วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัลระดับโลกโดยคนไทย ผู้นำเฟสติวัลที่ชดเชยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เริ่มนับถอยหลังกับการเฉลิมฉลองศิลปะและวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ด้วยการประกาศไลน์อัพเฟส 2 อัดแน่นด้วยการแสดงดนตรีและศิลปะหลากหลาย อาหารชั้นเลิศ กิจกรรมเพื่อสุขภาพรูปแบบใหม่ และกิจกรรมสำหรับครอบครัวอีกมากมาย รวมเป็นประสบการณ์พิเศษที่จะเกิดขึ้นในบ้านแห่งใหม่ รายล้อมไปด้วยโครงสร้างสถาปัตยกรรมสุดสร้างสรรค์สะท้อนความยั่งยืน
ต่อเนื่องจากการประกาศย้ายสถานที่จัดงาน บนพื้นที่ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น วันเดอร์ฟรุ๊ตพร้อมเดินหน้าสร้างสรรค์เฟสติวัลที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยในปีนี้ได้ผสานรวมเอาประสบการณ์อันหลากหลาย มานำเสนอผ่านงานสถาปัตยกรรม ซึ่งสะท้อนแนวคิดสร้างสรรค์ พร้อมพิสูจน์ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่าความยั่งยืนและไลฟ์สไตล์สามารถไปด้วยกันได้
สำหรับเฟส 2 วันเดอร์ฟรุ๊ตเพิ่มไลน์อัพศิลปินจากทั่วโลก เจาะจงเลือกดนตรีหลากหลายแนวตอบโจทย์ทุกอารมณ์ เดอะ ควอรี (The Quarry) แลนด์มาร์กหลักที่คอดนตรีตั้งตารอ พื้นที่จะถูกแปลงโฉมใหม่โดยกลุ่มสถาปนิกแถวหน้าของเมืองไทย (all)zone ที่ใช้การออกแบบด้วยระบบโครงสร้างโมดูลาร์อิงตามรูปทรงเรขาคณิต โดยใช้วัสดุหลักจากการรีไซเคิลเสื่อใช้แล้วมาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน ทำให้ดีไซน์มีความยืดหยุ่นและพับได้ สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงเพื่อตกแต่งตามสภาพแวดล้อมของพื้นที่ และความพิเศษของปีนี้ วันเดอร์ฟรุ๊ตเตรียมต้อนรับเจ้าพ่อแห่งวงการเพลงใต้ดินของอังกฤษ Craig Richards ที่จะกลับมาอีกครั้งในฐานะผู้ออกแบบโปรแกรมดนตรีในเดอะ ควอรี่ วันเดอเรอร์เตรียมออกสเต็ปท่วงทำนองของดนตรีที่หนักแน่นจาก Margaret Dygas และดนตรีแดนซ์นอกกระแสเปี่ยมสไตล์จาก Felix Dickinson หรือจะนั่งโยกตัวตามจุดพักท่ามกลางทิวไม้ในโซนชิลเอาท์ ไปกับเสียงดนตรีจาก Bobby Pleasure, Saoirse, Midland, Radioactive Man (Live) และ Mathew Jonson (Live)
อีกหนึ่งไฮไลท์กับ โซลาร์ สเตจ (Solar Stage) ศูนย์กลางความสนุกที่จะกลับมาพร้อมการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของโครงสร้างเป็นครั้งที่ 3 โดย Gregg Fleishman ศิลปินผู้ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านแนวคิดและการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ก้าวล้ำและยั่งยืน กับซิกเนเจอร์การใช้ระบบโครงสร้างโมดูลาร์ตามรูปแบบเรขาคณิต ด้วยการนำแผ่นไม้มาวางขัดกันเหมือนจิกซอว์ เพื่อให้เหล่าวันเดอเรอร์ได้สำรวจ เต้นรำ ปีนป่ายไปตามชิ้นส่วนต่างๆ ของโครงสร้างอย่างอิสระ โซลาร์ สเตจ คึกคักตั้งแต่อาทิตย์อัสดงจนถึงรุ่งสาง ด้วยเสียงเพลงจากไลน์อัพศิลปิน ไล่เรียงตั้งแต่ Nicolas Lutz, Louis Cole, Stars and Rabbit และ NJWA
