โดดเด่นด้วยโบสถ์สูงชะลูด สถาปัตยกรรมแบบโกธิค เมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำไรน์ (Rhine) ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเยอรมนีแห่งนี้ มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ในแบบของโคโลจ์น (Cologne)
จากเมืองที่อดีตต้องพบกับผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่สอง โคโลจ์นเลยกลายเป็นเหมือนกับสองเมืองเก่าและใหม่มารวมกัน เขตเมืองเก่าก็ยังคงความดั้งเดิมเอาไว้อย่างดี และยังมีซีนศิลปะและอาหารท้องถิ่นที่แสนมีเสน่ห์ ส่วนเขตเมืองใหม่ก็มีงานสถาปัตยกรรมแนวโมเดิร์นจำนวนมาก และกลายเป็นอีกจุดหมายหนึ่งของเหล่าคนรักงานออกแบบสถาปัตยกรรม
#CITYGUIDE คราวนี้ ดู๊ดดอทขอพาคุณไปทำความรู้จักโคโลจ์นให้มากขึ้น ทั้งสถานที่เช็คอิน–กิน–ดื่ม–เที่ยว–ซื้อของ เราขอ selected มาให้คุณแล้ว เชิญมาทัวร์ไปด้วยกันเลย!
—————
// WHAT TO DO //
The Cologne’s Cathedral
สถาปัตยกรรมโกธิคที่สูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้อีกด้วย ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโคโลจ์นที่เห็นได้จากทุกมุมเมือง ว่ากันว่ายากยิ่งที่จะมีคนถ่ายรูปมหาวิหารแห่งนี้ได้หมดถ้าไม่เงยหน้าจนคอตั้งเพราะสูงชะลูด ภายนอกมีงานปูนปั้นและสถาปัตยกรรมที่งดงามในทุกเหลี่ยมมุม
ไฮไลต์กว่านั้นคือภายในวิหาร ที่นอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์รวบรวมเอาสมบัติล้ำค่าเอาไว้จำนวนหนึ่งแล้ว เมื่อเดินเข้ามาจนสุดโถงทางเดิน จะพบกับหีบทองคำนักปราชญ์สามคนที่โดดเด่นและงดงามมลังเมลืองมาแต่ไกล แต่อีกสิ่งที่เราไม่อยากให้คุณพลาดก็คืองานประดับกระจกสีสุดอาร์ตของศิลปิน Gerhard Richter ที่ปีกด้านใต้ของมหาวิหาร สามารถเข้าชมได้ทุกวันไม่มีวันหยุด เว้นเฉพาะช่วงพิธีกรรมทางคริสตศาสนาเท่านั้น
Museum Ludwig
สายอาร์ตไม่ควรพลาดมิวเซียมนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแฟนๆ ของ Picasso, Andy Warhols, Jackson Pollock, Piet Mondrian, Marcel Duchamp, David Hockney และอีกมาก เอาเป็นว่าถ้าคุณเป็นคอศิลปะ การได้มาดูผลงานจริงของศิลปินระดับตำนานของวงการศิลปะโลก ก็คือว่าคุ้มค่าในราคา 13 ยูโรแล้ว หรือถ้าไม่อินกับงานอาร์ต แค่ดูความหวือหวาของสถาปัตยกรรมด้านนอกก็น่าจะเพียงพอแล้ว ที่สำคัญ อยู่ไม่ไกลจากมหาวิหารโคโลจน์ด้วยนะเออ
—————
// WHERE TO EAT //
Balthasar
ร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารตลอดทั้งวันนี้ ตกแต่งในแนวอินดัสเตรียสที่รีโนเวทตึกเก่าแล้วใส่ความโมเดิร์นของเหล่าเฟอร์นิเจอร์เข้าไป ที่นี่เหมาะแก่การนั่งพักทานอาหารมื้อ brunch เพราะ egg benedict และแฮมรมควันของที่นี่อร่อยมาก!
