เมื่อเทรนด์ของโลกเปลี่ยนแปลง งานออกแบบก็เป็นหนึ่งในแขนงศิลปะที่หนีไม่พ้นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปในวงจรนี้ด้วยเช่นกัน แต่แล้วพอเวลาผ่านไป ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวพิสูจน์ว่างานออกแบบชิ้นไหนที่ยังคงอยู่เหนือกาลเวลา ไม่สูญหายไป ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่และไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคนี้ได้อย่างน่าทึ่ง เช่นเดียวกันกับการออกแบบที่พักอาศัย ที่หากใส่ใจ และคัดสรรงานออกแบบให้ได้มากที่สุด ก็จะทำให้ที่พักอาศัยแห่งนั้นสามารถคงอยู่เหนือกาลเวลาได้เช่นกัน ซึ่งเราจะพาคุณไปทำความรู้จัก ว่างานออกแบบใดบ้างที่ทำให้คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง สามารถบอกตัวเองได้ว่าเป็น Timeless Design ที่สวยงาม 

ใช้งานออกแบบสไตล์ Palladian Architecture

อิทธิพลของตึกรามบ้านช่องสไตล์ Neoclassical ที่เฟื่องฟูมากในประเทศอิตาลี ส่งผลให้เกิดแขนงย่อยของงานออกแบบให้ตามมาอีกมากมาย รวมทั้งสถาปัตยกรรมแบบ Palladian โดยสถาปนิก Andrea Palladio ซึ่งกำเนิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ด้วยแนวคิดของ Palladian ได้เเรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของกรุงโรม ยังคงมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูโคโลเนียลอยู่เต็มๆ และเป็นงานออกแบบที่มีกฎตายตัว หนึ่งในนั้นคือการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ตามแบบงานออกแบบดั้งเดิมที่ต้องมีความสมมาตรกัน โดยในอดีตเราจะเห็นสถาปัตยกรรมแบบนี้ในการก่อสร้างพระราชวัง หรือสถานที่สำคัญทางราชการต่างๆในยุโรปเท่านั้น

อิทธิพลของสถาปัตยกรรม Palladian กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับ ‘The Diplomat 39’ คอนโดมิเนียมใจกลางสุขุมวิทที่ถอดแบบความคลาสสิกของสถาปัตยกรรมยุโรป นำมาผสมกับความโมเดิร์นจนกลายเป็นมากกว่าที่พักอาศัย เพราะเมื่อใดก็ตามที่มองเข้าไป เราจะเห็นความสวยงามแบบร่วมสมัยที่แตกต่างและโดดเด่นออกมา จนทำให้เชื่อได้ว่า ไม่เวลาจะผ่านไปนานเท่าไร สิ่งปลูกสร้างนี้จะคงความสวยงามเหนือกาลเวลาแน่นอน

ใช้งานออกแบบที่เน้นความเข้ากันได้ของยุคสมัย จนเกิดเป็น Contemporary Design

เพราะความสวยงามใดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความผสมผสาน ยิ่งผสมผสานระหว่างความคลาสสิกเพื่อให้เกิดการคงอยู่ และผนวกกับความโมเดิร์น ที่หมายถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ก็ย่อมทำให้มันคงอยู่ได้ตลอดไป 

The Diplomat 39 คือตัวอย่างที่สะท้อนความงามร่วมสมัยนี้อย่างชัดเจน โดยรูปแบบโครงสร้างอาคารด้านล่าง ได้แรงบันดาลใจมาจาก Palladian Architecture ที่สร้างกลิ่นอายความคลาสสิก และในส่วนอาคารด้านบนตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไป เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมที่โมเดิร์น สร้างความสวยงามได้อย่างลงตัว รวมไปถึงฟังก์ชันห้องต่างๆ ก็เต็มไปด้วยการดีไซน์ที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย และเหมือนได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

ใช้งานออกแบบที่มุ่งเน้น Craftsmanship ให้กับการตกแต่ง 

งานคราฟต์ ไม่ใช่เพียงแค่หมายถึงงานทำมือ  แต่เป็นการออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียด และให้เวลากับการสร้างสรรค์อย่างประณีต ละเอียดลออ เพื่อเกิดเป็นงานศิลปะที่สวยงาม ซึ่งงานคราฟต์เหล่านี้ปรากฏให้เราเห็นแทบจะทุกส่วนในโครงการ The Diplomat 39 และแต่ละสิ่งล้วนเต็มไปด้วยความหมาย และเรื่องราวที่เรานึกไม่ถึงจริงๆ 

‘ทางเข้าประตูมิติแห่งกาลเวลา’ สถาปัตยกรรมที่ตั้งตระหง่านหน้าโครงการ และกลายเป็จุดแลนด์มาร์กที่ใครเดินผ่านไปมา ต้องหยุดถ่ายรูป นี่ไม่ใช่เพียงแค่งานสถาปัตยกรรมทั่วไป หากเป็นงานที่สื่อความหมายว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกล้วนต้องผ่านช่วงเวลาของการสรรค์สร้าง ที่นี่ก็เช่นกัน ของทุกชิ้น งานทุกสิ่ง ล้วนต้องผ่านเวลาของการคิดและปลูกปั้นมาทั้งสิ้น เพราะนั่นคือความหมายของความสวยงามที่แท้จริง

งานคราฟต์ชิ้นอื่นๆที่สะดุดตา อย่างเช่นหิน Limestone กลึงด้วยมือ แชนเดอร์เลียร์เป่ามือ หรือแม้กระทั่งงานตกแต่งฝ้าเพดานด้วยแผ่นทองคำเปลวด้วยการแปะมือชิ้นต่อชิ้น

สิ่งเหลานี้จึงเป็นคำตอบ ว่าทำไม ความคราฟต์จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ที่พักอาศัยแห่งหนึ่งอยู่เหนือกาลเวลาได้ นั่นก็เพราะความละเอียดละออ ความประณีต เป็นสิ่งที่ไม่ได้คงอยู่ด้วยรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียว หากคงอยู่ด้วยคุณค่าที่เกิดขึ้นภายใน และคุณค่านั้นไม่มีวันตายไปตามกาลเวลานั่นเอง

และทั้งหมดนี้เอง คือสิ่งที่ทำให้คอนโดมิเนียม The Diplomat 39 กลายเป็นสมบัติเหนือกาลเวลาของทำเลสุขุมวิท 39 แห่งนี้ ที่หากใครได้ครอบครองก็สามารถภูมิใจที่จะส่งต่อให้ลูกหลานต่อไปได้

The Diplomat 39
สุขุมวิท 39