และด้วยขนาดพื้นที่จัดงานที่ใหญ่ขึ้น ในปีนี้เหล่าวันเดอเรอร์จะได้สัมผัสประสบการณ์ด้านศิลปะรูปแบบใหม่ไปด้วยกัน เตรียมตัวตกตะลึงไปกับโครงสร้างสถาปัตยกรรม และผลงานอินสตอลเลชั่น ที่ออกแบบมาให้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติที่รายล้อม สร้างสรรค์โดยศิลปินชาวไทยและต่างชาติ เพื่อให้แรงบันดาลใจและตอกย้ำแนวคิดด้านความยั่งยืน
ต้อนรับอีกหนึ่งเวทีใหม่ เธียร์เตอร์ สเตจ (Theatre Stage) ผลงานของ Mpdstudio กับสถาปัตยกรรมไม้ไผ่ที่ออกแบบเพื่อให้ผสานกับสภาพแวดล้อมของโลเคชั่นริมทะเลสาบ ทำให้เธียร์เตอร์ สเตจ เป็นอีกหนึ่งสปอตที่เหล่าวันเดอเรอร์จะได้ดื่มด่ำภาพความงามยามดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า พบกับศิลปินชาวไอซ์แลนด์ Sóley กับเสียงเพลงที่บรรเลงจากเครื่องดนตรีหลากชนิด กลุ่มศิลปินชาวไทย Costlywood อีกทั้ง Peter Broderick และ Knower
ด้าน Ab Rogers นักออกแบบชื่อดังจากลอนดอน ผู้อยู่เบื้องหลังโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจจำนวนมากในวันเดอร์ฟรุ๊ตปีนี้ ไฮไลท์อย่าง Eco Pavilion กับดีไซน์ที่ตกแต่งด้วยร่มแฮนด์เมดทำจากฝ้าย 100 คัน บ้านหลังใหม่ของโปรแกรม Scratch Talks แพลตฟอร์มที่เปิดต้อนรับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เพื่อแบ่งปันและเล่าประสบการณ์ต่างๆ ให้กับเหล่าวันเดอเรอร์ และ Theatre of Feasts กับคอนเซ็ปต์ circling flows วันเดอเรอร์จะได้ดื่มด่ำกับมื้ออาหารผ่านรูปแบบการนำเสนอที่แปลกออกไป โดยเหล่าเชฟชื่อดัง จะมาแสดงฝีมือปรุงอาหารในครัวรูปแบบเปิด จากศูนย์กลางที่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุม
โปรเจ็ค In the Eyes of the Animal โดย Marshmallow Laser Feast ประสบการณ์ชมภาพเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยี VR วันเดอเรอร์สามารถสวมชุดหูฟังที่วัสดุทำจากไม้ เพื่อเข้าไปท่องชมทัศนียภาพของป่าผ่านสายตาเหล่าสัตว์ป่านานาชนิด
นอกจากนี้ วันเดอเรอร์ที่มองหากิจกรรมสบายๆ เตรียมพบกับ Bath House พื้นที่ใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายและเรียนรู้วัฒนธรรมการชำระล้างร่างกายรูปแบบต่างๆ ขณะที่ Silent Room มอบบรรยากาศที่เงียบสงบ ให้เหล่าวันเดอเรอร์ได้ลองฝึกสมาธิให้ดียิ่งขึ้น รวมถึง Wonder Garden ศูนย์กลางของกิจกรรมที่จะช่วยมอบสมดุลให้แก่ร่างกายและจิตใจ
วันเดอร์ฟรุ๊ต ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย ที่จะทยอยประกาศเพิ่มเติมเร็วๆ นี้
วันเดอร์ฟรุ๊ต 2018 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 16 ธันวาคม 2018 ณ เดอะฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา ราคาบัตรเฟส 2 ประเภท 4 วันเต็ม เริ่มต้นที่ 5,800 บาท ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อบัตร และการจองที่พักได้ที่เว็บไซต์ของวันเดอร์ฟรุ๊ต
RECOMMENDED CONTENT
เรื่องราวต่อจาก ภาค3 Parabellum ด้วยราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตำนานอย่าง John Wick จึงต้องต่อสู้กับ High Table กับเรื่องราวการต่อสู้ของวงการใต้ดิน ตั้งแต่นิวยอร์ก ปารีส ญี่ปุ่น ไปจนถึงเบอร์ลิน