เราคงเคยเห็นงานศิลปะที่หยิบจับเอาธรรมชาติต่างๆ มาไว้ในแกลเลอรี่ ทั้งยกป่า ยกเมฆ ยกลำธาร และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานศิลปะ ที่ยกทะเลมาไว้ในแกลเลอรี่มันเสียเลย!

ผลงานชิ้นล่าสุดของ Miguel Rothschild ศิลปินชาวอาร์เจนติน่านั้น แรงบันดาลใจไม่ได้มาจากเรื่องราวของธรรมชาติเสียทีเดียว แต่เขาดึงเอาส่วนหนึ่งของบทกวี และพระบทให้คัมภีร์ไบเบิ้ลมาใช้ในการทำงาน

ผลงานชิ้นแรกชื่อว่า ‘Elegy‘ ตั้งขึ้นจากบทกวีของ Jorge Luis Borges เผยให้เห็นถึงความเกรี้ยวกราดของโลกใบนี้ ผ่านท้องทะเลอันมืดดำและแปรปรวน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังจะถาโถมเข้าใส่เราในไม่ช้า เส้นเอ็นตกปลาจำนวนมหาศาลให้ความรู้สึกเหมือนฝนห่าที่กำลังตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่เมื่อมองจากอีกฝั่ง ทะเลที่แปรปรวนนี้ กลับกลายเป็นท้องฟ้าสีเทาทะมึน ภายใต้ท้องฟ้าคือเจ้าหมาที่นอนขดตัวงออยู่ท่ามกลางสายฝน

ชิ้นงานอีกหนึ่งชิ้นชื่อ ‘De Profundis‘ ที่ถูกติดตั้งคร่อมแท่นบูชาใจกลางโบสถ์ St. Matthew ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ชิ้นงานนี้คือทะเลแปรปรวนและคลื่นความยาว 8 เมตรที่ถูกแขวนโดยเอ็นตกปลาจำนวนกว่า 1,500 เส้น โดยอุปมาแทนบทร้องหนึ่งในคัมภีร์ไบเบิ้ลที่ว่า ‘From the deep, Lord, I call to you!’

ถ้าถามว่า Miguel Rothschild นั้นโดดเด่น และน่าจดจำผลงานของเขาจากประเด็นอะไร คำตอบก็คือ ชิ้นงานศิลปะของเขาส่วนใหญ่มันดึงเอาคาแร็กเตอร์ของ ‘ฝน’ มาเป็น element ในการผลิตชิ้นงาน

ชิ้นงานที่สร้างชื่อและทำให้ Miguel เป็นที่รู้จักก็คือ ‘The Tempest‘ กับภาพถ่ายสื่อผสมของท้องฟ้ากรุงเบอร์ลินในห้วงเวลาฝนตกหนัก และหลงเหลือร่องรอยของฝนไว้ที่หน้าต่าง ผลงานชิ้นนี้ได้รับการคัดเลือกให้จัดแสดงใน Jewish Museum อีกด้วย