Funkhaus
ส่วนถ้ามื้อเที่ยงยังอยู่แถวๆ มหาวิหารโคโลจ์น เราขอแนะนำให้มาลองแซลม่อนแฮชบราวน์ และอาหารท้องถิ่นของเยอรมนีอื่นๆ พลางจิบไวน์และรื่นรมย์ไปกับการตกแต่งร้านแนวอาร์ตเดคอร์ หรือถ้าวันไหนอากาศเป็นใจ ควรนั่งข้างนอกร้านและชมวิวยอดแหลมของมหาวิหารโคโลจ์นในวันฟ้าโปร่งได้อย่างสบายใจ
Café Feynsinn
สำหรับมื้อเย็นและมื้อดึก เราขอแนะนำร้านชิค บรรยากาศดี และมีอาหารแบบคอนเซ็ปต์ดีเสียหน่อย ที่ร้านนี้การันดีด้วยความเป็นผู้นำด้าน slow food ของเมืองโคโลจ์น แถมด้วยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในทุกกระบวนการ แนะนำ Lamb Tagine with Couscous ลักษณะคล้ายๆ ข้าวหมกเนื้อแกะ หอมกรุ่นเครื่องเทศ เป็น comfort food ที่แพร์กับไวน์แล้วเข้ากันได้ดีเยี่ยม
—————
// WHERE TO DRINK //
Fruh am Dom
ซีนกลางคืนของโคโลจ์นก็เหมือนกับเมืองท่องเที่ยวของเยอรมนีอื่นๆ คนเยอรมันนั้นดื่มเบียร์กันเป็นว่าเล่น แถมไม่อั้นด้วย มาที่โคโลจ์นต้องลอง เบียร์ยี่ห้อประจำเมืองอย่าง ‘Kolsch’ แต่ถ้าอยากพ่วงควมคึกคักเข้าไปด้วยต้องมาร้านนี้ พิกัดคือน้ำพุชื่อยาววว… ‘Heinzelmaennchenbrunnen’ ที่มีตำนานเกี่ยวกับนางฟ้าและเอลฟ์ รวมถึงสาเหตุที่ทำให้คนเยอรมันเป็นคนขยันขันแข็งมาจนถึงทุกวันนี้ อยากรู้มากกว่านั้น ต้องไปสัมผัสเอง
Shepheard
จบเบียร์แล้วก็ต้องต่อด้วยค็อกเทล! ถึงจะครบครันรสชาติความเป็นคนเยอรมัน ที่นี่จัดอยู่ในหมวดบาร์ค็อกเทลที่ดีที่สุดของโคโลจ์น บาร์ลับในชั้นใต้ดินแห่งนี้มีให้คุณหมดทุกรูปแบบเครื่องดื่ม ทั้งไวน์ แชมเปญ และแน่นอน ค็อกเทล ที่ของที่นี่โดดเด่นด้วยค็อกเทลหมวดทรอปิคัลฟรุ๊ต ผสมด้วยเครื่องเทศตะวันออก ใครชอบความสดชื่นแบบตื่นร้อนแล้วล่ะก็ ต้องโดน
—————
// WHERE TO SHOP //
Original Eau de Cologne
สำหรับคนชอบความคับคั่งและสินค้าแบบครบครัน ทุกคนในโคโลจ์นก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องไปถนน Schildergasse แต่ถ้าใครที่ชอบความ exclusive ต้องมาที่อาคารหมายเลข 4711 ถนน Glockengasse ที่นี่คือที่ตั้งของร้านขายน้ำหอมหนึ่งในแบรนด์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งเราแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า ถึงแม้แบรนด์จะเก่าแก่ แต่กลิ่นของน้ำหอมแบรนด์นี้นั้นทันสมัยในระดับที่เป็นน้ำหอมในดวงใจตลอดกาลของเหล่าสตรีหมายเลขหนึ่ง และนางแบบชื่อดังหลายคนเลยทีเดียว
—————
// FAST FACT //
• ภาษาหลักของโคโลจ์นคือเยอรมัน ส่วนค่าเงินหลักคือยูโร
• การเดินทางภายในเมืองที่ดีที่สุดของเมืองนี้คือเดิน เพราะที่เที่ยวส่วนใหญ่อยู่ไม่ไกลกันมาก
