้ในงบ 20,000 บาทก็สามารถทำได้นะเพียงแต่ต้องวางแผนดีๆ ถ้าอยากอยู่แบบจัดเต็มสัก 5 วัน  สิ่งแรกที่ต้องทำให้ได้ก็คือ คุณต้องหาตั๋วเครื่องบินไป–กลับในราคาไม่เกิน 12,000 บาท ซึ่งค่อนข้างยาก เพราะ Low-Cost ปกติจะแกว่งอยู่ที่เที่ยวละ 7,500–8,500 บาท หรือถ้ามีโปรก็อาจจะมีตั้งแต่ 5,500 บาทขึ้นไป (ซึ่งจะโดนแย่งหมดไวสุดๆ) เพราะวันนึงค่าใช้จ่ายทั้งค่ากินและค่านอนน่าจะตกอยู่ที่  1,500–2,000 บาทแน่ๆ ซึ่งถ้าเกิดหาตั๋วถูกอย่างที่ว่าไปไม่ได้  เราเชื่อว่าคุณจะอยู่ได้ 3 วัน แบบพอดิบพอดี อ้อ ลืมบอกว่าราคากินนอนอันนี้ ต้องมีความบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกิดขึ้น แล้วก็ช็อปไม่ได้แล้วนะ ใครอยากไปสัมผัสเกาหลีแบบสไตล์แบ็คแพ็ก ก็ลองลุยดู

— ญี่ปุ่น —

ใช่แล้ว! หูไม่ได้ฝาดเลยจริงๆ ญี่ปุ่นแบบบุญโทนคนเดียวในงบ 20,000 บาทสามารถเป็นไปได้ (หรือเคยเห็นคนหนึ่งไปภายใน 15,000 บาทก็ยังทำมาแล้ว เก่งมากๆ !) ซึ่งคีย์สำคัญที่ทำให้ในยุคสมัยนี้เราสามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ในงบประหยัดก็คือ ‘ค่าตั๋วเครื่องบิน’ ตั้งแต่สายการบิน Low–Cost เริ่มมีญี่ปุ่นเป็นเป้าหมาย ก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเที่ยวกระเป๋าบางอย่างพวกเรา ตั๋วเครื่องบินถ้าเกิดเป็นตั๋วช่วงโปรแรงๆ สามารถลงไปถึงขาละ 3,000+ บาทได้เลย (แต่ต้องจองไวมากๆ เพราะคนรอราคาแบบนี้กันทั้งนั้น) ส่วนถ้าเป็นเรตปกติจะคล้ายๆ กันกับเกาหลีใต้ คือ 7,500–8,500 บาทต่อเที่ยว เหลือค่าเที่ยวประมาณไม่ถึง 4,000 บาท หลายคนทราบดีว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ค่าครองชีพสูงเสียดฟ้า แต่เชื่อไหมว่างบ 4 พันบาท เที่ยว 3 วัน 2 คืน สามารถทำได้ ถ้าลองหา Hostel ถูกๆ นอนคืนละไม่ถึง 700 บาท (Khaosan Tokyo เป็นเกสต์เฮาส์ยอดนิยม) ส่วนค่ากินก็ลุยมื้อละ 100 บาท จากพวกร้านแฟรนไชส์ข้าวหน้าเนื้อ หรืออาหารใน 7-Eleven หรือ Family Mart เรียกว่ากินอยู่วันละไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนที่เหลือเป็นค่าเข้าชม หรือค่าเดินทางก็พอได้ ข้อเสียคือคุณจะวนได้แค่โตเกียว หรือเมืองใดเมืองหนึ่งเท่านั้น แถมกินก็ไม่หนำใจแบบทีวีแชมป์เปี้ยน แต่ใครสนล่ะ  จริงไหม!? ชั่วโมงนี้ขอแค่ไปเหยียบญี่ปุ่น ถ่ายรูปสวยๆ ก็ฟินยิ่งกว่าฟินแล้ว!