• เหมือนกับหลายๆ เมืองคลาสสิกของยุโรป การล่องเรือดูเมืองเป็นสิ่งที่ควรทำ ทัวร์ล่องแม่น้ำไรน์ของที่นี่ก็ถือเป็นฮอตฮิตกิจกรรม
• ซีนในเมืองเก่าโคโลจ์นนั้นสวยสะเด็ด จนกลายเป็นซีนถ่ายหนังหลายๆ เรื่องมาแล้ว ถ้ามีโอกาสเดินหลงแล้ว snap ภาพดูก็จะพบว่า เสน่ห์ของโคโลจ์นคือตรอกซอกซอยนี่แหละ
• หลายร้านอาหารในเมืองนี้เสิร์ฟเบียร์ Kolsch เป็นเหมือนซอร์ฟดริ้งค์ แก้วเล็กขนาด 200 มิลลิลิตร ถ้าคุณดื่มจนหมดบริกรจะยกแก้วใหม่มาเสิร์ฟทันที ถ้าคุณอยากพอ ก็เพียงแค่เอากระดาษรองแก้วมาปิดเสีย เป็นธรรมเนียมเล็กๆ ที่ทุกคนในเมืองนั้นรู้กันว่าคุณดื่มมากพอแล้ว
—————
และเมืองโคโลจ์น แห่งประเทศเยอรมนีนี้ คือหนึ่งในจุดหมายสำคัญ ที่ผู้เข้าร่วมทริป The Ultimate BMW M Track Experience – Nürburgring จะได้ไปสัมผัสความงดงามอลังการของมหาวิหารแห่งโคโลจ์น พร้อมด้วยไฮไลต์เอาใจคนรักความเร็ว ทั้งการเยี่ยมชม BMW Welt & Museum อาณาจักรยนตรกรรมที่รวมทุกนวัตกรรมของ BMW เอาไว้มากที่สุด รวมถึงการได้เข้าร่วมอบรมระดับเฟิร์สคลาสและทดสอบการขับขี่รถยนต์ทั้ง BMW และ Mini ที่ BMW Driving Academy Maisach
แต่ที่เล่นเอาเราอิจฉาที่สุดเห็นจะเป็น ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต กับการขับรถ BMW M4 ในสนามแข่งขันนูร์เบอร์กริง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่ขับยากที่สุดในโลก แถมยังเป็นความใฝ่ฝันของเหล่าผู้มีใจรักความเร็วอีกด้วย
—————
โดยทริป The Ultimate BMW M Track Experience – Nürburgring จะเปิดให้สมาชิกโปรแกรม The Ultimate JOY Experience จองได้ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนนี้ ที่ www.bmwultimatejoy.com
เจ้าของรถ BMW ทุกท่านสามารถสมัครสมาชิกโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ได้ฟรี ที่ www.bmwultimatejoy.com
และสามารถติดตามรายละเอียดและข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : BMWultimateJOY
#TheUltimateBMWMTrackExperience #Nürburgring #BMWUltimateJOY #TheUltimateJOYExperience #BMWPrivilege
RECOMMENDED CONTENT
“MALEE” เดินหน้าพลิกโฉมภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ผลไม้กระป๋องให้มีความทันสมัย หลังได้รับความสำเร็จจากการเปิดตัวผลไม้กระป๋องสูตรหวานน้อยลงกว่าสูตรปกติ 40% แคลอรี่ต่ำ และปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำกว่าสูตรปกติประมาณ 35% ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนทำงาน ประชาชนทั่วไป ทุกเพศทุกวัย